เอไอเอสส่ง AIS NEXT G เอาใจลูกค้าเน้นเล่นเน็ตเร็วและแรงระดับกิกะบิท ตั้งเป้าลูกค้าใช้งานปีนี้ 100,000 ราย พร้อมอัพเกรด AIS Shop สู่ Digital Experience Shop มอบประสบการณ์จากงานบริการยุคดิจิทัล ที่มุ่งบริการด้วยใจและเทคโนโลยีอัจฉยะเข้าด้วยกัน
นายปรัธนา ลีลพนัง รักษาการ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด เอไอเอส กล่าวว่า การแข่งขันของโอเปอเรเตอร์สูงทำให้เอไอเอสไม่สามารถหยุดนิ่งในการพัฒนาด้านบริการในทุกด้าน ประกอบกับได้วางเป้าหมายที่จะกระโดดเข้าสู่ดิจิทัลอย่างเต็มตัว เน้นการให้บริการ มือถือ บรอดแบน คอนเทนต์ ควบคู่กันไป
ล่าสุดจึงได้เปิดให้บริการ NEXT GENERATION NETWORK บนเครือข่ายใหม่ “AIS NEXT G” ด้วยความเร็วอินเทอร์เน็ตระดับกิกะบิท ที่เร็วและแรง เป็นรายแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การเปิดให้บริการดังกล่าวนับเป็นตอบสนองการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นทวีคูณ, การใช้งานสมาร์ทโฟนแบบ Always on ทั้งในบ้านและนอกบ้าน, การใช้งาน Multiple Device ตลอดจนเทรนด์การชมคอนเทนต์วีดิโอที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งขณะนี้เอไอเอสมีลูกค้า 4G ทั้งสิ้น16 ล้านรายเป็นตัวบ่งชี้ให้เห็นว่านอกจากลูกค้าจะต้องการใช้งานดาต้าที่สูงขึ้น ยังจำเป็นต้องใช้งานบนเครือข่ายที่มีความเร็วและแรงกว่าเดิม
“AIS NEXT G” เป็นความร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง KT (Korea Telecom) ผู้ให้บริการเครือข่ายจากประเทศเกาหลีใต้ โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Multipath TCP ที่สามารถรวมความเร็วอินเทอร์เน็ตของทั้งเครือข่ายมือถือและเครือข่ายไวไฟเข้าด้วยกัน
ส่งผลให้พื้นที่ใดก็ตามที่มีทั้งเครือข่าย AIS 4G ADVANCED และ AIS SUPER WiFi อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ทำให้สามารถให้ความเร็วในการใช้อินเทอร์เน็ตได้สูงสุดถึง 1 Gbps ปัจจุบันเอไอเอสมี AIS SUPER WiFi ครอบคลุมกว่า 80,000 จุดทั่วประเทศ
นายปรัธนา กล่าวว่า นอกจากนี้เอไอเอสยังได้รับความร่วมมือกับซัมซุง ในการพัฒนาเฟิร์มแวร์ที่รองรับการใช้งาน AIS NEXT G ในสมาร์ทโฟนของซัมซุง สามารถรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วที่สูง อย่างเช่น การ Live คอนเทนต์แบบ Realtime, สตรีมมิงหนัง หรือวิดีโอความละเอียดสูงแบบ 4K”
“การดาวน์โหลด/อัพโหลดไฟล์ขนาดใหญ่, Augmented Reality, ส่งภาพเสียงหรือวิดีโอผ่าน Cloud System ฯลฯ นี่คือจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเครือข่ายมือถือสำหรับคน NEXT GENERATION ที่เหนือกว่าความเร็ว 4G และ 4.5G”
ทั้งนี้การตอบรับกับเครือข่ายใหม่ดังกล่าว เอไอเอสยังได้พลิกโฉม AIS Shop ที่เซ็นทรัลเวิร์ลด์ ชั้น 4 ให้เป็นแกลอรี่ แสดงนวัตกรรมดิจิทัลในรูปแบบของงานศิลปะ รวบรวมเทคโนโลยีและสมาร์ทแก็ดเจ็ดที่ทันสมัย ดีไซน์สวย จากแบรนด์ชั้นนำ มาให้ลูกค้าได้สัมผัส ทดลองใช้ และได้พัฒนา Next Generation Team ที่พร้อมส่งมอบมิติใหม่ของงานบริการให้แก่ลูกค้า โดยพัฒนาศักยภาพของพนักงานให้เป็น Digital Guru ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ดิจิทัลต่างๆ สามารถให้คำแนะนำ และช่วยเหลือลูกค้าได้อย่างมืออาชีพ
นอกจากนี้ยังได้พัฒนาบริการรูปแบบใหม่ Ask Aunjai เป็น Virtual Agent ผู้ช่วยอัจฉริยะ ที่พัฒนามาจากเทคโนโลยีอัจฉริยะ ทั้ง Artificial Intelligence (AI), Chatbot และ Smart Knowledge Base ทำให้สามารถตอบคำถาม ให้คำแนะนำลูกค้าบน Online ทั้งบนเว็บไซต์เอไอเอส และบนแอป my AIS ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งมีความเป็น Humanity เหมือนได้คุยกับพนักงานเหล่านี้ สื่อให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกี่ยวกับรูปแบบการให้บริการของเอไอเอส ที่พร้อมตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตที่หลากหลาย และเฉพาะตัวตามสไตล์ของคนยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง
ด้านนางบุษยา สถิรพิพัฒน์กุล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารลูกค้าและการบริการ เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสใช้งบประมาณกว่า 40 ล้านบาท เริ่มต้นด้วยการพลิกโฉม AIS Shop บริเวณชั้น 4 เซ็นทรัลเวิลด์ ภายใต้คอนเซ็ปท์ “AIS THE DIGITAL GALLERY” เปรียบเสมือนแหล่งรวมนวัตกรรมเทคโนโลยีของโลกยุคดิจิทัล ที่นอกจากจะสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้ได้ทดลองใช้ และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่หลากหลาย ทันสมัย ดีไซน์สวย จากแบรนด์ชั้นนำมากมายแล้ว
ยังพลิกโฉมช็อปแห่งนี้ ให้เป็น Gallery แสดงงานศิลป์ นำเสนอผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของการแสดงผลงานศิลปะ โดยวางผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นแสดงบนแท่นโชว์ (AIS Intelligent Unit) สะดวกในการสัมผัส รวมทั้งจัดหมุนเวียนผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สลับผลัดเปลี่ยน มาให้ลูกค้าได้สัมผัสก่อนใคร