ทีเอ็มบียกระดับบริการที่ปรึกษาด้านการลงทุนด้วย TMB Advisory บริการที่ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนได้แบบไม่มืด 8 ด้าน พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนคุณภาพที่คัดแล้วจากพันธมิตร 8 บลจ.ชั้นนำ ร่วมจับมือกับพันธมิตร Amundi ให้ช่วยออกแบบพอร์ตการลงทุน 5 แบบ เผยพร้อมปรึกษาฟรีได้หลายช่องทางตั้งแต่โทรสอบถามไปจนถึง VDO Conference
นายรูว์ ไฮซแมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้ารายย่อย ทีเอ็มบีหรือ ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า ทีเอ็มบีได้เปิดกว้างทางด้านการลงทุนลูกค้าทุกคนตามความต้องการ ไม่จำกัดเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งด้วยบริการดังกล่าวนี้นอกจากจะช่วยเพิ่มอิสระและโอกาสทางการลงทุนแล้ว ยังทำให้ลูกค้ามีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น
โดยได้เริ่มบริการให้คำปรึกษามาตั้งแต่ปี 2557 จนถึงวันนี้ถือว่าสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้ลงทุนและและประสบการณ์ใหม่ที่มีความหมายต่อลูกค้า ทำให้ในรอบ 3 ปีผ่านมา มีลูกค้าเพิ่มขึ้น 30%
ล่าสุดจึงยกระดับอีกขั้นด้วยบริการ TMB Advisory บริการที่ปรึกษาด้านการลงทุน สามารถตอบโจทย์ของลูกค้าผู้ลงทุนในยุคดิจิทัล ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงข่าวสารผ่านช่องทางที่หลากหลาย เพื่อจะได้รับรู้ถึงทางเลือกและข้อเสนอมากมาย สามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะลูกค้าที่ต้องการคำปรึกษา การดูแล ตลอดเส้นทางการลงทุน เพราะอาจมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับเป้าหมายในแต่ละช่วงชีวิต หรือสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป
“ลูกค้าจะสามารถเลือกรับคำแนะนำ และปรึกษาได้ฟรี หลากหลายช่องทาง เช่น TMB Advisory Room ที่สาขา ซึ่งลูกค้าสามารถปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญผ่าน VDO Conference ได้แบบ Real Time, สามารถสอบถาม ซื้อขายกองทุนผ่าน TMB Contact Center 1558 กด #9, เลือกรับข่าวสารการลงทุนได้ฟรีจาก LINE @TMBadvisory และสามารถค้นหาข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ TMB Advisory”
นายรูว์ กล่าวว่า ปัจจุบันทีเอ็มบีมีลูกค้าที่นิยมลงทุนในรูปแบบกองทุนรวมอยู่กว่า 262,000 ราย มีสัดส่วนกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ และกลุ่มลูกค้ารายย่อย เป็น 35:65 โดยมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนรวม (AUM) ที่ซื้อขายผ่าน ทีเอ็มบี ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2560 อยู่ที่ 2.63 แสนล้านบาท เติบโต 17% จากสิ้นปี 2559 เทียบกับทั้งระบบอุตสาหกรรมเติบโต 6% และเรามั่นใจว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ด้านนางสาวศันสนีย์ ปางมณี หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มลูกค้าธนบดีและธนบดีธนกิจ ทีเอ็มบี กล่าวว่า TMB Advisory ประกอบไปด้วยคอนเซ็ปต์ของบริการการลงทุนที่เปิดเสรีแบบ Open Architecture ที่คัดสรรกองทุนดีๆ ยี่ห้อดังๆ จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำของประเทศถึง 8 แห่ง ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในสินทรัพย์หลากหลายประเภททั้งในประเทศและต่างประเทศ
รวมทั้งมีจุดเด่นและมีเครือข่ายในต่างประเทศทั่วโลก จะเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้กับลูกค้า ประกอบด้วย บลจ.ทหารไทย, บลจ.ยูโอบี(ประเทศไทย), บลจ.ซีไอเอ็มบี พรินซิเพิล, บลจ.อเบอร์ดีน, บลจ.แมนูไลฟ์(ประเทศไทย), บลจ.วรรณ, บลจ.ทิสโก้ และล่าสุดบลจ.กสิกรไทย ที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตร ซึ่งแต่ละแห่งที่เราเลือกมาเป็นผู้เชี่ยวชาญการลงทุนที่แตกต่างกัน
โดยจะวิเคราะห์ข้อมูลการรับความเสี่ยงในการลงทุนของลูกค้า พร้อมๆ กับความต้องการของลูกค้า แล้วให้คำปรึกษาการลงทุน เพื่อให้ลูกค้าสามารถได้รับผลตอบแทนที่ต้องการในระยะยาวและไปถึงเป้าหมายการเงินที่วางไว้
ซึ่งการจะประสบความสำเร็จในการลงทุนจะประกอบด้วย 3 เรื่อง คือ อันดับแรก การจัดสัดส่วนการลงทุน (Asset Allocation) อันดับที่สอง การเลือกหลักทรัพย์ที่จะลงทุน (Security Selection) และอันดับที่สาม การจับจังหวะการลงทุน (Market Timing)
นางมารี แรมลี หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์ธุรกิจรายย่อย ทีเอ็มบี กล่าวว่า สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการนี้ จะมี Amundi พันธมิตรใหม่จากฝรั่งเศส ซึ่งเป็นบริษัทจัดการลงทุนรายใหญ่ของโลกและมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการเป็นอันดับ 1 ในยุโรป มูลค่ากว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ มาช่วยออกแบบโมเดลพอร์ตการลงทุน 5 รูปแบบ เพื่อแนะนำการลงทุนให้กับลูกค้าตามความเสี่ยงที่ลูกค้ารับได้
พอร์ตการลงทุนทั้ง 5 รูปแบบ จัดไว้สำหรับลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้ต่ำไปจนถึงสามารถรับความเสี่ยงได้สูง 1.พอร์ต Risk Averse ไม่มีการลงทุนในหุ้น เน้นคุ้มครองเงินต้น โดยจะลงทุนในตราสารหนี้ไทย และตราสารหนี้ต่างประเทศ 2.พอร์ต Conservative ลงทุนในหุ้น 20% ที่เหลือลงทุนตราสารหนี้
3.พอร์ต Balanced ลงทุนในหุ้น 50% และตราสารหนี้ 50% 4.พอร์ต Advanced ลงทุนในหุ้น 70% และตราสารหนี้ 30% และ 5.พอร์ต Aggressive ลงทุนในหุ้น 100% ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง
โดยทุกรูปแบบจะเน้นจัดสรรสัดส่วนการลงทุนระยะยาว กระจายการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยแต่ละพอร์ตจะคัดเลือกกองทุนและแนะนำสัดส่วนรายกองทุน ว่าควรจะลงทุนในกองทุนใดสัดส่วนเท่าไหร่ นอกจากนี้จะมีการแนะนำปรับพอร์ตการลงทุนทุกเดือน เพื่อให้เหมาะสมกับภาวะตลาด และควบคุมความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนให้อยู่ในกรอบที่วางไว้ โดยบริการนี้จะไม่มีข้อผูกมัด และไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม