ดีอี เผยหลังหารือกับ “สมคิด” เรื่องการเปลี่ยนสายทองแดงเป็นไฟเบอร์ออปติกในโรงแรียนและโรงพบาบาลตำบล ได้งบเลยแบบไม่ต้องรอ 602 ล้าน เผยเป็นงบจากปีก่อนที่ใช้ไม่หมดหรือที่เรียกว่า “บิ๊กร็อก” ที่จะสามารถเบิกมาใช้งานได้ทันที แต่ต้องทำให้เสร็จภายในเดือนกันยายนปีนี้ แม้จะยังไม่รู้ว่าจะให้ใครทำแต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะช่วยเร่งการเปลี่ยนเทคโนโลยีให้เร็วขี้น
ด้านการขยายโครงการเน็ตประชารัฐ 24,700 หมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนสามารถขอบริการเน็ตเข้าบ้านได้นั้น ต้องรอเข้าบอร์ดอีดี 15 ก.พ.นี้ ส่วนเน็ตประชารัฐที่เหลือ 15,000 หมู่บ้าน ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมติครม.ปี 2559 ให้ กสทช.ทำ แต่หากเปลี่ยนมาให้ทีโอทีทำแบบครั้งก่อนก็จะต้องเสนอให้ครม.มีมติใหม่
นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า หลังจากทำการหารือกับฝ่ายเศรษฐกิจ เกี่ยวกับนโยบายการดำเนินงานในปี 2561 ร่วมกับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในการประชุมครม.ที่ผ่านมานั้นรัฐบาลต้องการให้กระทรวงดีทีสร้างอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือ บรอดแบนด์ ด้วยไฟเบอร์ออปติกทดแทนสายทองแดง ให้กับโรงเรียนสังกัด ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ
รวมถึง โรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพตำบล (รพสต.) จึงได้ทำการอนุมัติงบประมาณระบบพิเศษเพื่อให้เกิดการปฏิรูปภาคเกษตรและฐานราก หรือที่เรียกว่า “บิ๊กร็อก” จำนวน 602 ล้านบาท ให้กระทรวงดีอีดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนก.ย.ปีนี้ ภายใต้ชื่อ ‘โครงการขยายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต’
ด้านการดำเนินการนั้นทางกระทรวงฯ ยังได้กำหนดว่าจะให้เอกชนหรือทีโอทีเป็นผู้ดำเนินโครงการ ต้องรอการพูดคุัยกันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในส่วนของโรงเรียนนั้นไม่มีปัญหา แต่ในส่วนของทางโรงพยาบาลเท่าที่ได้พูดคุยพบว่าต้องการให้เปลี่ยนจากการระบบดาวเทียมให้เป็นไฟเบอร์ออปติก เนื่องจากระบบการรักษาผ่านไฟเบอร์ออปติกจะมีความเร็วที่เสถียรกว่าดาวเทียม คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้
สำหรับโครงการสร้างการรับรู้การใช้ประโยชน์จากเน็ตประชารัฐ” ระหว่างกระทรวงดีอี กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงมหาดไทย เมื่อเดือนพ.ย.2560 นั้น ความคืบหน้าล่าสุดได้อบรมแกนนำ จำนวน1,000 รายเสร็จสิ้นไปแล้วนั้น ขณะนี้เตรียมขยายผลสู่ผู้นำชุมชน และขยายผลสู่บุคคลทั่วไป จำนวนกว่า 1 ล้านราย ใน 24,700 หมู่บ้าน
ซึ่งหลังจากที่ทางกระทรวงดีอี ได้เข้าหารือร่วมกับทางกระทรวงมหาดไทยอีกครั้งในเรื่องนี้ ได้ข้อสรุปว่าโครงการดังกล่าวสอดคล้องกับ โครงการ ไทยนิยม ของกระทรวงมหาดไทย ที่มุ่งให้ความรู้กับประชาชนด้านต่างๆ โดยดิจิทัล เป็นความรู้แขนงหนึ่ง จึงได้บูรณาการโครงการร่วมกัน ทำให้สามารถขยายผลได้มากขึ้น เป็นจำนวน 80,000 หมู่บ้าน สูงกว่าเป้าหมาย 24,700 หมู่บ้านที่กระทรวงดีอีวางไว้
นางสาวอัจฉรินทร์ กล่าวว่า ส่วนการขยายผลให้ประชาชนครัวเรือนในกลุ่มโครงการเน็ตประชารัฐ 24,700 หมู่บ้าน ได้มีอินเทอร์เน็ตเข้าถึงบ้านนั้น กระทรวงกำลังจะเปิดให้ประชาชนได้ใช้ภายในเดือนนี้ หลังจากที่ต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ เพื่อให้ผู้ให้บริการเอกชนเข้าร่วมโครงการรวมถึงทีโอทีเองด้วย โดยกระทรวงไม่ได้กำหนดราคาขั้นต่ำในเรื่องค่าบริการรายเดือน
ส่วนทางด้านโครงการเน็ตประชารัฐ 15,000 หมู่บ้าน ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ให้กระทรวงดีอีทำนั้น สาเหตุที่กระทรวงดีอียังทำไม่ได้ตามที่กสทช.มอบหมายให้นั้น
เนื่องจาก มติคณะรัฐมนตรี ในสมัยนายอุตตม สาวนายน เป็นรัฐมนตรีนั้น ได้มอบหมายให้ กสทช.ดำเนินการในส่วน 15,000 หมู่บ้าน ดังนั้นกระทรวงต้องหารือร่วมกับ ทีโอที ก่อนว่า หากต้องดำเนินการให้เสร็จภายในเดือน ก.ย.นี้ จะสามารถทำทันหรือไม่ จากนั้น ค่อยทำวาระเสนอต่อครม.เพื่ออนุมัติให้ดำเนินการก่อนถึงจะทำได้