ZeeNung ผู้นำเข้าวาไรตี้บันเทิงจากอินเดีย ทุ่มงบกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ พลิกโฉมสู่ฟรีทีวี เดินหน้าสู่เป้าหมายเบอร์ 1 คอนเทนต์อินเดียในไทย ยกขบวนความสนุกสุดอลังการ ทั้งซีรีส์สุดฮอตรายการวาไรตี้หลากหลาย และภาพยนตร์ดังมากมาย มาสร้างความบันเทิงแบบครบรสที่ส่งตรงถึงชาวไทยตลอด 24 ชั่วโมง
อามิต โกเอนก้าประธานบริหาร ฝ่ายพัฒนาธุรกิจบรอดคาสท์ระหว่างประเทศ เครือเอซเซลกรุ๊ปกล่าวว่า ด้วยความเชื่อมโยงกันในด้านศาสนาและวัฒนธรรม ระหว่างประเทศอินเดีย และประเทศไทยที่มีมาอย่างยาวนานจึงเชื่อมั่นว่าคนไทยจะเปิดใจรับคอนเทนต์ และความบันเทิงที่สร้างสรรค์จากฝั่งอินเดีย ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายทางวัฒนธรรมที่โดดเด่น สวยงาม ผนวกกับความตระการตา เหนือจินตนาการได้ไม่ยากนัก
การขยายตลาดในต่างประเทศของบริษัท ได้เริ่มทำการขยายตลาดมา 10 กว่าปีแล้ว โดยเริ่มที่ตะวันออกกลาง หลังจากนั้นก็เล็งเห็นเรื่องของคอนเทนส์อินเดียกับคนไทย ว่าคนไทยกับคนอินเดียมีความเหมือนกันหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม หรือเรื่องของภาษา เนื่องจากภาษาไทยได้รับมาจากภาษาสันสกฤต เลยทำให้เห็นว่าน่าจะเป็นโอกาสที่ดี ที่จะนำคอนเทนส์ของอินเดียเข้ามาในไทย เพราะได้ประสบความสำเร็จมากจากตลาดต่างประเทศก่อนแล้ว
โดยในช่วงแรกช่องซีหนังเข้ามาทำการตลาดโดยเน้นไปในส่วนของหนังโดยเฉพาะ แต่หลังจากทำการตลาดมา2-3 ปี จึงได้รู้ว่าคอนเท้นต์หนังอย่างเดียวคงไม่พอ ถ้าจะขยายต่อไปจะต้องทำคอนเท้นต์อื่นๆ ให้มากขึ้น เราอยากให้ผู้ชมติดตามชมในทุกๆวัน โดยการจะทำให้ผู้ชมติดตามช่องซีหนังในทุกๆวัน จึงได้วางกลยุทธ์ขึ้นมา 2 อย่าง คือ 1.ปรับเปลี่ยนจากระบบเพย์ทีวี (Pay TV) สู่การเป็นฟรีทูแอร์ 2.การนำเอาคอนเท้นต์ซีรีส์หรือละครเข้ามา เมื่อในช่องมีซีรีส์และละคร ผู้ชมก็จะมีเพิ่มมากขึ้นกว่าจากเดิมที่มีแค่คอนเทนต์หนังเพียงอย่างเดียว
ซึ่งตอนนี้คอนเทนต์เปลี่ยนไปคือมีทั้งซีรีส์และวาไรตี้โชว์เกี่ยวกับการทำอาหาร การสอนโยคะ และเร็วๆนี้จะมีการประกวดเต้นในประเทศไทย ชื่อว่าแดนซ์ไทยแลนด์ โดยมีสัดส่วนของหนังและซีรีย์จะมีอยู่ราว 65% ส่วนอีก 20 เปอร์เซ็นจะเน้นไปในเรื่องของโชว์ หรือการประกวดต่างๆ ส่วนที่เหลือจะเป็นเกี่ยวกับวาไรตี้โชว์ เช่นสอนทำอาหาร สอนทำโยคะ โดยมองว่าในปัจจุบันช่องของไทยก็มีคอนเทนส์ของหนังอินเดียอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นช่องไบรท์ทีวี ช่อง8 ช่องเวิร์คพอยท์ซึ่งได้รับความนิยมและกระแสตอบรับที่ดีมาก เชื่อว่าต่อไปในอนาคตอยากให้ผู้ชมคิดถึงช่องซีหนังเป็นช่องแรกเมื่อนึกถึงคอนเทนต์อินเดีย แต่เรายังมีการผลิตคอนเทนต์ที่หลากหลาย มีการทำคอนเทนต์ให้ช่องอื่นๆ ทั้งดิจิทัลและฟรีทีวี แต่ส่วนมากคอนเทนต์ที่คัดแล้วจะมีอยู่ในช่องซีหนัง
ทั้งนี้ ZeeNung เริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบบริการเป็นฟรีทีวี นับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา หลังจากย้ายมาแล้วในส่วนของเรตติ้งถือว่าดีขึ้นมากซึ่งเป็นที่น่าพอใจ และในเร็วๆนี้จะมีรายการไทยแลนด์แดนซ์ ซึ่งเป็นรายการประกวดเต้นของคนไทยโดยเฉพาะ เป็นการนำฟอร์แมตที่มาจากรายการทีวีอินเดียแดนซ์ ของประเทศอินเดียเข้ามา และหวังว่าในอนาคตจะผลิตรายการหรือละครไทยมาอยู่ในช่อง และซื้อคอนเทนต์ของไทยมาด้วยซึ่งแชนแนลที่ออกอากาศจะเป็นช่องซีหนังและช่องของพาร์ทเนอร์ รวมถึงในอนาคตจะมีการร่วมทุนในการทำละคร ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการหาพาร์ทเนอร์ หรือช่องที่มีคอนเซ็ปต์ค่อนข้างตรงกัน ซึ่งน่าจะได้เห็นในช่วงปลายปี 2017
อีกทั้งการลงทุนของช่องได้เพิ่มขึ้นจากเดิม ประมาณ3.5เท่า หรือประมาณ 1 ล้านดอลล่าสหรัฐ มีการพากษ์เป็นภาษาของแต่ละประเทศทั้งหมด 9 ภาษาในเอเชีย เป็นภาษาไทย ฟิลิปปิน อินโดนีเซีย เวียดนาม ส่วนในตะวันออกกลางจะมีสองช่อง ซึ่งสองช่องนี้ก็จะอยู่ในทุกประเทศของตะวันออกกลาง และอีกสามช่องคือทวีปแอฟริกาใต้ ซึ่งจะเป็นภาษาแอฟริกันและภาษาฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังมีช่องที่เยอรมัน ช่องภาษาสเปน และที่อเมริกาจะมีช่องที่เป็นภาษาอังกฤษ
ด้านภาพรวมของผู้ชมมีการเติบโตขึ้น แต่ถ้าเป็นเรื่องของรายได้ยังคงที่ แต่เชื่อว่าในประเทศไทยต้องมีการเจริญเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน เพราะแม้ว่ารายได้จะยังคงที่ แต่จำนวนคนที่รับชมช่องในหลากหลายแพลตฟอร์มกลับเพิ่มมากขึ้น ซึ่งช่องซีหนังเข้าไปอยู่ใน PSI GMM RSและแอปพลิเคชั่น Ais เรียกว่าช่องซีหนังไปอยู่ในบ้านคนไทย 20 ล้านครัวเรือนก็ว่าได้ และหากมองในแง่ของการขายโฆษณาจะเห็นว่าประเทศไทยเป็นอันดับสองของเอเชีย ซึ่งเป็นรองอินโดนีเซียประเทศเดียวเท่านั้น เชื่อว่าการลงทุนพัฒนาคอนเทนส์ให้ดีมากขึ้น จะทำให้มีโอกาสเติบโตได้มากขึ้นเช่นเดียวกัน
ตอนนี้เริ่มมีโฆษณาเข้ามาซื้อเวลาราว 30% โดยคาดหวังไว้ว่าในเดือนไตรมาสที่ 4 จะเพิ่มเป็น 70-80% ของช่อง ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าปีแรกควรจะขาดทุนให้น้อยที่สุด และมองไปถึงอนาคตในอีก 5 ปีข้างหน้าว่าจะต้องสามารถผลิตคอนเทนต์ในประเทศไทย อีกทั้งจะลดจำนวนคอนเทนต์อินเดียจาก 65% ให้เหลือ 45% โดยเป้าหมายที่วางไว้คือการผลิตละครหรือคอนเทนต์ในประเทศไทยเพื่อคนไทย และสุดท้ายจะลดคอนเทนต์อินเดียให้เหลือน้อยที่สุด และจะผลิตคอนเทนต์เพื่อตอบโจทย์คนไทยตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งเอาไว้ตั้งแต่แรก ซึ่งจะสามารถดึงดูดคนไทยให้มาชมช่องนี้มากขึ้น
ช่อง ZeeNung ทั่วโลก
ปัจจุบัน ZeeNung มีรายได้หลักอันดับหนึ่งคือสหรัฐอเมริกา อันดับสองเป็นตะวันออกกลาง อันดับสามเป็นยุโรป อันดับสุดท้ายจะเป็นเอเชียแปซิฟิก ซึ่งตอนนี้มั่นใจว่าตลาดของเอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดที่เติบโตอย่างแน่นอน โดยซีหนังก็จะเป็นอีกหนึ่งช่องที่ทำให้รายได้ของเอเชียแปซิฟิกโตขึ้น
จำนวนคอนเทนต์ที่เป็นซีรีส์อย่างเดียวจะอยู่ที่ 220,000 ชั่วโมง ภาพยนตร์ประมาณ 3,500 เรื่อง และทุกวันช่องซีหนังจะผลิตคอนเทนต์ได้ราว 55 ชั่วโมง ซึ่งจะมีทีมโปรดักชั่นที่ดูแลเป็นประจำ ขณะที่ในประเทศอินเดียจะมีทั้งหมด 36 ช่องที่เป็นเคเบิล และมีทีมผลิตอยู่ 11 ทีม โดยที่อินเดียจะไม่มีฟรีทีวี แต่จะมีแต่ช่องของรัฐบาล 2-3 ช่อง และช่องเคเบิลแบบจ่ายเงินรายเดือน ซึ่งจะมีบอร์ดแคสที่ใหญ่ๆอยู่ 4 แห่ง ได้แก่ ช่อง 1.ช่องZee 2.Star 3.Color 4.Sony แต่ถ้าเป็นของอินเดียจริงๆจะมีแค่ Zee อย่างเดียว
ปัจจุบันภาพยนตร์ละครและซีรีส์ในอินเดียพัฒนาไปไกลมาก โดยเฉพาะภาพยนตร์บอลลีวูดที่มีความตระการตา ไม่แพ้หนังฮอลลีวูดเลยทีเดียว และลืมไปได้เลยกับรูปแบบเดิมๆของละครอินเดียที่เคยสัมผัสไม่ว่าจะวิ่งข้ามเขา หลบหลังต้นไม้ เพราะที่ช่องซีหนัง จะได้พบกับความสนุกจากละคร ภาพยนตร์ และวาไรตี้สุดมันส์ ที่ดีที่สุดจากประเทศอินเดีย ด้วยเนื้อหาที่สด ใหม่ แตกต่างจากที่คุณเคยคิด มาให้คุณรับชมตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของช่อง คือ ซีหนัง สร้างความบันเทิงให้โลกคุณ
จุดแข็งของซีหนัง ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือของ บริษัท ซี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เอ็นเตอร์ไพรส์จำกัด บริษัทอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ในด้านภาพยนตร์ ทีวีและบันเทิงของอินเดีย ซึ่งมีมากกว่า 150 ช่องทั่วโลก และมีการผลิตรายการในแต่ละปีมากกว่า 500 เรื่อง ดังนั้น ละคร ภาพยนตร์และรายการทุกรายการที่ช่องซีหนังคัดสรรมาจะมีความหลากหลาย ทั้งละครภาพยนตร์ รายการอาหารสุขภาพบันเทิงและวาไรตี้ต่างๆ โดยสามารถการันตีคุณภาพได้จากกระแสตอบรับจากผู้ชมที่มีอยู่ทั่วโลกจากการที่ประเทศต่างๆ ได้รับลิขสิทธิ์ไปเผยแพร่นั่นเอง
ซีหนังได้คัดสรรละครหลากหลายรูปแบบมาให้คุณได้รับชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มหากาพย์ที่ทำเรตติ้งถล่มทลายและสร้างกระแสฮือฮาในประเทศไทยอย่าง “พระพุทธเจ้า”ตำนานอันเลื่องชื่อของราชินีผู้ยิ่งใหญ่ที่ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อปกป้องแผ่นดินเกิดอย่าง “ลักษมี มหารานี” หรือจะเป็นละครที่ทำเรตติ้งสูงติด TOP 10 ในทุกประเทศที่ออกอากาศอย่าง “คู่แท้ พรหมลิขิต”“ขอรักอีกสักครั้ง”“สายใยรัก”“คฤหาสน์ลวงใจ”
รวมถึงละครน้ำดีที่บอกเล่าเรื่องราวของเด็กออทิสติกได้ออกมาอย่างน่าประทับใจใน “โลกใบเล็กของอันทารา”รวมไปถึงเปิดประสบการณ์น่าพิศวง ลี้ลับที่คุณไม่อาจพิสูจน์ได้อย่าง “Fear File” ด้วยสาระ และความบันเทิงที่หลากหลาย ร่วมสมัย ช่องซีหนังจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะเปิดประสบการณ์ความบันเทิงในรูปแบบใหม่ พร้อมการันตีความตื่นตา อลังการ และอรรถรสที่ครบถ้วนทุกมิติเพื่อชาวไทยทั่วทั้งประเทศ อย่างแน่นอน
สามารถพบกับความบันเทิงเต็มรูปแบบ ที่ซีหนังนำมาสร้างความบันเทิงให้คนไทยได้รับชมแบบจัดเต็มตลอด 24 ชั่วโมงทาง PSI ช่อง 100 /GMMzช่อง46 /Sunboxช่อง46และบนแพลตฟอร์มอื่นอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น AIS Play / AIS Playbox /TOT/ IPTV / PrimeTimeทั้งในแบบแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ตและ PT box รวมทั้งเคเบิลท้องถิ่นทั่วประเทศ
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ www.zeenung.com หรือ www.facebook.com/ZeeNungChannel โทร.02-258-0084