สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ประกาศจับมือ หัวเว่ย (HUAWEI) และจีเอเบิล (G-ABLE) ร่วมมือแลกเปลี่ยนความรู้ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี เตรียมสร้างระบบเครือข่ายสำหรับสถาบันการศึกษาที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย
สร้างอินเทอร์เน็ตความเร็ว 100Gbps ในสถาบัน พร้อมรองรับการพัฒนา SDN (Software-defined Network) ในอนาคต เตรียมเผยโฉมตู้คอนเทนเนอร์ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกในประเทศไทย ยกระดับคุณภาพการเรียนการสอนด้วยโครงสร้างเทคโนโลยีเครือข่ายที่ครบวงจรที่สุด เร็วที่สุด และทันสมัยที่สุด
ตั้งเป้าสู่การเป็น“มหาวิทยาลัยดิจิทัล (Digital University)” สู่มาตรฐานการศึกษาระดับเอเชีย และเป็นศูนย์กลางการผลิตบุคลากรคุณภาพแห่งอนาคตอย่างเต็มตัวภายใน 5 ปี
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า “เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่พัฒนาก้าวไกลในปัจจุบัน ส่งผลให้สถาบันการศึกษาซึ่งเป็นแหล่งบ่มเพาะและผลิตบุคลากรรุ่นใหม่ ออกมาเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติให้ทัดเทียมนานาชาติ
เราไม่สามารถหยุดนิ่งอยู่กับที่อย่างในอดีตที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ประเทศไทยกำลังก้าวสู่การเปลี่ยนแปลง ภายใต้นโยบายThailand 4.0 มหาวิทยาลัยถือเป็นหนึ่งใน “กุญแจสำคัญ” ที่สามารถช่วยให้นโยบายดังกล่าวประสบผลสำเร็จได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน
โดยเฉพาะการมุ่งเน้นการพัฒนาองค์ความรู้จากงานวิจัยที่สามารถนำมาต่อยอดสร้างประโยชน์ต่อสังคมได้จริง สจล. ในฐานะมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งใน
ประเทศไทย
เราจึงเดินหน้าปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนให้ทันสมัย ควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีและสื่อการสอนอยู่ตลอดเวลาเพื่อสร้างบัณฑิตรุ่นใหม่ที่มีทักษะความสามารถที่จำเป็นและพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกอนาคตสำหรับเป็นต้นแบบการก้าวสู่การศึกษายุคใหม่ ภายใต้เป้าหมายการมุ่งเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัลภายใน 5 ปี
ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่าง สจล. หัวเว่ย และจีเอเบิลถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะพลิกโฉมวงการการศึกษาไทย
โดยสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากความร่วมมือในครั้งนี้ ไม่เพียงมีการนำร่องติดตั้งโครงข่ายสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็ว ระดับ 100กิกะบิต พร้อมเครือข่าย WiFi 3,000จุดทั่วสถาบันฯ ซึ่งจะช่วยยกประสิทธิภาพการเรียนการสอนในรั้ว สจล. สู่ความเป็นดิจิทัลมากขึ้น ในทางปฏิบัติยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อสู่โลกออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายและภารกิจของมหาวิทยาลัยในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนการสอนยุคEducation 4.0 ที่ความรู้ไม่ได้จำกัดแค่เพียงในห้องเรียนเท่านั้น
โดยในอนาคตจะมีการเปิดสอนออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาสามารถเรียนทางไกลจากมหาวิทยาลัยและหน่วยงานที่มีความร่วมมือกับ สจล. ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ขณะเดียวกันตามแผนความร่วมมือยังจะมีการพัฒนาSoftware-defined network (SDN) และการพัฒนา ดาต้า คอนเทนเนอร์ (Data Container) แบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย รวมทั้งจัดตั้งห้องปฏิบัติการและสถาบันฝึกอบรมในขั้นต่อไปเพื่อผลิตบุคลากรคุณภาพที่มีทักษะและความสามารถด้านดิจิทัลป้อนตลาดแรงงาน
ด้านนายสุเทพ อุ่นเมตตาจิต กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทจีเอเบิล กล่าวว่า โจทย์ที่สำคัญของการศึกษาในยุคเทคโนโลยีดิจิทัล คือ ทำอย่างไรที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสร้างนวัตกรรมใหม่ โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเชื่อมต่อประสบการณ์ของบุคลากรและนักศึกษาภายในสถาบัน ที่มองหาความสะดวก รวดเร็ว ให้เป็นหนึ่งเดียว
เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสถาบันซึ่งเป็นหน้าที่ของกลุ่มบริษัทจีเอเบิลในฐานะ Agent of Digital Transformation ที่เป็นพันธมิตรกับทางสจล. มามากกว่า 20 ปี โดยทีมผู้เชี่ยวชาญของจีเอเบิลได้พิจารณาองค์ประกอบต่างๆ ในการมองหาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์กับสจล.
ซึ่งพิจารณาจากแนวโน้มของเทรนด์เทคโนโลยี หรือ ดิจิทัลเทคโนโลยีใหม่ๆ ความคุ้มค่าในการลงทุน โดยเลือกใช้เทคโนโลยีให้สอดคล้องกับสจล. พร้อมร่วมกำหนดหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกเทคโนโลยีที่ประหยัดพลังงาน เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อม มีความคล่องตัวและใช้เวลาในการติดตั้งเทคโนโลยีที่มีความกระชับ
ซึ่งเทคโนโลยีของหัวเว่ยเป็นแห่งเดียวที่มีการนำเสนอเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอย่างแท้จริง จึงเป็นที่มาความร่วมมือของ 3 ผู้พัฒนาเทคโนโลยีระบบเครือข่ายชั้นนำของโลกและของไทยในครั้งนี้
“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรายึดมั่นจุดมุ่งหมายร่วมกันในเรื่อง Digital Transformation มองเห็นความสำคัญแบบเดียวกัน คือการปฏิรูปวงการการศึกษาไทยไปสู่ยุคดิจิทัล”
ด้าน นายจาง หลิน(เอิร์นเนส) ประธานบริหาร กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ หัวเว่ย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า การมาถึงของการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ทำให้ผู้คนและสังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รูปแบบการเรียนการสอนอาจจะไม่จำเป็นจะต้องนั่งในห้องเรียนแบบเดิมอีกต่อไป นักศึกษาสามารถเรียนหนังสือ
ที่ใดก็ได้ในเวลาใดก็ได้
การที่มหาวิทยาลัยมีระบบเครือข่ายหลังบ้านที่รองรับรูปแบบการศึกษาในโลกอนาคตทำให้เกิดโอกาสด้านการเรียนการสอนมากมายมหาศาล รวมไปถึงสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วยด้วยเหตุนี้เอง
หัวเว่ยจึงนำเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่ดีที่สุดเข้ามาใน สจล. เพื่อเป็นสะพานที่เชื่อมต่อโลกการศึกษาไปสู่โลกดิจิทัล สร้างความเท่าเทียมกันในเรื่องโอกาสทางการศึกษาและปรับปรุงคุณภาพการสอน
โซลูชั่นดังกล่าวประกอบไปด้วย
- 100G Based Campus Core Network ในสถาบันการศึกษาแห่งแรกในประเทศไทย ระบบโครงข่ายคอมพิวเตอร์ที่สามารถส่งถ่ายข้อมูลที่ความเร็ว 100 กิกะบิตต่อวินาที ทำให้นักศึกษากว่าหนึ่งหมื่นคนในมหาวิทยาลัย สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สายและแบบต่อสายเพื่อการเรียนการสอนแบบสตรีมมิ่งออนไลน์ได้ในเวลาเดียวกันแบบไม่สะดุด รวมถึงสามารถนำเสนอ สื่อมัลติมีเดียคุณภาพสูงเพื่อการเรียนการสอนได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งเป็นการพลิกโฉมห้องเรียนโดย
ไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องเสมอไปแต่สามารถเรียนรู้จากที่ใดก็ได้บนโลก ซึ่งเป็นการพลิกโฉมหน้าวงการการศึกษาอย่างแท้จริง - SDN (Software-defined network) for Campus and Data Center Convergence แห่งแรกในประเทศไทย คือระบบเครือข่ายที่เชื่อมโยงทุกเครือข่ายในมหาวิทยาลัยเป็นหนึ่งเดียวและรวมความเป็นData Center เข้ากับCampus Network เพื่อผู้ดูแลเครือข่ายสามารถใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น และเอื้อต่อการขยายตัวของโครงข่ายในอนาคต ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ของการพัฒนาเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลก
- Educational Cloud Data Center in Containerครั้งแรกของสถาบันการศึกษาในประเทศไทย ที่นำเอาอุปกรณ์การจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดบรรจุไปในตู้คอนเทนเนอร์ที่เคลื่อนที่ได้ ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลจัดเก็บแบบบูรณาการ (All-in-one)ที่ประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งมากกว่าแบบเดิมถึง3 เท่าและติดตั้งได้เร็วกว่า 5เท่าเพราะไม่จำเป็นต้องสร้างอาคารดาต้า เซ็นเตอร์เหมือนเคยอีกต่อไป เพียง
ใส่อุปกรณ์ลงไปในตู้คอนเทนเนอร์ เสียบปลั๊ก ก็ใช้งานได้ทันที (Plug-And-Play) มาพร้อมกับระบบจ่ายและจัดสรรพลังงาน ระบบระบายความร้อน ตู้ติดตั้งไอที ระบบดับเพลิง ระบบป้องกันไฟกระชาก และ
รวมทั้งระบบตรวจติดตาม การทำงานมีเสถียรภาพและปลอดภัยสูง เริ่มใช้งานได้รวดเร็ว ย้ายตำแหน่งได้ง่าย ประหยัดพลังงานและมีค่าใช้จ่ายต่ำ
- WiFi coverage with whole campus Free Mobility แห่งแรกในประเทศไทย เครือข่ายWiFi ที่เชื่อมต่อได้ถึงระดับกิกะบิตต่อวินาทีครอบคลุมทั่วมหาวิทยาลัยถึง 3,000 จุด ทำให้คณาจารย์และนักเรียนสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ทุกที่ภายในมหาวิทยาลัย
โดยโซลูชั่นที่ใช้กับสจล.ทั้งหมดนี้ นับได้ว่า ”เป็นการพัฒนาระบบเครือข่ายในสถาบันการศึกษาที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่หัวเว่ยเคยทำมา”