ซัมซุงฉีกกฏการตลาดทีวีใหม่ ไม่ใช่แค่ดูรายการแต่ยกระดับทีวีให้เป็นหนึ่งในอุปกรณ์แสดงงานศิลป์ภายในบ้าน ส่ง ซัมซุง เดอะ เฟรม (Samsung The Frame) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Art when it’s off, TV when it’s on” ชูฟีเจอร์เด็ดแสดงภาพที่ตั้งไว้เมื่อเข้าสู่โหมดปิดเครื่อง
นางวรรณา สวัสดิกูล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า “ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่เปลี่ยนแปลงไป มีความซับซ้อนและพิถีพิถันในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์มากขึ้น เทคโนโลยีที่เลือกใช้จะต้องรองรับไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ที่ตนสนใจ ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยว ถ่ายภาพ ศิลปะ กีฬา สุขภาพ เครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ที่ออกสู่ตลาดจะไม่ใช่แค่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่ตามฟังก์ชั่นเท่านั้น แต่ตอบโจทย์เชิงไลฟ์สไตล์มากขึ้น
ทั้งนี้ผลสำรวจของซัมซุง พบว่า ในปัจจุบันผู้บริโภคดูทีวีเฉลี่ยเพียง 4 ชั่วโมงต่อวัน ในขณะที่ 20 ชั่วโมงที่เหลือทีวีจะถูกปิดเป็นจอสีดำตั้งอยู่ภายในบ้าน ผู้บริโภคจึงมองหาทีวีที่มีรูปลักษณ์สวยงาม กลมกลืนไปกับทุกๆ ห้องในบ้าน และเมื่อปิดทีวีไปแล้วทีวีก็ยังสามารถใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ด้วย
ซัมซุงจึงผสานเทคโนโลยีเข้ากับดีไซน์ออกมาเป็นไลฟ์สไตล์ทีวีรุ่นใหม่ ‘ซัมซุง เดอะ เฟรม’ ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของทีวีแห่งอนาคตที่จะฉีกทุกรูปแบบทีวีที่เคยมีมา ซึ่งออกแบบโดย อีฟ เบฮาร์ ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวสวิส ภายใต้แนวคิด “Art when it’s off, TV when it’s on” ดีไซน์ทีวีเหมือนกรอบภาพ ที่ผู้ใช้สามารถเลือกภาพเพื่อแสดงบนหน้าจอได้ตามต้องการเมื่อไม่ได้ดูทีวี ทั้งงานศิลป์จากศิลปินระดับโลก และภาพส่วนตัว เพื่อสะท้อนตัวตนของผู้ใช้มากที่สุด
“นับจากนี้ทีวีจะไม่ได้เป็นแค่ทีวี แต่จะเป็นศิลปะล้ำค่าในบ้านที่จะกลมกลืนไปกับชีวิตประจำวันของผู้ใช้ และเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นแกลเลอรี่ โดยการันตีด้วยรางวัลสุดยอดนวัตกรรม (Best of Innovations Award) จากงาน CES ประจำปี 2017”
ซัมซุง เดอะ เฟรม (Samsung The Frame)
นายสุวิณ โกษีอำนวย ผู้อำนวยการธุรกิจภาพและเสียง ซัมซุง กล่าวว่า Samsung The Frame มาพร้อมกับ Art Mode ฟังก์ชั่นพิเศษนวัตกรรมหนึ่งเดียวจากซัมซุงที่จะช่วยเปลี่ยนทีวีให้กลายเป็นงานศิลปะเมื่อทีวีถูกปิดไว้ โดยให้ผู้ใช้สามารถเลือกแสดงภาพงานศิลปะกว่า 100 แบบ จากศิลปินระดับโลกใน 10 สาขา รวมทั้งสิ้น 37 คน ผ่านคลังรูปภาพ Samsung Collection หรือแสดงภาพครอบครัวและรูปภาพส่วนตัวจาก My Collection และยังสามารถเลือกสรรงานศิลป์เพิ่มเติมได้จาก Art Store”
โดยมีความละเอียดหน้าจอขณะเปิดรับชมที่ระดับยูเอชดี (UHD) พร้อมเซนเซอร์วัดความสว่างของแสงโดยรอบ (Brightness Sensor) ที่ช่วยปรับระดับความสว่างของหน้าจอโดยอัตโนมัติ และเซนเซอร์วัดการเคลื่อนไหว (Motion Sensor) ที่จะปรับเป็นโหมดประหยัดพลังงานเมื่อไม่มีคนอยู่ในห้องและเมื่อปิดทีวี
นอกจากนี้ Samsung The Frame ยังมาพร้อมกับ Customizable Frame กรอบทีวีที่ผู้ใช้สามารถถอดเปลี่ยนได้ โดยมีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ สีวอลนัท สีไม้เบจ และสีขาว มาพร้อมอุปกรณ์ครบชุดที่จะช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน
ทั้ง Invisible Connection สายไฟเบอร์ออปติคบางใส อุปกรณ์ติดทีวีกับผนังแบบไร้ช่องว่าง No Gap Wall-Mount และขาตั้งแบบต่างๆ ให้เลือก โดยมาพร้อมกับ ‘One Remote Control’ ที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ Samsung The Frame ได้โดยใช้รีโมทเดียว
ขณะที่การทำตลาด Samsung The Frame มุ่งเน้นไปที่การสร้างการรับรู้และประสบการณ์ตรงในกลุ่มเป้าหมายได้สัมผัส ด้วยกิจกรรมทางการตลาดกระตุ้นให้คนมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการจัดพื้นที่พิเศษแสดงผลิตภัณฑ์ ณ ร้านค้ากว่า 40 แห่ง พร้อมส่งดิจิทัลแคมเปญผ่านคนดังที่รักศิลปะและเทคโนโลยี เพื่อให้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์และบอกต่อ นอกจากนี้ยังจับมือกับกลุ่มธุรกิจต่างๆ อาทิ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในการนำผลิตภัณฑ์ไปติดตั้งในโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม
ทั้งนี้ ซัมซุงยังเตรียมมอบเอกสิทธิ์* มากมายให้แก่ลูกค้า ซัมซุง เดอะ เฟรม อาทิ เมื่อลงทะเบียนผ่าน My Samsung โดยเพิ่มการรับประกันยาวนานขึ้นอีกสูงสุด 2 ปี ดูภาพยนตร์และซีรีส์ผ่าน iflix ไม่อั้น ฟรี 1 ปี มูลค่า 1,200 บาท
พร้อมสร้างความพิเศษยิ่งกว่าเคยด้วย ซัมซุง เดอะ เฟรม โฮม เดโม (Samsung The Frame Home Demo) ครั้งแรกที่ซัมซุงเตรียมทีมสาธิตผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษก่อนซื้อให้ผู้บริโภคที่สนใจ ซัมซุง เดอะ เฟรม ถึงที่บ้าน
“ซึ่งซัมซุงมั่นใจว่า Samsung The Frame จะเป็นไลฟ์สไตล์ทีวีอีกหนึ่งรุ่นที่จะมาสร้างมิติใหม่ให้กับวงการทีวี พร้อมช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีและดีไซน์ของซัมซุง สมฐานะผู้นำตลาดทีวีต่อเนื่องถึง 11 ปี”