พานาโซนิค เปิดตัว Panasonic Smart Solution Center หวังขยายธุรกิจแบบ B2B มากขึ้น เล็งเจาะกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเติบโตได้ดี
หวังใช้โชว์รูมนี้เป็นตัวสื่อสารกระตุ้นการซื้อโซลูชันใหม่ๆ มั่นใจภายในปี 2020 จะเพิ่มสัดส่วนของ B2B เป็น 20% จากปัจจุบันอยู่ที่ 5%
นายฮิเดคาสึ อิโตะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พานาโซนิค แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยดูสดในและมีความหวังที่จะเดินต่อไปมากขึ้น พานาโซนิคจึงพร้อมที่จะนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดในเมืองไทย
ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรบกลุ่มลูกค้าทั่วไป รวมไปถึงลูกค้าองค์กรธุรกิจที่กลุ่มพานาโซนิคได้เตรียมโซลูชันที่ทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการตลาด โดยเฉพาะในส่วนของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งถือเป็นเป้าหมายหนึ่งที่สำคัญ

ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมากลุ่มบริษัทพานาโซนิคในประเทศไทย ได้เริ่มรุกเข้าถึงกลุ่มนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น โดยได้วางกลยุทธ์ในการทำตลาดแบบ B2B กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Developer) และกลุ่มองค์กรหรือสำนักงาน ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยในปัจจุบันพานาโซนิคมีสัดส่วนการขายในกลุ่มลูกค้าทั่วไปหรือ B2C อยู่ที่ 95% และ B2B อยู่ที่ 5% แต่ภายในปี 2020 จะเพิ่มสัดส่วนของ B2B เป็น 20%
“ล่าสุดพานาโซนิคได้ทำการเปิดตัว Panasonic Smart Solution Center ให้เป็นโชว์รูมสำหรับจัดแสดงและสาธิตผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม รวมไปถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคตของกลุ่มบริษัทพานาโซนิคในประเทศไทยทั้งหมดไว้ในที่เดียว”
“โดยจะใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารกับคู่ค้าทางธุรกิจ ให้ได้เห็นภาพรวมทั้งหมดของผลิตภัณฑ์ ทั้งรูปลักษณ์ การจัดวาง การใช้งาน และฟังก์ชันต่างๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น”

“นอกจากนี้โชว์รูมแห่งนี้ยังจะเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่กลุ่มคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจของพานาโซนิคใช้เป็นพื้นที่ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันต่างๆ ให้แก่ลูกค้าได้”
นายฮิเดคาสึ กล่าวว่า พานาโซนิคมีโซลูชันหลายประเภท สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ในปัจจุบันเริ่มเปลี่ยนไป ใช้สินค้าในระดับกลางถึงบนมากขึ้น พานาโซนิคจึงชูจุดขายในเรื่องของความเป็นเจแปนควอลิตี้
โดยโชว์รูมแห่งนี้ถือเป็นโชว์รูมด้าน Home & Commercial Solution ของพานาโซนิคแห่งแรกในไทย จัดแสดง และเป็น 1 ใน 4 ประเทศที่พานาโซนิคเปิดโชว์รูมเพิ่ม ซึ่งประกอบด้วย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม และไทย รองรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกเหนือจากโชว์รูมที่มีอยู่ในกรุงโตเกียวและโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น โดยแต่ละโชว์รูมจะถูกออกแบบให้เหมาะสมกับตลาดและความต้องการของแต่ละประเทศ
ภายในโชว์รูมจึงมีการจำลองโซลูชันต่างๆ เข้ามาเพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนไทย ซึ่ง Panasonic Smart Solution Center มีพื้นที่ทั้งสิ้น 844 ตรม. (แบ่งเป็นพื้นที่จัดแสดงสินค้าขนาด 352 ตรม. พื้นที่เอนกประสงค์ขนาด 396 ตรม. และห้องประชุม/อบรมขนาด 96 ตรม.) โดยมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นต่างๆ ไว้ถึง 6 โซน ได้แก่
1.Extreme Visual Space จัดแสดงนวัตกรรมในการแสดงภาพ โดยการใช้เครื่องโปรเจ็กเตอร์ พร้อมเลนส์ฉายภาพระยะสั้นทำเป็นภาพ Panorama 180 องศา มีผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ ได้แก่

เครื่องเลเซอร์โปรเจ็คเตอร์ PT-RZ770BA ที่มีความสว่าง 7,000 ลูเมนต์ อายุการใช้งานยาวนานถึง 20,000 ชม. และ ET-DLE030 เลนส์ระบบการฉายที่สั้นที่สุดของ Panasonic ช่วยลดอุปสรรคด้านพื้นที่ในการฉายภาพ
2.Smart & Healthy Living เป็นโซนรวมสินค้าพานาโซนิคที่มีความ Smart & Healthy ไว้ด้วยกัน จัดแสดงสินค้าเพื่อดูแลและสร้างความสะดวกสบาย ปลอดภัย ให้ชีวิตง่ายขึ้นด้วยโซลูชันต่างๆ ที่พานาโซนิคได้รวบรวมไว้เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การดำเนินชีวิตอย่างมีคุณภาพ
อาทิ เครื่องปรับสภาพอากาศขนาดใหญ่ ระบบ ERV และเครื่องปรับอากาศ Sky Series ดีไซน์เรียบหรู รวมไปถึง Smart Home Solution ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำอัจฉริยะ ที่มีทั้งระบบโถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำที่ถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกสะบายลดปัญหาการใช้งานทั้งเด็กและผู้สูงอายุได้
3.Modernized Office จัดแสดงประสิทธิภาพของการเชื่อมต่อทุกการสื่อสารเข้าด้วยกัน เพื่อความสะดวกสบาย และตอบโจทย์การทำงานในออฟฟิศอย่างมืออาชีพ โดยดึงเอาเทคโนโลยีมาเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ
ไม่ว่าจะเป็นการฝังหน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่บนโต๊ะเพื่อที่ทุกคนในห้องประชุมสามารถแชร์ไอเดียลงบนจอทัชสกรีนได้ทันที รวมไปถึง การประสานการทำงานร่วมกันระหว่าง PBX เชื่อมต่อผ่าน HDVC ที่จะช่วยลดทอนอุปสรรคต่างๆ ระหว่างการประชุมแบบ Conference
ทำให้ไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสาร ไม่เว้นแม้แต่อยู่นอกพื้นที่การประชุมก็สามารถทำการ Conference เชื่อมต่อกับ Smart Phone ได้
4. Advanced Retail เป็นการรวมเอาเทคโนโลยีสุดล้ำที่ใช้ในการแสดงสินค้าในส่วนร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าที่ทันสมัย มารวมเข้ากับระบบรักษาความปลอดภัยในรูปแบบครบวงจรที่ทำได้มากกว่าแค่การรักษาความปลอดภัย
เพราะด้วยการออกแบบโซลูชั่นเพื่อการเฝ้าระวัง ดูแลป้องกันเหตุร้าย และยังมีระบบตรวจจับความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำ พร้อมทั้งระบบการวิเคราะห์ภาพ
โดยมีผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ได้แก่ Space Player เทคโนโลยีสำคัญในการทำ Mapping ที่จะทำให้การใช้พื้นที่ในการแสดงสินค้านั้นมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น ทั้งยังมี Link Ray เทคโนโลยีการใช้แสงเป็นตัวแสดงคอนเท้นท์ผ่านแอปพลิเคชันจากสมาร์ทโฟน
และ Tolso Lighting เทคโนโลยีที่จะทำให้สินค้าบนชั้นโชว์แสดงสีสันสดใสมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น รวมไปถึง Panasonic OLED TV ทีวีรุ่นใหม่ที่เป็นที่สุดของคุณภาพทางด้านภาพที่แท้จริงจากมุมมองของผู้สร้างภาพยนตร์
5.Future Lifestyle เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ ที่จัดไว้เพื่อรองรับการนำเสนอ แสดงสินค้าและเทคโนโลยีในอนาคตได้อย่างมืออาชีพ
6.Safety Town เป็นโซนที่จะแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของระบบรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร โดยเป็นโซลูชันที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานรูปแบบสาธารณะ
ทั้งกล้องวงจรปิดและการเชื่อมต่อ Public Wi-Fi รวมไปถึงการนำเอาพลังงานโซลาร์เซลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด