แสนสิริพอใจการปั้นธุรกิจโรงแรมภายใต้แบรนด์ “เอสเคป” (ESCAPE) ผ่าน Digital Marketing และ Online Influencer engagement ช่วยให้ผลประกอบการมีอัตราเติบโตเฉลี่ยสูงขึ้นถึง 66% ภายในระยะเวลา 4 ปี พร้อมตั้งเป้าปี 2561 โตต่อเนื่อง 7% รุกตลาดนักท่องเที่ยวเอเชียเพิ่มขึ้น พร้อมลุยเพิ่มช่องทางชำระเงินสะดวกผ่าน Alipay และ WeChat
โรงแรมเอสเคปเป็นธุรกิจที่สนับสนุนธุรกิจหลักของแสนสิริในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในหัวเมืองตากอากาศ เน้นการสร้าง Brand Experience เพื่อตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยวยุคใหม่ ซึ่งลูกค้าโรงแรมจะได้สัมผัสประสบการณ์พิเศษเช่นเดียวกับลูกบ้านแสนสิริ ทั้งด้านดีไซน์ ไลฟ์สไตล์และการบริการ
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานโรงแรมเอสเคปในระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา (ปี 2557-2560) ในทำเลหัวหินและเขาใหญ่ เอสเคปมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยรวมสูงขึ้น 66% หรือคิดเป็นรายได้รวม 340 ล้านบาท โดยในปี 2560 คาดการณ์รายได้รวมทั้งสิ้นจากทั้งสองสาขาเกือบ 100 ล้านบาท
ปัจจุบันมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย (OCC) สูงเกินจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ และคาดการณ์สิ้นปีจะสูงขึ้นถึง 70% แม้ว่าในไตรมาสที่ 1-3 จะได้รับผลกระทบจากบรรยากาศการท่องเที่ยวภายในประเทศที่ไม่ค่อยคึกคักมากนัก แต่ในไตรมาสที่ 4 พบว่ามีอัตราการจองห้องพักเฉลี่ยสูงเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้คาดว่าสิ้นสุดเดือนธันวาคม อัตราการเข้าพักที่เขาใหญ่จะสูงถึง 80% และที่หัวหิน 70%
“สำหรับกลุ่มลูกค้านั้นพบว่านักท่องเที่ยวชาวไทยยังเป็นกลุ่มลูกค้าที่สำคัญ โลมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากความสำเร็จของการทำ Digital Marketing และ Online Influencer Engagement ตลอดจนการใช้สื่อบนแพลตฟอร์มใหม่ๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นครอบคลุมทุกช่องทาง
นอกจากนี้ยังมีการใช้กลยุทธ์ราคาโดยการออกแบบแพ็คเกจที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในแต่ละกลุ่ม รวมทั้งการทำ Hot Deal Promotion ที่เน้นการจองห้องพักตรงกับโรงแรมมากขึ้น”
แคมเปญ ‘Vacation with an Artist’ ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของการนำเสนอกิจกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า โดยได้ร่วมมือกับศิลปินและนักออกแบบชื่อดัง เพื่อสร้างสรรค์ผลงานศิลปะผ่านสีสันบรรยากาศของโรงแรมเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าในช่วงต้อนรับเทศกาลเฉลิมฉลอง ‘Escape Journey’ กิจกรรมท่องเที่ยวแบบท้องถิ่นเพื่อสัมผัสวิถีธรรมชาติโดยร่วมมือกับพันธมิตรในย่านรายรอบโรงแรม
นายอุทัย กล่าวว่า นอกจากรายได้ในส่วนของห้องพักแล้ว ธุรกิจการบริการอาหารและเครื่องดื่มของโรงแรมทั้งสองแห่งก็มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสูงขึ้นถึง 92% ภายในระยะเวลา 4 ปี ด้วยกลยุทธ์การนำเสนอเมนูอาหารใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งในไตรมาส 4 นี้ เอสเคป นำเสนอเมนูอาหารรสชาติถูกปากคนไทยและต่างชาติมากขึ้นในแบบต้นตำรับไทย
รวมถึงการสร้างจุดเด่นของร้านอาหารให้ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเยี่ยมชมเอสเคป ทั้งนี้ สัดส่วนของนักท่องเที่ยวแบบหมู่คณะและบริการจัดสัมมนาปีในนี้ ยังเพิ่มสูงขึ้นโดยคิดเป็น 15% ของสัดส่วนรายได้ทั้งหมด
สำหรับเป้าหมายและทิศทางของเอสเคปในปี 2561 นั้น นักท่องเที่ยวในประเทศยังคงเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเอสเคป โดยในปีหน้าจะเน้นทำ Loyalty Program มากขึ้น หรือโปรแกรม Escape Club ด้วยการมอบสิทธิพิเศษหรือกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ นอกจากนี้ยังจะมุ่งทำการตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อดึงโอกาสจากความนิยมของทำเลทั้งสองแห่ง
โดยเฉพาะตลาดเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นจีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น และเกาหลี ผ่านความร่วมมือกับ OTA หรือการพัฒนาช่องทางการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ เช่น Alipay WeChat Pay รวมไปถึงการทำ Online Influencer Engagement ในตลาดต่างประเทศ และพัฒนาเว็บไซต์ภาษาจีน โดยตั้งเป้าอัตราการเติบโตเฉลี่ยในปีหน้าไว้ที่ 7% โดยมีสัดส่วนตลาดต่างประเทศ 20% และตลาดในประเทศ 20%
