พาไปรู้จักนวัตกรรมหุ่นยนต์และ AI ก่อนงาน แสนสิริ ไลฟ์ คัมส์ โฮม 2017

พาไปรู้จักนวัตกรรมหุ่นยนต์และ AI ก่อนงาน แสนสิริ ไลฟ์ คัมส์ โฮม 2017
แสนสิริ ฉีกกฏการแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่แค่การขายทำเลและดีไซน์ ด้วยการนำเสนอรูปแบบใหม่ของชีวิตยุคหน้า กับการเปิดตัว Siri LifeTech ผ่าน 6 นวัตกรรมเพื่อรูปแบบการอยู่อาศัยแนวใหม่ ที่พร้อมจะสร้างการรับรู้และมีการใช้จริงแล้วในบางฟังก์ชัน
แสนสิริ เตรียมจัดงาน “Sansiri Life Comes Home 2017” แนะนำ 6 นวัตกรรม ใหม่ที่นำเทคโนโลยีเข้ามาตอบสนองการใช้ชีวิตยุคดิจิทัล และงานนี้แสนสิริยังได้ทำการเปิดตัว 2 โครงการใหม่ “oka HAUS” และ “kawa HAUS” งานนี้แสนสิริตั้งเป้าหมายยอดขายแคมเปญกว่า 8,000 ล้านบาท และมั่นใจว่าจะทำรายได้สู่เป้าหมายยอดขายตลอดทั้งปีอยู่ที่ 40,000 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน
“Siri  LifeTech” จะเป็น 6 นวัตกรรมเพื่อการใช้ชีวิตและการอยู่อาศัยแนวใหม่ เติมเต็มทุกรูปแบบการอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบ (Complete Your Living Experience) ทั้งที่ใช้งานจริงแล้วในโครงการปัจจุบันและเตรียมนำมาใช้ในโครงการในอนาคตอันใกล้
1.Sansiri Home Service Application แอปพลิเคชันสำหรับลูกบ้านแสนสิริที่จะช่วยประสบการณ์ใหม่ของ
การอยู่อาศัย ลูกบ้านจะสามารถการติดตามข่าวสารและการติดต่อกับโครงการและนิติบุคคลได้ง่ายดายและสะดวกยิ่งขึ้นผ่านทางแอปพลิเคชัน
ทั้งด้านการติดตามข่าวสารจากโครงการ (Announcement) การส่งข้อความติดต่อกับนิติบุคคล (Messaging) ระบบรับการแจ้งเตือนเมื่อมีพัสดุส่งถึงเจ้าของห้อง (Mailbox) การบริหารจัดการค่าส่วนกลาง / ยอดเงินฝาก / ยอดเงินค้างชำระ (My Account) รวมถึงการแจ้งซ่อมและการตรวจสอบสถานะการแจ้งซ่อม (Home Care)
ผู้อาศัยจะสามารถเข้าสู่ระบบอย่างง่ายดายผ่านระบบปฏิบัติการ iOS, Android, โดยสามารถใช้งานได้ถึง 5 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ จีน (traditional, simplified) และภาษาญี่ปุ่น ทั้งยังสามารถล็อคอินเข้าสู่ระบบโครงการที่ผู้ใช้เป็นเจ้าของได้มากกว่าหนึ่งโครงการผ่านระบบเพียงระบบเดียว
อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับระบบ Home Automation ซึ่งสามารถควบคุมการเปิดปิดไฟ รวมถึงเครื่องปรับอากาศผ่านทางแอปพลิเคชัน
และในโครงการใหม่ของแสนสิริยังสามารถจองห้องสันทนาการต่างๆ ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางผ่านแอปพลิเคชัน (Facility booking) ได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบายกว่าเดิม ปัจจุบัน Sansiri Home Service Application มีผู้ใช้มากกว่า 20,000 ราย จากกว่า 150 โครงการ
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน ONLINE SHOPPING BY SB FURNITURE ซึ่งเป็นฟังก์ชันใหม่พร้อมที่จะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2560 เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ในการชอปปิ้งและตกแต่งบ้านได้เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส
แสนสิริ
SAN:DEE Delivery Bot
2.SAN:DEE Delivery Bot หรือ แสนดี หุ่นยนต์ไฮเทคส่งของถึงหน้าห้องพัก ซึ่งขณะนี้ได้มีการใช้งานจริงแล้วทั้งในส่วนของออฟฟิศแสนสิริเอง และที่โครงการ เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า โดยแสนดีจะทำหน้าที่ส่งของอย่างเช่น อาหารที่สั่งแบบดีลิเวอร์รี่ พัสดุ ผ่านการควบคุมของพนักงานส่วนกลางที่จะเป็นตัวเชื่อมให้หุ่นยนต์สามารถส่งของให้กับผู้พักได้ถึงหน้าห้อง
โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องลงมารับสินค้าเอง เพียงรอและรับโทรศัพท์ที่แสนดีจะโทรเข้าไปเรียก เมื่อเดินทางมาถึงหน้าห้องแล้ว ถือเป็นการยกระดับความปลอดภัยของลูกบ้านด้วยการป้องกันไม่ให้คนแปลกหน้าเดินขึ้นไปส่งของโดยตรง
แสนดีนี้เป็นหุ่นยนต์ที่แสนสิริได้ทำการพัฒนาร่วมกับสิงคโปร์ และพาร์ทเนอร์อย่างมิตซูบิชิ ที่ทำเรื่องลิฟท์ เนื่องจากแสนดีจะต้องสามารถขึ้นและลงลิฟท์เองได้โดยอัตโนมัติ เมื่อได้รับคำสั่งว่าให้ไปส่งที่ห้องใด ชั้นใด โดยแสนดีที่มาพร้อมระบบการนำทางหลบหลีกสิ่งกีดขวางและสามารถขึ้นลิฟท์ด้วยตัวเองได้
โดยมีความเร็วสูงสุดที่ 1.5 เมตรต่อวินาที และสามารถรับน้ำหนักได้สูงสุดมากถึง 80 กิโลกรัม  ส่วนการจะนำแสนดีไปให้บริการในโครงการใดนั้น จะต้องมีการวางแผนและแบบแปลนเพื่อใส่ข้อมูลให้แสนดีก่อน เนื่องจากแต่ละโครงการมีจำนวนชั้นและห้องไม่เท่ากัน
3.Sansiri AI BOX ระบบปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถรับการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยครั้งแรกของประเทศ ซึ่งแสนสิริพัฒนาร่วมกับ บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เดลิเทค จำกัด โดยระบบ Sansiri AI Box เชื่อมต่อกับทั้งระบบ Home Automation ซึ่งอำนวยความสะดวกในการเช็คข่าวประจำวัน ตรวจสอบสภาพอากาศ สภาพการจราจร
นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อด้านความบันเทิง โดยสามารถฟังเพลงไทย หรือรับคลื่นวิทยุในประเทศไทยได้ รวมไปถึงการสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้าน เช่น การเปิด-ปิดไฟ เครื่องปรับอากาศ และโทรทัศน์ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับระบบ Sansiri Home Service Application ซึ่งทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถจองพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการได้ เช่น จองห้องโยคะ หรือสั่งให้แสนดี นำพัสดุมาส่งให้ที่ห้อง เพียงแค่สั่งงานด้วยเสียง
4.Smart Move แพลตฟอร์มบริการเช่ายานพาหนะในโครงการของแสนสิริเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตให้กับคนรุ่นใหม่ โดยมีรถยนต์ที่ควบคุมและใช้พลังงานไฟฟ้า 100% สำหรับ Car Sharing ให้ลูกบ้านได้เช่าใช้และคิดค่าบริการจริงเป็นนาที พร้อม EV Charger เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
ได้ทั้งความสะดวกสบายและยังสามารถช่วยลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย นำร่องด้วย BMW รุ่น i3 ซึ่งนำมาใช้ในโครงการเดอะไลน์ จตุจักร-หมอชิต เป็นโครงการแรก
แสนสิริ
Farmshelf
5.Farmshelf นวัตกรรมฟาร์มแนวตั้งอัจฉริยะจากสหรัฐอเมริกาที่กำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลก เป็น “Indoor Farm” ที่ใช้ IOT ควบคุมและมอนิเตอร์การเจริญเติบโตอัตโนมัติผ่านโมบายแอปพลิเคชัน ซึ่งจะทำให้การปลูกผักเพื่อรับประทานเองในที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องง่ายและใกล้ตัว
แสนสิรินำเข้ามาใช้เป็นครั้งแรกของประเทศไทย พร้อมเผยโฉมให้คนไทยได้สัมผัสมิติใหม่แห่งการดูแลสุขภาพ ด้วยเทคโนโลยีและการเก็บดาต้าของพืชผักชนิดต่างๆ ทำให้สามารถตั้งระบบอัตโนมัติ (Automated Hydroponic Growing Systems) เพื่อควบคุมคุณภาพ ความสดอร่อย และระยะเวลาการเก็บเกี่ยวได้ง่ายๆ ทีสำคัญสะอาด และปลอดยาฆ่าแมลง
ปัจจุบันมีดาต้าของเมล็ดพันธุ์ผักกว่า 50 ชนิด นอกจากนั้นเทคโนโลยีและข้อมูลจากการเก็บดาต้าช่วยให้พืชเติบโตได้เร็วขึ้น 2 – 3 เท่า และใช้น้ำน้อยกว่าการเพาะปลูกแบบดั้งเดิมถึง 90%
ทั้งยังมีการแจ้งเตือนผ่านโมบายแอปพลิเคชันเมื่อผลผลิตพร้อมเก็บเกี่ยว เพียงเท่านี้ลูกบ้านไม่ว่าจะอยู่อาศัยในโครงการบ้านหรือคอนโดมิเนียม ก็สามารถปลูกผักสด สะอาด ปลอดสารพิษ เพื่อรับประทานเองได้ง่ายๆ
แสนสิริ
Samitivej@Home
6.Samitivej@Home นวัตกรรม Wearable Device ในรูปแบบสายรัดข้อมือภายใต้ความร่วมมือกับโรงพยาบาลสมิติเวช พัฒนาขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพและดูแลการดำเนินชีวิตประจำวันของคนที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษตลอด 24 ชั่วโมงอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยฟังก์ชันแจ้งเตือนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยจะมีฟังก์ชันให้ความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลผ่านระบบที่เชื่อมตรงสู่โรงพยาบาลเพียงได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือจากผู้ใช้งาน โดยโรงพยาบาลจะแจ้งข่าวไปถึงญาติของผู้สวมใส่
นอกจากจะโชว์นวัตกรรมใหม่แล้วภายในงานยังได้ทำการเปิดตัว 2 โครงการใหม่ “oka HAUS” คอนโดไฮไรส์บรรยากาศรีสอร์ทกลางเมืองสุขุมวิท 36 และ “kawa HAUS” คอนโดโลว์ไรส์ริมน้ำใน Community T77 รวมไปถึงคอนโดมิเนียมอีก 10 โครงการทั่วประเทศที่มาพร้อมโปรโมชันพิเศษ โดยได้วางเป้าหมายยอดขายแคมเปญกว่า 8,000 ล้านบาท หวังขึ้นสู่เป้าหมายยอดขายที่ตั้งไว้ 40,000 ล้านบาทให้สำเร็จ

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4/2560 ซึ่งเป็นไตรมาสสุดท้ายและนับเป็นช่วงไฮซีซันของการขาย

แสนสิริจึงได้จัดงาน  “Sansiri Life Comes Home 2017” ภายใต้แนวคิด Living Reimagined ที่จะสะท้อนถึงการเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งเน้นด้านเทคโนโลยีที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัย
งานนี้เอาใจคอออนไลน์ด้วยการให้สิทธิพิเศษ รับทันที iPhone X เมื่อลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์และจองโครงการใหม่ในงาน ทุกยูนิตลุ้นรับรางวัลทุกวัน มูลค่ากว่า 5 แสนบาท เมื่อจองในงาน อาทิ iPad Pro Apple Watch Series 3 หรือบัตรที่พัก 2 วัน 1 คืน ที่โรงแรมเอสเคปเขาใหญ่ หรือ หัวหิน เป็นต้น
สำหรับผู้ลงทะเบียนร่วมงานล่วงหน้าทางเว็บไซต์ ยังได้รับรับกระเป๋า “Exclusive Bag” จำนวนจำกัด ยังไม่รวมถึงสิทธิพิเศษทางด้านการเงินที่พร้อมจะนำเสนออีกหลายรายการ
โดยงาน“Sansiri Life Comes Home 2017” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24–26 พ.ย. นี้ ที่แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

Related Posts