พี่ไม่ได้มาเล่นๆ สำหรับการรุกตลาดของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ในปีนี้ เพราะยอดขาย 9 เดือนแรกของปี 2560 ที่ผ่านมา จากบีเอ็มดับเบิลยูและมินิมีจำนวนถึง 7,702 คัน หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และถือเป็นสถิติยอดขายใน 3 ไตรมาสแรกของปีที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์
พร้อมด้วยสถิติใหม่ด้วยยอดขายจากบีเอ็มดับเบิลยูในเดือนกันยายน 2560 เพียงเดือนเดียว ถึง 1,003 คัน ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 40%
การเติบโตดังกล่าวเป็นตัวเลขที่ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะที่ผ่านมาบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบสนองความต้องการตลาดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้เราก็จะได้เห็นรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป อีกหลายรุ่นเช่นกัน
เริ่มต้นด้วย บีเอ็มดับเบิลยู 330e (Iconic) ที่จะมาเสริมทัพรถยนต์ในกลุ่มปลั๊กอิน ไฮบริด ซึ่งกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เพราะสามารถชาร์จไฟฟ้าได้จากปลั๊กไฟที่บ้านก็สามารถขับเคลื่อนไปได้
จากนั้นจะตามมาด้วย มอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยู G 310 GS สมาชิกใหม่ล่าสุดของตระกูล GS เพื่อการเดินทางแบบผจญภัย และรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 โฉมใหม่ ที่จะเข้ามาเพิ่มสีสันให้กับวงการเอสยูวีระดับหรูอีกคันนึง ก่อนที่จะปิดท้ายด้วย มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่
ซึ่งมาพร้อมชุดแต่งในตระกูลจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ขนานแท้ ที่ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากรถในสนามแข่ง โดดเด่นด้วยดีไซน์ John Cooper Works ทั้งภายนอกภายใน เรียกได้ว่าทั้ง 4 รุ่นที่เตรียมเปิดตัวนี้ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ลูกค้ากำลังจับตามอง
สเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า การเติบโตของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยในปี 2560 เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการรุกตลาดรถยนต์พรีเมียม และยังสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคคนไทยที่มีต่อบีเอ็มดับเบิลยู
เช่นเดียวกับในตลาดโลกที่ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน ด้วยยอดขาย 239,764 คันในเดือนกันยายน ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.8% จากเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา และนับเป็นส่วนหนึ่งของสถิติยอดขายใหม่จาก 3 ไตรมาสแรกของปี 2560 ที่ 1,811,234 คัน ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 3.7%
สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู 330e (Iconic) เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่จะตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าชาวไทย และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในตระกูลบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 ซึ่งเป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาด โดยมาพร้อมกับเทคโนโลยีปลั๊กอิน ไฮบริด ที่ช่วยประหยัดน้ำมันด้วยเทคโนโลยี iPerformance ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซิน 4 สูบและเทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู TwinPower Turbo
สามารถส่งกำลังสูงสุดได้ถึง 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้า พร้อมแรงบิด 290 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้ามอบกำลังเพิ่มเติมสูงสุดอีก 65 กิโลวัตต์ / 89 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ทำงานประสานกันกับระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมให้สมรรถนะที่ตอบสนองได้ทันใจด้วยอัตราเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 6.1 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ในขณะที่อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ต่ำเพียง 55.6 กิโลเมตรต่อลิตร และลดระดับมลภาวะในการขับขี่กับอัตราการปล่อย CO2 ที่ 42 กรัมต่อกิโลเมตร ซึ่งแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงดันสูงในบีเอ็มดับเบิลยู 330e (Iconic) สามารถชาร์จได้กับปลั๊กไฟบ้านทั่วไป โดยใช้เวลาในการชาร์จให้เต็มประมาณ 3 ชั่วโมง
หรือหากชาร์จด้วยอุปกรณ์ บีเอ็มดับเบิลยู ไอ วอลล์บ็อกซ์ เพียว (BMW i Wallbox Pure) ที่ทั้งปลอดภัย ใช้งานง่าย และรวดเร็วด้วยกำลังไฟถึง 3.7 กิโลวัตต์ (16 แอมป์ / 230 โวลท์) จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง
บีเอ็มดับเบิลยู 330e (Iconic) ราคาเริ่มต้นที่ 2,259,000 บาท พร้อม BSI Standard ให้บริการบำรุงรักษา 3 ปี / 60,000 กม. และการรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมข้อเสนอและสิทธิประโยชน์ทางการเงินจากบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียลเซอร์วิสให้เลือกสรร