Adyim ผนึก AVG ชูแพลตฟอร์มดิจิทัล ดัน SMEs รุกตลาดจีนแบบครบวงจร

Adyim ผนึก AVG ชูแพลตฟอร์มดิจิทัล ดัน SMEs รุกตลาดจีนแบบครบวงจร

Adyim ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่นของไทย ร่วมมือกับ AVG ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งในจีน ระดับแนวหน้าของเอเชีย เปิดตัวบริษัท “AVG Thailand” พร้อมนำธุรกิจไทยเจาะตลาดจีน! ชูความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง และเครือข่ายดิจิทัลแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ในจีนเพียงรายเดียวของไทย ตั้งเป้ากวาด 100 ล้านบาทในปี 2018

นายธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ซีอีโอแอดยิ้มกล่าวถึงความเป็นมาของการก่อตั้งบริษัท AVG ประเทศไทยจำกัดว่าเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท AVG จำกัด และ แอดยิ้ม (Adyim) สืบเนื่องจากทาง AVG เป็นบริษัทมีเดียแพลตฟอร์มสัญชาติจีนที่ใหญ่ที่สุดและมีความเชี่ยวชาญด้านการทำมีเดียในประเทศจีน ต้องการขยายธุรกิจให้ครอบคลุมพื้นที่ AEC ทั้งหมด ส่วนแอดยิ้มก็เล็งเห็นโอกาสในการช่วยแบรนด์และเจ้าของธุรกิจไทยลุยขยายตลาดไปยังประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญอันดับ 1 ของไทย

ซึ่งการขยายตลาดไปยังประเทศจีนสำเร็จจะหมายถึงเม็ดเงินจำนวนมหาศาล แต่ในปัจจุบันเจ้าของธุรกิจและมาร์เก็ตเตอร์ส่วนใหญ่ยังไม่มีความรู้และความเชี่ยวชาญพอที่จะเข้าไปสร้างแบรนด์และขยายธุรกิจในประเทศจีน เราจึงเห็นโอกาสตรงนี้ที่จะใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญในการทำการตลาดในประเทศจีน

รวมทั้งพันธมิตรเครือข่ายสื่อดิจิทัลยักษ์ใหญ่ต่างๆที่เรามีในจีน ช่วยผลักดันและโปรโมทธุรกิจไทยให้เป็นที่รู้จักและเจาะตลาดจีนได้ โดยเราตั้งเป้าผลประกอบการในปีนี้ไว้ที่ 50 ล้านบาท และเชื่อว่าจะแตะถึง 100 ล้านบาทได้ภายในปี 2018

จุดเด่นของบริษัทฯ คือมีบริการทางสื่อ Digital ครบวงจรทั้ง 3 แพลตฟอร์มดิจิทัลยักษ์ใหญ่ในประเทศจีนได้แก่ Baidu (ไป่ตู้), Tencent และ Alibaba ซึ่งจำเป็นอย่างมากในการทำการตลาดในประเทศจีน

อีกทั้งมีทีมงานที่เป็นมืออาชีพทางด้านดิจิทัลตัวจริงทั้งในประเทศไทย และประเทศจีน ไม่ใช่เป็นแค่คนที่เห็นโอกาส, บริษัททัวร์จีน หรือคนจีนที่ทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งไม่เป็น แต่กระโดดเข้ามาทำธุรกิจตรงนี้เพราะเห็นโอกาสเราเป็นบริษัทที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ (Authorized) จากบริษัทดิจิทัลแพลตฟอร์มหลักของจีนทุกบริษัท” ซีอีโอ แอดยิ้ม กล่าว

อย่างไรก็ดีนายธนพล ยังกล่าวเสริมถึงความท้าทายและอุปสรรคในการทำการตลาดดิจิทัลในจีนว่า “จีนเป็นตลาดใหญ่ ใครก็อยากเข้าไป แต่ก็ใช่ว่าจะไปกันได้ง่ายๆเพราะยังมีอุปสรรคในเรื่องของภาษา,วัฒนธรรม, Customer Insight ในประเทศจีนจึงไม่ใช่ว่าสินค้าทุกอย่างจะสามารถประสบความสำเร็จในจีนได้ สินค้าต้องตอบโจทย์และทำการบ้านมาเป็นอย่างดี”

ที่สำคัญตลาดจีนมีการแข่งขันที่ดุเดือดเพราะคนจีนค้าขายเก่งมากเราจึงควรหาจุดต่างไม่ควรไปขายแข่งเพราะโอกาสจะชนะมีน้อย และอีกเรื่องที่ต้องระวังคือ สินค้าลอกเลียนแบบ ควรหาทางป้องกันเสียแต่เนิ่นๆ เพราะถ้ามีประเด็นนี้เกิดขึ้นมาแล้วถือเป็นเรื่องยากที่จะไปฟ้องร้องชนะคนจีนได้

เครื่องมือ(Tools) ที่ใช้ในการทำตลาดดิจิทัลในจีนนั้นจะแตกต่างจากในบ้านเราเนื่องจากรัฐบาลจีนได้ทำการบล็อก Digital Toolsหลักๆ จากต่างประเทศเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Line, Google, Facebook, Youtube สำหรับเครื่องมือดิจิทัลในจีนที่นิยมใช้กัน ได้แก่ Baidu ซึ่งจะใช้ค้นหาข้อมูลแทน Google ตัว Baidu เอง มีระบบ Keyword Planner ให้ใช้เช่นเดียวกับ Google ทำให้เราทราบได้ทันทีว่าคนจีนเสิร์จหาอะไรในเมืองไทย

ซึ่งส่วนใหญ่คนจีนจะเสิร์ชหา ข้อมูลโรงแรม,ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว, ข้อมูลของฝาก สำหรับคนจีนที่ชอบเล่นโซเซียลมีเดียก็จะเล่น Weibo แบบเดียวกับที่เล่น Facebook และชอบพูดคุยกับเพื่อนผ่าน WeChat เทียบได้กับ Line ซึ่งระบบโฆษณาใน WeChat นั้นค่อนข้างล้ำกว่า Line เพราะมีลูกเล่นมากกว่า อีกทั้งยังสามารถทำแอปพลิเคชั่นเข้าไปผูกกับระบบของ WeChat ได้เลยจะทำเป็นเกม, เป็นระบบการเปิดจอง หรือระบบอีคอมเมิร์ซก็สามารถทำได้

สำหรับเทรนด์การตลาดดิจิทัลของจีนในปัจจุบัน ภาคส่วนอี-คอมเมิร์ซของจีนมีการขยายตัวเป็นอย่างมาก และเติบโตเป็นอันดับต้นๆของโลก โดยขยายตัวกว่า 8.12 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 27 ล้านล้านบาท) ในปี 2017 คิดเป็น 17% ของยอดค้าปลีกทั้งหมดทั่วประเทศถ้าเทียบกับประเทศไทยเรา 2.1 ล้านล้านบาท เป็นสัดส่วนแค่ประมาณ 4% ของยอดค้าปลีกทั้งหมดเท่านั้น

ทำให้ห้างสรรพสินค้าในจีน เริ่มเจอปัญหาเช่นเดียวกับในประเทศสหรัฐอเมริกา คือ ทยอยปิดตัว ห้างขึ้นค่าเช่าพื้นที่ไม่ได้ ผู้ค้าปลีกปิดร้านค้าในห้าง หันไปเปิดขายในออนไลน์หรือหันไปลงโฆษณาขายของบนแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซใหญ่ๆแทน เช่น Tmall, Taobao ฯลฯ

ธุรกิจแต่ละประเภทจะมีกลยุทธ์ในการทำการตลาดที่ไม่เหมือนกัน ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการวางแผนให้ แต่สิ่งหนึ่งที่จะเหมือนๆกันในการทำการตลาดออนไลน์ในจีน คือจะต้องมีการผสมผสาน Digital Tools หลายๆตัวเข้าด้วยกันเพื่อเกิดประสิทธิภาพสูงสุดและต้องเรียนรู้ Customer Journey ของชาวจีนสำหรับสินค้าหรือบริการนั้นๆ

ตัวอย่างเช่น ธุรกิจท่องเที่ยว ถ้าต้องการให้คนจีน เดินทางมาพักที่โรงแรมของเราหรือมาซื้อของฝาก จะต้องวางแผนทำให้คนจีนรู้จักเราตั้งแต่ตอนที่อยู่ประเทศจีนเลย เราอาจจำเป็นจะต้องซื้อ Keywords ใน Baidu เพื่อให้คนจีนค้นหาเจอข้อมูลโรงแรมหรือสินค้าของเราที่เป็นภาษาจีน ต่อมาเมื่อคนจีนเดินทางมาถึงเมืองไทยส่วนใหญ่คนจีนจะซื้อ Sim เปลี่ยน ซึ่งเราสามารถส่ง SMS หาคนจีนที่เดินทางมาในไทยได้

โดยอาจจะส่งโปรโมชั่นที่น่าสนใจหรือส่งข้อความต้อนรับก็ได้และในระหว่างที่อยู่ในไทย เราอาจจะลงโฆษณาใน WeChat หรือ Weibo และคิดกลยุทธ์ว่าจะทำยังไงให้คนจีน ช่วยโพสต์รูปโรงแรมหรือรูปสินค้าที่เขาซื้อ เพื่อที่จะได้ Free PR จากพวกเขา เป็นต้น

สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่บริษัทฯวางไว้นั้น นายธนพล กล่าวว่า เป็นกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวเช่น โรงแรม,ห้างสรรพสินค้า, สินค้าของฝาก รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคทุกชนิด เช่น ครีม,เครื่องสำอาง,ยาดม, ขนม ฯลฯ ที่มีความสนใจขยายตลาดไปยังประเทศจีน

เพราะดูจากสถิติคนจีนที่มาเที่ยวไทยเมื่อปีที่แล้วมีจำนวนมากถึง 10 ล้านคน ซึ่งไทยจัดเป็นประเทศท่องเที่ยวอันดับ 1 ของคนจีน และคนจีนมีความนิยมแบรนด์และสินค้าไทยเพราะเชื่อมั่นในคุณภาพ

ด้าน มร.หลี่ เสี่ยว จวิน(Li Xiao Jun) ซีอีโอ บริษัท AVG จำกัด กล่าวแนะนำบริษัทAVG ว่า เป็นบริษัทที่มีแพลตฟอร์มการวางแผนสื่อในจีนที่ใหญ่ที่สุด ครอบคลุมทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ มีบริษัทในเครือรวม 9 บริษัท ครอบคลุมไปทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียแปซิฟิกได้แก่ จีน, สิงคโปร์, มาเลเซีย, กัมพูชา และเวียดนาม

สำหรับในจีนนั้น บริษัท AVG เป็น Premier Partner กับเครือข่ายสื่อดิจิทัลยักษ์ใหญ่ในจีนทั้งหมด เช่น Baidu, Alibaba, Wechat, Weibo, Youku รวมทั้งมีคอนเนคชั่นกับอินฟลูเอนเซอร์ตัวท็อปของจีนที่จะช่วยสร้างแบรนด์ดิ้ง, โปรโมทสินค้าและบริการในประเทศจีน อีกทั้งยังมีทีมผู้เชี่ยวชาญช่วยวางแผนสื่อแบบผสมผสานที่เหมาะสมที่สุดกับธุรกิจของลูกค้า เพื่อที่จะช่วยลูกค้าสร้างแบรนด์และเจาะตลาดในจีนได้อย่างประสบความสำเร็จ

จีนเป็นเป้าหมายสำคัญสำหรับสินค้าและบริการจากไทยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับความนิยมมากเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนและยังมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นไปอีกอย่างต่อเนื่อง ชาวจีนชื่นชอบประเทศไทยในเรื่องแหล่งช้อปปิ้ง อาหาร และวัฒนธรรมในขณะเดียวกันคนจีนกลุ่ม A-List หรือคนที่มีศักยภาพในการจับจ่ายมีจำนวนสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนับเป็นกลุ่มเป้าหมายของเรา

ผนวกกับจีนกำลังสร้างรถไฟความเร็วสูงที่จะครอบคลุมโซนเศรษฐกิจทั้งหมดทำให้ต้นทุนการขนส่งลดลง ทำให้การคมนาคมขนส่งระหว่างไทย-จีนสะดวกขึ้นท้ายที่สุด Tmall และอาลีบาบา แพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากจีน จะเป็นช่องทางการซื้อขายที่สะดวกและแพร่หลายสำหรับการนำสินค้าจากไทยไปสู่ตลาดจีน

Related Posts