เมืองไทยประกันชีวิต ยกระดับสู่บริการดูแลสุขภาพครบวงจร เผยโปรเจกต์ใหญ่ Premier Health Solutions ตอบโจทย์ครบถ้วนด้วยนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และบริการที่หลากหลายในทุกช่วงชีวิต ประเดิมเปิดตัว “myTHAIDNA” แพลตฟอร์มดูแลสุขภาพที่ลงลึกถึงระดับ DNA พร้อมผนึก “Health at Home” สตาร์ทอัพด้าน Healthtech จากโครงการดีแทค แอคเซลเลอเรท #4 ต่อยอดดูแลถึงบ้าน อุบเปิด VC ไตรมาส 3 ลงทุนสตาร์ทอัพระดับ Seed Funding ถึง Series A
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ด้วยความมุ่งมั่นในการเดินหน้านโยบาย “ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric)” และเพื่อเป็นการตอกย้ำเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำด้านประกันสุขภาพ ล่าสุดเมืองไทยประกันชีวิต จึงได้เปิดโปรเจกต์ใหญ่แห่งปี “Premier Health Solutions” ด้วยแนวคิดที่จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้านการดูแลสุขภาพ ผ่านนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และบริการที่หลากหลาย ทั้งด้านการป้องกัน (Prevention) และการดูแลสุขภาพ (Care) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในทุกช่วงชีวิต
และจากแนวคิด Premier Health Solutions ได้นำมาสู่การเปิดตัว 2 โครงการสุขภาพจาก Fuchsia Innovation Centre ของเมืองไทยประกันชีวิต ซึ่งโครงการแรก ได้เปิดตัว “myTHAIDNA” โปรแกรมการดูแลสุขภาพผ่านการตรวจ DNA ช่วยลงลึกถึงรายละเอียดร่างกายซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ทำให้ดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น
ด้วยความร่วมมือระหว่างเมืองไทยประกันชีวิต และ บริษัท Prenetics ในการให้บริการตรวจ Nutrigenomics หรือ โภชนพันธุศาสตร์ ที่สามารถบอกถึงความต้องการด้านโภชนาการ สารอาหารที่ร่างกายตอบสนอง และการออกกำลังกายที่เหมาะเฉพาะตัว ซึ่งการตรวจ DNA เป็นการตรวจเพียงครั้งเดียวเพราะผล DNA หรือรหัสพันธุกรรมเฉพาะของแต่ละบุคคลนั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดชีวิต
การเก็บตัวอย่าง DNA สามารถทำได้เองที่บ้านด้วยวิธีง่ายๆ เช่นตัวอย่างน้ำลายจากกระพุ้งแก้ม โดยใช้เวลาเก็บตัวอย่าง DNA ประมาณ 1 นาทีเท่านั้น โดยตัวอย่างจะถูกส่งไปวิเคราะห์ที่ห้องปฏิบัติการของ บริษัท Prenetics ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการทดสอบทางพันธุกรรม ผ่านห้องปฏิบัติการมาตรฐาน ISO-15189:2012 ที่ได้รับการรับรองในระดับสากล จาก Hong Kong Laboratory Accreditation Scheme โดยมีนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ด้านพันธุศาสตร์เป็นผู้วิเคราะห์ผล และนักโภชนาการที่สามารถช่วยอ่านผลและให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์ฟรีไม่เกิน 30 นาทีได้อีกด้วย
นอกจากนี้ผู้รับการตรวจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ที่มีรายงานข้อมูลเฉพาะบุคคลและคำแนะนำในการดูแลรักษาสุขภาพผ่านการรับประทาน การออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่น การปรึกษากับนักโภชนาการ การตั้งเป้าหมายสุขภาพ และการเก็บข้อมูลด้านสุขภาพของตนเอง ซึ่งข้อมูล DNA ส่วนบุคคล จะถูกเก็บเป็นความลับ ไม่มีการเปิดเผยให้กับเมืองไทยประกันชีวิต
“myTHAIDNA” คือการตรวจ DNA เพื่อหาความเหมาะสมทางด้านโภชนาการมีความแพร่หลายแล้วในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ที่มีห้องปฏิบัติการตรวจ DNA เชิงพาณิชย์อยู่มาก แต่ในเอเชีย นวัตกรรมการตรวจ DNA ยังมีราคาค่อนข้างสูง จึงเป็นนวัตกรรมที่คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้ยาก
ในครั้งนี้ เมืองไทยประกันชีวิต จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท Prenetics นำการตรวจ DNA เพื่อการดูแลสุขภาพที่ดีกว่าเป็นเจ้าแรกของวงการธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทย เพื่อนำนวัตกรรมการตรวจ DNA ให้คนไทยเข้าถึงได้ง่ายในราคาที่เหมาะสม โดยสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่ www.mythaidna.com
อีกทั้งเมืองไทยประกันชีวิตยังได้ร่วมเป็นพันธมิตร กับ บริษัท Health at Home สตาร์ทอัพด้าน Healthtech จากโครงการ ดีแทค แอคเซลเลอเรท ซึ่งเป็นธุรกิจบริการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่บ้าน ในแบบ Home Care โดยทีมงานผู้ดูแลที่มีมาตรฐาน เชื่อถือได้ พร้อมความทันสมัย ด้วยระบบ Real-time Analytics เพื่อช่วยให้ครอบครัวของผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุสามารถติดตามการดูแลรักษาได้ตลอดเวลา
โดยบริการของ Health at Home มีบริการให้เลือกในหลายระดับ ไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลเบื้องต้นสำหรับผู้สูงอายุที่ยังช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ต้องการคนดูแลหรือคนอยู่เป็นเพื่อน จนถึงพยาบาลวิชาชีพ ที่สามารถดูแลผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งในอนาคตยังเตรียมขยายการให้บริการไปยังด้านอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการให้ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น
“จุดยืนในการมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านการประกันชีวิตและสุขภาพของเรา ไม่ใช่แค่เข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร แต่เราจะคิดเผื่อไปมากกว่านั้น และสิ่งที่เรามานำมอบให้แก่ลูกค้า ไม่ใช่แค่เรื่องของประกัน การเคลม หรือการติดต่อตัวแทน แต่เป็นการดูแลลูกค้าผ่านนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และบริการที่หลากหลาย ที่ถูกออกแบบโดยการคิดเผื่อที่รอบด้านเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในทุกช่วงชีวิต ” นายสาระ กล่าว

ด้านนางสาวฤทัย สุทธิกุลพานิช Head of Fuchsia Innovation Center เมืองไทยประกันชีวิต เปิดเผยว่า ความร่วมมือทางนวัตกรรมครั้งนี้นับว่าเป็นการก้าวข้ามความเป็นบริษัทประกันแบบเดิมๆและยกระดับขึ้นสู่การให้บริการดูแลสุขภาพแบบครบวงจรมากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในภาระกิจหลักของหน่วยงาน Fuchsia Innovation Center ที่จะต้องค้นหานวัตกรรมใหม่ๆทั้งแบบที่มีเป็น Technology และ Non-Technology เพื่อทำให้เมืองไทยประกันชีวิตขยับเข้าสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำด้านสุขภาพของเมืองไทยต่อไป
และในอนาคตราวไตรมาส 3 ของปีนี้ คาดว่า Fuchsia จะทำการจัดตั้งกองทุน Venture Capital ซึ่งจะเป็นหน่วยงานหลักในการลงทุนกับสตาร์ทอัพด้านสุขภาพ โดยคาดว่าจะเป็นการลงทุนในระดับ Seed Funding จนถึงระดับซีรี่ย์ A เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเหล่านั้นมาทำให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพของคนไทยมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับความต้องการของบริษัท
ทั้งนี้สำหรับเงื่อนไขในการรับสิทธิ์ซื้อการตรวจ “myTHAIDNA” เพียงซื้อแบบประกันภัยของบริษัทฯ ที่มีระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไป โดยเลือกชำระเบี้ยประกันภัยเป็นรายปี และชำระเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 25,000 บาทขึ้นไปต่อกรมธรรม์ สำหรับลูกค้าใหม่ และชำระเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 12,500 บาทขึ้นไปต่อกรมธรรม์
สำหรับลูกค้าปัจจุบัน จะได้รับสิทธิ์ในการซื้อการตรวจในราคา 7,000 บาท (จำกัด 1 สิทธิ์/1 กรมธรรม์) ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2560 – 30 มิถุนายน 2561 หรือจนกว่ามีผู้รับสิทธิ์จนครบจำนวน
ด้านสมาชิกเมืองไทย Smile Club สามารถใช้คะแนนสะสม Smile Point 1,800 คะแนน เพื่อแลกรับสิทธิ์ในการตรวจ myTHAIDNA จำนวน 1 สิทธิ์ ระยะเวลาการแลกคะแนนสะสมตั้งแต่วันนี้ – 29 ธันวาคม 2560 และสมาชิกเมืองไทยSmile Club ที่สนใจใช้บริการ Health at Home สามารถแสดงบัตรเพื่อรับส่วนลดการใช้บริการ 10 % จากราคาปกติ
หรือ ใช้คะแนนสะสม Smile Point 25 คะแนน แลกรับส่วนลด 100 บาท และยังสามารถใช้คะแนนสะสม Smile Point แลกรับบริการ Smile Care 1 ครั้ง เป็นระยะเวลา 12 ชม. ดังนี้
Smile Point แลกรับบริการ Smile Care
- บริการ Smile Care 1 ใช้คะแนนสะสม Smile Point 600 คะแนน เพื่อรับบริการผู้ดูแล โดยพยาบาลวิชาชีพ
- บริการ Smile Care 2 ใช้คะแนนสะสม Smile Point 380 คะแนน เพื่อรับบริการผู้ดูแล โดยผู้ช่วยพยาบาล
- บริการ Smile Care 3 ใช้คะแนนสะสม Smile Point 320 คะแนน เพื่อใช้บริการผู้ช่วยเหลือคนไข้และพนักงานเฝ้าไข้
โดยสมาชิกเมืองไทย Smile Club สามารถแลกคะแนนสะสมได้ที่ โทร.1766 เมืองไทย Smile กด 4 และ Smile Service Application ระยะเวลาใช้สิทธิ์แลกคะแนนสะสมได้ตั้งแต่วันนี้ –30 พฤศจิกายน 2560.
หมายเหตุ
- สำหรับบริการ Smile Care จะได้รับการบริการ Health at Home Application เพื่อติดตาม อาการคนไข้โดยสนับสนุนการดูแลโดยทีมพยาบาล
- เงื่อนไขการรับสิทธิ์การตรวจ myTHAIDNA และ การแลกรับบริการ Health at Home เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด