ทันทีที่ความจริงปรากฏออกมาว่า LINE MOBILE คือแบรนด์ที่ 2 ของดีแทค ก็ช่วยคลายข้อสงสัยในทุกสิ่งที่ทั้งนักข่าวและคู่แข่ งในวงการโทรคมนาคมต่างตั้ งคำถามไว้อย่างมากมาย
รวมไปถึงสามารถสร้างความชั ดเจนให้กับตัวลูกค้า หลังจากก่อนหน้านี้อาจจะมีข้ อสงสัยที่มากมายถึงเบื้องหลั งของน้องใหม่แบรนด์นี้
Thereporter.asia ได้เขียนถึง LINE MOBILE ไปเมื่อตอนเปิดตัวว่าเท่าที่ดู จากรูปการณ์แล้วก็นึกถึงแบรนด์ อย่าง Happy แบรนด์ดังในอดีตของดีแทคอยู่ไม่ น้อย และก็เรียกได้ว่าเป็นเช่นนั้ นจริงๆ
แต่การสร้างแบรนด์ที่ 2 ในครั้งนี้ไม่เหมือนกับแบรนด์เดิมที่ได้ยุติการทำตลาดไป เพราะตั้งใจที่จะตอบสนองความต้ องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทั ลที่ทุกสิ่งจะสามารถทำได้ บนสมาร์ทโฟน
และเป็นที่มาของกลุ่มธุรกิจใหม่ อย่างกลุ่มดิจิทัล ที่มี แอนดริว กาวาลเซท รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มดิจิทัล บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอนมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เป็นผู้ดูแล ซึ่งรวมไปถึงแบรนด์ LINE MOBILE นี้ด้วยเช่นกัน
แอนดริว กล่าวว่า กลุ่มดิจิทัลของดีแทคนี้เกิดขึ้ นมาเพื่อตอบสนองความต้ องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป เพราะมองเห็นว่าในขณะที่ผู้บริ โภคมีความต้องการสูงมากในเรื่ องการใช้งานโซเชียลมีเดีย
แต่ผู้ประกอบการยังตามไม่ทันกับความต้องการดังกล่าว โดยพบว่าในอุ ตสาหกรรมโทรคมนาคมมี ยอดขายออนไลน์แค่ 5% และน้อยกว่า 15% ของการบริการลูกค้าทำผ่านช่ องทางออนไลน์ จึงก่อให้เกิดแนวคิดที่จะพั ฒนารูปแบบของดิจิทัลที่ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ อย่างแท้จริง
“เมืองไทยมีความน่ าจะประหลาดใจมากเพราะมี ความแอคทีฟในโซเชียลมีเดียสู งมาก อยางเช่นมีผู้ใช้งานไลน์ 41 ล้านรายในไทย สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก”
“ส่วนเฟซบุ๊กมีคนใช้งานต่อวันถึง 32 ล้านราย ยูทูป 28 ล้านราย และสูงติด 10 อันดับการเข้าใช้งาน ส่วนอินสตราแกรมก็มีถึง 11 ล้านแอคเคาท์ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่ าการเข้าสู่ดิจิทัลคือสิ่งที่ผู้ บริโภคต้องการ”
กลุ่มดิจิทัล ของดีแทคจะโฟกัส 5 ช่องทาง
1.บริการแอปพลิเคชัน
2.ช่องทางการขายผ่านออนไลน์
3.การสื่อสารกับลูกค้า
4.กลยุทธิดิจิทัล
5.การลงทุนในธุรกิจใหม่
อย่างเช่นดีแทคแอคเซอเรเลท และไลน์โมบายที่ถือเป็นการลงทุนในการสร้างแบรนด์ใหม่ที่อยู่ ในดีแทคไตรเน็ต (DTN) โดยจะมีอิสระทางด้านการบริหาร เพื่อแข่งขันกันเองกับแบรนด์ดี แทค
แอนดริว กล่าวว่า การเปิดแบรนด์ใหม่ดังกล่าวเป็ นอีกความพยายามจะสร้างบริการที่ ดีกว่าให้กับลูกค้า โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้ า อย่างเช่น ความสะดวกทางด้านความต้ องการออนไลน์ มีราคาที่ไม่ซับซ้อนไม่ เยอะและถูกกว่า เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันของไลน์ ในการรับบริการ
เป็นบริการที่ดีกว่าแต่ถูกกว่า สะท้อนให้เห็นความเป็นไลน์ โมบายที่จะให้บริการฟรีไลน์ โดยไม่คิดการใช้งานดาต้า
“ดีทีเอ็นเป็นเจ้าของไลน์โมบาย และดูแลโดยดีทีเอ็น และแข่งขันกับดีแทคแบรนด์ด้วยการให้บริการ ทีมทั้ง 2 ทีมนี้จะไม่มีการสื่อสารกัน ไม่ได้ทำงานร่วมกัน ทำงานแยกกันโดยชัดเจน แข่งขันกันเพื่อสร้างบริการที่ ดีที่สุดให้กับลูกค้า”
ทั้งนี้การมีแบรนด์ที่ 2 ที่อยู่บนเครือข่ายเดียวกันนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะในปัจจุบันมีผู้ให้บริ การประเภทมีโครงข่าย (MNO) ประมาณ 260 รายทั่วโลกก็ให้บริการในแบบเดี ยวกันนี้
เป็นแบรนด์ใหม่ที่ไม่ใช่ของที่ เหมือนกันแล้วใช้ชื่อต่างกันแล้ วนำมาให้บริการลูกค้า เพราะทุกอย่างต่างกันสิ้นเชิงทั้ งวิธีการขาย ช่องทาง และการตลาดที่ต่างกัน
ทางด้านรายได้นั้น เงินทุกบาทที่ได้จากไลน์โมบายก็คือรายได้ของดีทีเอ็น ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ต้องจ่ายให้รัฐก็จ่ายเท่าเดิ ม เพราะอยู่บนดีทีเอ็นทั้งหมด ไม่ได้ทำให้รัฐได้เงินน้อยลงเลย เสมือนได้รายได้จากดีแทค
ซึ่งดีแทคต้องจ่ายค่าอนุญาตให้ ใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้า (Royalty Fee) ให้กับไลน์อีกทางนึง ส่วนทางด้านราคาที่ถูกกว่านั้น เพราะ LINE MOBILE ไม่มีออฟฟิศ ไม่มีค่าใช้จ่ายเหมือนออฟฟิศทั่ วไป ทำให้ไม่ต้องเสียค่าโอเปอเรชั นต่างๆ จึงตั้งราคาได้ถูกกว่า
การเคลียร์ชัดเจนแบบนี้น่ าจะทำให้ลูกค้าที่ยังลังเลว่ าจะใช้งานหรือไม่ น่าจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และทำให้ข้อกังขาที่อาจจะเกิดขึ้ นเพราะความสงสัยหรือกลัวว่ารั ฐจะเสียรายได้
หรือแม้แต่ข้อกังขาที่สร้างขึ้นมาเพื่อขัดขาทำให้ธุรกิจสะดุ ดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ตาม คงได้ข้อยุติลงสักที เพราะงานนี้ไม่มีอะไรในกอไผ่ เลยจริงๆ มีแค่ไอน้ำที่ขึ้นมาบังกระจกเท่ านั้น พอเช็ดออกแล้วก็มองได้ชัดเหมื อนเดิม