เอคเซนเชอร์ตั้งเป้ามีสัดส่วนพนักงานสมดุล ภายในปี 2025

เอคเซนเชอร์ตั้งเป้ามีสัดส่วนพนักงานสมดุล ภายในปี 2025

เอคเซนเชอร์ ประกาศตั้งเป้าทำให้โครงสร้างพนักงานในบริษัทมีสัดส่วนที่สมดุลระหว่างหญิงและชาย ในสัดส่วนร้อยละ 50 ภายในปี 2025 หรือ พ.ศ. 2568

นางสาวอินทิรา เหล่ามีผล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจ Resource Operating Group เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ความหลากหลายจะทำให้ธุรกิจของบริษัทแข็งแกร่งขึ้น มีความสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น ที่สำคัญที่สุดคือ ทำให้โลกนี้น่าอยู่มากขึ้น เมื่อตั้งเป้าหมายใหม่แล้ว บริษัทจึงสื่อสารอันสำคัญนี้ไปถึงพนักงานและลูกค้า เพื่อแสดงเจตจำนงที่มุ่งมั่นในการทำให้โครงสร้างพนักงานเท่าเทียมและสมดุลกัน”

ปัจจุบันเอคเซนเชอร์มีพนักงานหญิง 150,000 คน หรือเกือบร้อยละ 40 ของพนักงานทั้งหมดทั่วโลก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทได้ตั้งเป้าทำให้เกิดความเสมอภาคทางเพศ เป็นระยะ ๆ โดยตั้งเป้าบรรจุพนักงานใหม่ผู้หญิงให้ได้ร้อยละ 40 ในพ.ศ. 2560 ซึ่งทำได้สำเร็จก่อนที่ตั้งเป้าไว้หนึ่งปี

ขณะที่การสนับสนุนพนักงานหญิงซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ให้ก้าวหน้าไปจนถึงระดับกรรมการผู้จัดการ ภายในพ.ศ. 2559 (ร้อยละ 30) เพิ่มสัดส่วนกรรมการผู้จัดการผู้หญิงทั่วโลก ให้ถึงร้อยละ 25 ภายในพ.ศ. 2563

เอคเซนเชอร์ได้ดำเนินการต่าง ๆ เพื่อจูงใจพนักงานหญิง รักษาพนักงาน ส่งเสริมให้ก้าวหน้า และสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาด้านต่าง ๆ เพื่อให้องค์กรมีโครงสร้างที่สมดุล เสริมสร้างความเสมอภาค เช่น:

ได้สนับสนุนพนักงานหญิงระดับอาวุโสให้ก้าวหน้าในสายงานการเงินและบัญชี โดยตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ร้อยละ 80 ของผู้หญิงที่เคยเข้าร่วมโครงการพัฒนาความเป็นผู้นำระดับโลก ได้รับการเลื่อนขั้นหรือมีขอบข่ายความรับผิดชอบมากขึ้น ก้าวหน้ายิ่งขึ้น

พร้อมประกาศเจตนารมณ์ด้านความโปร่งใส โดยกำหนดเป้าหมายที่ชี้วัดได้และเผยแพร่ให้ทราบโดยทั่วกัน เพื่อเพิ่มจำนวนผู้หญิงในบริษัท และยังเผยแพร่สถิติจำนวนและสัดส่วนพนักงานในหลาย ๆ ประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา แอฟริกาใต้ ญี่ปุ่น อินเดีย และประเทศกลุ่มอาเซียน

อีกทั้งยังริเริ่มโครงการเพิ่มพูนทักษะที่ตลาดต้องการให้แก่ผู้หญิง เช่น โครงการ Women in Technology ที่ช่วยผลักดันให้ผู้หญิงที่มีความสามารถได้พัฒนาและเติบโตในสายอาชีพได้เร็วขึ้นในฐานะสถาปนิกด้านเทคนิค ซึ่งเป็นสาขาที่ขาดแคลนและตลาดมีความต้องการมาก

และยังได้ร่วมมือกับภาคธุรกิจและภาครัฐ เพื่อส่งเสริมให้เกิดความเสมอภาคทางเพศในที่ทำงาน โดยมีหลายโครงการที่แสดงเจตจำนงสอดคล้องกัน อาทิ The White House Equal Pay Pledge, Paradigm for Parity และ Catalyst CEO Champions for Change

“เราสนับสนุนความหลากหลายในที่ทำงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความสร้างสรรค์และความได้เปรียบเชิงแข่งขัน การพัฒนาไปสู่เป้าหมาย “50 by 25” หรือเพิ่มบทบาทของสตรีในที่ทำงานและในระดับบริหารนั้น เราต้องสร้างบรรยากาศที่ทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของที่ทำงาน เป็นที่ที่ทุกคนอยากมาทำงานทุกวัน สามารถเป็นตัวของตัวเอง และแสดงความสามารถได้เต็มที่ ทั้งในด้านการงานและเรื่องส่วนตัว” นางสาวอินทิรากล่าว

Related Posts