ทิปโก้แอสฟัลท์ พัฒนาระบบไอทีใหม่ ทุ่มงบประมาณกว่า 120 ล้าน ชูแนวคิด “I change” เปลี่ยนแนวคิดการทำงานจากตัวเอง ดึงระบบ ERP Cloud ช่วยการจัดการ ปั้นต้นแบบศูนย์กลางในประเทศไทย พร้อมขยายสู่สาขาทั่วโลก เพิ่มประสิทธิภาพการขาย วิเคราะห์ข้อมูล และจัดการได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
นายโก๊ะ ไล้ ฮวด รองกรรมการผู้จัดการ – บัญชีและการเงิน บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่ากลยุทธ์ ‘ไอ-เชนจ์’ I change เปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ รับยุคอุตสาหกรรม 4.0 ปรับเปลี่ยนระบบไอทีครอบคลุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การบริหารจัดการ การจัดซื้อน้ำมัน กระบวนการผลิต การขนส่งและการจัดเก็บ การจำหน่าย การขายส่งและขายปลีก ระบบบริการหลังการขาย และสามารถเชื่อมต่อกับระบบบริหารจัดการการเงิน บัญชี การจัดซื้อ และระบบบริหารบุคลากร ได้อย่างครบวงจร และยังช่วยให้ทำงานได้แบบโมบิลิตี้
ด้วยความสามารถของโซลูชั่น Oracle Sales Cloud และ Oracle ERP ที่เริ่มเข้ามาปรับเปลี่ยนวิธีการทำธุรกิจจากภายในเพื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าหลังการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ดิจิทัลสำเร็จ จะสามารถขยายยอดขายได้กว่า 300% เมื่อเทียบกับปี 2015 ที่มีการส่งผลิตภัณฑ์ยางมะตอยขายไปทั่วโลกกว่า 2,000,000 ตัน เพิ่มขึ้นเป็น 6,000,000 ตันภายในปี 2020 ที่จะถึงนี้

ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวใช้งบประมาณในการเปลี่ยนแปลงกว่า 120 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงสำนักงานใหญ่ในประเทศไทย โดยปัจจุบันมีการเข้าเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานปกติแล้วกว่า 25% โดยบางแผนกสามารถดำเนินงานทดแทนระบบเดิมได้อย่างเต็มระบบ ด้วยโซลูชั่นที่เข้ามาเสริมจาก ออราเคิลที่โดดเด่นทั้ง 3 ด้าน ได้แก่
- ERP Solutions – โซลูชันระบบ Cloud สำหรับสนับสนุนกระบวนการทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น การเงิน การขาย การตลาด การจัดเก็บ การจัดซื้อ และการผลิต
- Oracle Transportation Management Cloud – โซลูชั่นด้านการจัดการขนส่งสินค้า เพื่อช่วยให้เกิดประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น สามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่งได้แบบเรียลไทม์
- Procurement & Supply Chain Planning – โซลูชันสำหรับการผลิตและจัดซื้อจากแผน Demand & Supply อย่างอัตโนมัติ รวมไปถึงช่วยให้สามารถตรวจสอบการกลั่นน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถส่งมอบผลผลิตถึงมือลูกค้าได้อย่างถูกต้อง
ขณะที่ลำดับต่อไปของการพัฒนาคือการมุ่งสู่การใช้ข้อมูลทั้งหมดที่มีมาวิเคราะห์ผ่านระบบคลาวด์ ภายใต้โซลูชั่นที่มีการดึง IoT เข้ามาร่วมเก็บข้อมูลภายในโรงงานแต่ละโรงงาน เพื่อสร้างให้เกิดรูปแบบโรงงานอัจฉริยะต่อไป อีกทั้งระบบความปลอดภัยที่จะต้องมีการพัฒนาต่อไปในหลายส่วน เพื่อเป็นการสร้างความมั่นให้คู่ค้า ลูกค้า ตลอดจนพนักงานในบริษัทเพื่อความมั่นคงของธุรกิจต่อไป
ทั้งนี้ ทิปโก้แอสฟัลท์ มีโรงงานผลิตและคลังเก็บยางมะตอยที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ เพื่อความพร้อมในการให้บริการอย่างทั่วถึงและรองรับความต้องการของลูกค้าในทุกภูมิภาค ซึ่งการที่มีโรงงานกระจายไปตามภูมิภาคเช่นนี้ ทำให้บริษัทสามารถส่งสินค้าให้กับประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างสะดวกรวดเร็วด้วยรถขนส่งยางมะตอยของบริษัทมากกว่า 300 คัน อีกทั้ง การจัดการด้านการขนส่งที่เป็นเลิศมีส่วนสำคัญที่ทำให้ทิปโก้แอสฟัลท์คงความเป็นผู้นำไว้ได้ในตลาดในประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นเจ้าของเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศขนาดใหญ่ 9 ลำซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศตลอดจนสำหรับการนำเข้ายางมะตอยสู่ประเทศไทยในสภาวะที่ยางมะตอยในประเทศไทยขาดแคลน ทิปโก้แอสฟัลท์ มีฐานโรงกลั่นยางมะตอยอยู่ที่เมือง Kemaman ในประเทศมาเลเซีย
ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทย่อยชื่อ Kemaman Bitumen Company Sdn. Bhd. โรงกลั่นแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 26 เฮคเตอร์ ในเขตอุตสาหกรรม Telok Kalong มีกำลังการกลั่นน้ำมันดิบ 30,000 บาร์เรลต่อวัน ในปี 2558 มีการกลั่นน้ำมันดิบประมาณ 12 ล้านบาร์เรลต่อปี คิดเป็นจำนวนยางมะตอยและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยางมะตอยจำนวน 1.9 ล้านตัน