ICP DAS พร้อมนำโซลูชันอัตโนมัติรุกตลาดเอเชียและเมืองไทย ชี้จุดเด่นมีผลิตภัณฑ์กว่า 2,000 รายการให้อุตสาหกรรมได้เลือกใช้ได้ตรงความต้องการ
สามารถตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ได้เป็นอย่างดี มั่นใจจะสามารถแข่งขันได้เพราะมีประสบการณ์และความแข็งแกร่งในไต้หวันมาก่อน เตรียมเพิ่มกิจกรรมการตลาดกับพาร์ตเนอร์ให้มากขึ้นก่อนที่จะคาดหวังการเติบโตในปีหน้า
นายแฟรงก์ เชง รองประธานฝ่ายขายและการตลาดของ ไอซีพี แดส ภาคการผลิตอัจฉริยะ (Smart Manufacturing) กล่าวว่า ICP DAS เป็นบริษัทอุตสาหกรรมเฉพาะด้านในไต้หวัน พร้อมแล้วที่จะรุกตลาดในประเทศแถบเอเชียรวมทั้งประเทศไทย
ด้วยผลิตภัณฑ์กว่า 2,000 รายการ ที่จะสามารถตอบสนองทุกความต้องการของทุกอุตสาหกรรมในเมืองไทยได้ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรมเพื่อตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0
ไอซีพี ดาส ได้นำโซลูชันระบบโรงงานอัตโนมัติเข้ามาตอบโจทย์ Industrial Internet of Thing (IIoT) ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจในกลุ่มของผู้ประกอบโรงงานที่กำลังมองหาวิธีการเชื่อมต่อเซ็นเซอร์และอุปกรณ์รวมกับข้อมูลต่างๆ ที่มี
เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานเพื่อสร้างการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดต้นทุนและการใช้พลังงาน รวมไปถึงเป็นการลดการสูญเสียที่อาจจะเกิดจากกระบวนการผลิต
“การแข่งขันในเมืองไทยเรามั่นใจว่าจะเป็นโซลูชันโพรวายเดอร์ที่แข็งแรง และสามารถแข่งขันได้ เพราะเรามีประสบการณ์และความแข็งแกร่งในไต้หวัน ประกอบกับการมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี จึงมีความพร้อมที่จะเข้ามาทำตลาด ด้วยราคาที่เหมาะสม และทำตามความต้องการของธุรกิจได้”
นายแฟรงก์ กล่าวว่า สำหรับตลาดในเมืองไทยเราไม่ได้มีโซลูชันที่เฉพาะเจาะจง เนื่องจากในไทยมีหลายอุตสาหกรรม และมีการใช้งานเครื่องจักรหลากหลาย มีความต้องการใช้งานที่ต่างกัน
ดังนั้นเราจะเข้าไปดูความต้องการของลูกค้าและนำเสนอโซลูชันที่สามารถตอบโจทย์กับธุรกิจของลูกค้า ทั้งทางด้านการลดต้นทุน การประหยัดพลังงาน การใช้แรงงานที่ถูกต้อง รวมไปถึงสามารถลดความผิดพลาดที่ก่อให้เกิดของเสียได้
ปัจจุบันบริษัทฯ มีลูกค้าในเมืองไทยในหลากหลายอุตสาหกรรม และช่วยให้ลูกค้าประหยัดต้นทุนด้านพลังงานได้ประมาณ 10-20% และบางรายมากกว่า 50%
โดยขณะนี้มีพาร์ตเนอร์ 5 รายและเตรียมที่จะทำกิจกรรมการตลาดกับพาร์ตเนอร์ให้มากขึ้นก่อนในปีนี้ และคาดว่าน่าจะเติบโตได้ในปีหน้า และอาจจะเปิดออฟฟิศภายใน 1-2 ปี
ทั้งนี้ทีผ่านมาบริษัทได้ดำเนินธุรกิจในเมืองไทยมาประมาณ 10 แล้ว โดยได้เจาะกลุ่มธุรกิจของไต้หวันที่อยู่ในประเทศไทย ด้วยการนำโซลูชันที่เราประสบความสำเร็จในไต้หวันมาให้บริการกับลูกค้าในไทย
เราได้เริ่มโครงการต่างๆ ในโรงงานผลิตของกลุ่มลูกค้าเหล่านั้นมาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นจึงพร้อมที่จะให้บริการกับลูกค้าในกลุ่มอื่นๆ ด้วย
“เราเป็นบริษัทเทคโนโลยีจึงไม่ได้จำกัดว่าต้องเข้าไปในอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง เมืองไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี และเป็นตลาดที่จะเติบโตได้มาก จุดเด่นของเรา คืออินทริเกรชั่นซิสเต็ม ความยืดหยุ่นของระบบ สามารถทำตามความต้องการของลูกค้าได้”
นายแฟรงก์ กล่าวว่า ล่าสุด ไอซีพี ดาส ได้จัดงานสัมมนาในหัวข้อเรื่อง Smart Manufacturing ระบบอาคารอัจฉริยะ กับกลุ่มเป้าหมายในประเทศไทย เพื่อแสดงถึงการใช้ระบบอัตโนมัติในแผนการผลิตเพื่อช่วยในการจัดกระบวนการผลิต
การเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล ผ่านกระบวนการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพโดยอัตโนมัติ อาทิ ระบบไฟฟ้าอัจฉริยะที่ช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 25%
ระบบแสงสว่างที่นำเสนอแพ็กเกจที่ปรับแต่งได้หลายอย่างพร้อมด้วยฟังก์ชันต่างๆเช่นการควบคุมสถานการณ์ การควบคุมระยะไกล เป็นต้น