เอไอเอส สะกิดเตือนกสทช.ให้ทบทวนเรื่องที่จะใช้ “แจส โมบาย” ที่เคยทำเรื่องงามหน้าไว้ ในการประมูลครั้งที่แล้ว ให้เข้ามาประมูลรอบใหม่ เพราะเป็นที่คาใจของนักลงทุนต่ างชาติเป็นอย่างมาก
ส่วนเอไอเอสยังพร้อมที่จะเข้ าประมูลทุกเมื่อแต่ต้องดูเงื่ อนไขการประมูลที่ชัดเจนก่อน ว่าคณะกรรมการกสทช.ชุดใหม่ว่ าจะเดินตามรอยหรือจะมีการแก้ ไขเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เพราะโดยส่วนตัวยังมีคลื่นเพี ยงพอ
สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า การที่สำนักงานคณะกรรมการกิ จการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.
เปิดโอกาสให้ แจส โมบาย สามารถเข้ามาประมูลครั้งใหม่คลื่นความถี่ 900 MHz (890-895 MHz/935-940 MHz) และคลื่น 1800 MHz (1740-1785 MHz/1835-1880 MHz) ที่กำหนดให้มีการเปิดให้มี การประมูลได้ในเดือน พ.ค. 2561
ก่อนจะออกใบอนุญาตได้ในเดือน มิ.ย. 2561 นั้น สร้างความสงสัยให้กับนักลงทุนทั้ งไทยและต่างชาติเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ ที่ตั้งคำถามว่าทำไมกสทช.ทำเหมื อนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สิ่งนี้กลับส่งผลต่อธรรมาภิ บาลของประเทศในภาพรวมด้วย เพราะหากมองดูแล้วกรณีแจส โมบาย
นั้นอาจจะไม่กล้าเรียกได้ว่าเป็นเคสเดียวในโลกที่ทำแบบนี้ แต่เท่าที่เคยประสบมาก็ไม่เคยมี ใครทำแบบนี้มาก่อน นักลงทุนหลายคนจึงสงสัยว่ามั นเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แต่การประมูลครั้งนี้ เอไอเอสยังไม่เชื่อว่าจะมีผู้ ให้บริการต่างชาติเข้ามาประมูล เพราะบ้านเราไม่มีระบบอินฟราสตั คเจอร์แชร์ริ่ง แบบชัดเจน หากเขาเข้ามาลงทุนเขาต้องเริ่ มปูพรมเน็ตเวิร์กใหม่หมด ต้นทุนสูง และไม่สามารถแข่งขันกับรายเดิ มได้ จึงเชื่อว่าน่าจะมีแค่ 3 ค่าย คือ เอไอเอส ดีแทค และทรู
ดีแทค อาจจะเป็นค่ายที่ต้องการมากที่ สุดเพราะสัญญาสัมปทานกำลั งจะหมดลงแต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังเชื่อว่าการประมูลครั้งนี้ ก็ต้องมีผู้ประมูล แม้จะแพงแต่ก็เป็นการประมูลที่ ผู้ให้บริการก็จำเป็นต้ องหวานอมขมกลืน และที่สำคัญหากเงื่อนไขการประมู ลยังคงเริ่มที่ราคาสูงแบบนี้
การแข่งขันในการประมูลก็คงไม่ดุเดือด เพราะสภาพตลาดโดยรวมทั้ง เอไอเอส ดีแทค และทรู มีคลื่นรวมกันอยู่ที่ 55 MHz หรือ 100 MHz เมื่อนำมาคูณ 2 ก็ยังนับว่าเพียงพออยู่ในขณะนี้
สมชัย กล่าวว่า เอไอเอสสนใจที่จะประมูลแต่ การจะเข้าร่วมประมูลหรือไม่ยั งต้องขอดูเงื่อนไขการประมูลที่ ชัดเจนในคณะกรรมการกสทช.ชุดใหม่ ก่อนว่าจะเดินตามรูปแบบเดิมที่ รักษาการกสทช.ร่างไว้
หรือ จะมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างไร โดยในเรื่องแรกนั้นเอไอเอสจะพิ จารณาจากความต้องการคลื่นความถี่ เนื่องจากการประมูลครั้งนี้นั บว่ามีความจำเป็นน้อยกว่า เพราะคลื่นที่เอไอเอสมีอยู่ยั งคงเพียงพอในการให้บริการ แตกต่างจากการประมูลในครั้งที่ ผ่านมาที่คลื่นประมูลไปล้วนแต่ เป็นคลื่นที่ต้องการทั้งสิ้น
“เอไอเอสมองว่าการนำราคาครั้งที่แล้วมาเป็นตัวตั้งไม่ใช่ คำตอบของราคาเริ่มต้นที่ถูกต้อง เพราะราคาครั้งที่แล้วเป็ นราคาที่ผิดปกติ แพงเกินไปจากการที่มีบางรายต้ องการคลื่นแต่สุดท้ายไม่มีเงิ นจ่าย
และส่วนสุดท้ายคือ สภาพการแข่งขัน หากต้องประมูลด้วยราคาที่สูง การแข่งขันจะไม่สามารถแข่งได้ สุดท้ายผู้บริโภคจะถูกผลั กภาระให้ใช้บริการที่แพงขึ้น เพราะต้นทุนที่สูงนั่นเอง ซึ่งแม้เอไอเอสจะพร้อมที่ จะประมูลแต่ก็ต้องนำหลายสิ่ งมาประกอบเข้าด้วยกัน”
อยากให้กสทช.ชุดใหม่เป็น กสทช.ที่เข้าใจอุตสาหกรรม เข้าใจบริบทการกำกับดูแล ที่ต้องสนับสนุนมากกว่าการกำกับ และต้องสนับสนุนอย่างเท่าเที ยมทั้งภาคเอกชน รัฐบาล และประชาชน
แต่ที่ผ่านมาโชคดีที่ผู้ให้บริการทั้ง 3 รายแข็งแรงมาก ทำให้การลงทุนขยายเน็ตเวิร์กเป็ นไปได้เร็วกว่าเป้าหมายที่กสทช. วางไว้ ทำให้รัฐไม่ต้องเสียเงินลงทุนผ่ านรัฐวิสาหกิจ