ดันน์ฮัมบี้ เผยโซลูชั่นเข้าใจลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพการทำตลาดกว่า 43%

ดันน์ฮัมบี้ เผยโซลูชั่นเข้าใจลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพการทำตลาดกว่า 43%

ดันน์ฮัมบี้ เผยโซลูชั่นใหม่ด้านการวิเคราะห์ลูกค้าจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ครอบคลุมกว่า 70% ของลูกค้าดีพาร์ทเมนต์สโตร์ทั่วประเทศไทย เสนอตัวช่วยแบรนด์คิดแคมเปญส่งเสริมการขายแบบเฉพาะบุคคลได้ตรงความต้องการแบบ End to End มั่นใจเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญเพิ่มมากขึ้นกว่า 43% ตั้งเป้าเพิ่มลูกค้ากว่า 300 รายภายในปี 2561

นายธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ ประธานกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการพาณิชย์ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดันน์ฮัมบี้ กล่าวว่า เราได้ทำแพลตฟอร์มเพื่อสนับสนุน การทำมาเก็ตติ้งที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย จากการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคแบบ 100% ผ่านบิ๊กเดต้าที่กำลังเป็นที่นิยมอยูในปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำตลาดได้มากกว่า 43%

ปัจจุบันโลกออนไลน์เข้ามามีส่วนกับชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก โดยเฉลี่ยนคนไทยใช้เวลา 6.30 ชม. ซึ่งเจเนอร์เรชั่นวายใช้เวลามากกว่า 7 ชั่วโมงในแต่ละวัน นับเป็นกลุ่มที่มีการใช้งานมากที่สุดในปัจจุบัน ขณะที่บางกลุ่มไม่มีการใช้งานเลย และบางกลุ่มเริ่มมีการใช้งานแบบผสมผสาน ดังนั้นการมองหาและทำความเข้าใจว่าลูกค้าของแบรนด์นั้นอยู่ตรงไหน เพื่อผสานการทำงานร่วมกันระหว่างสื่อโฆษณาออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อกลั่นกรองออกมาเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดจึงเป็นเรื่องสำคัญ

โดยสถิติพบว่าคนไทยใช้ออนไลน์แพลตฟอร์มในชีวิตประจำวันใน 3 อันดับแรก ได้แก่การใช้โซเชียลเพื่อสนทนากับเพื่อน ใช้เพื่อการหาข้อมูล และอีกส่วนใช้เพื่อการอ่านอีเมล์ ส่วนที่เหลือเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้นเอง ซึ่งนับเป็นพฤติกรรมการใช้งานที่น่าจะเอื้อประโยชน์ให้เกิดการซื้อ-ขายสินค้ามากยิ่งขึ้น

ขณะที่ช่องทางการจัดจำหน่ายออนไลน์ในไทย โตขึ้นเฉลี่ยกว่า 10% และเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งสินค้าที่ผู้คนส่วนใหญ่เปลี่ยนมาซื้อของออนไลน์ จะมีทั้งในส่วนของเสื้อผ้า สินค้าแฟชั่น คอสเมติก โมบาย และไอที ตามลำดับ ซึ่ง สินค้าอุปโภคบริโภค หรือ FMCG อยู่ในลำดับที่ 9 เท่านั้น

โดยหากมองในส่วนของ FMCG หรือสินค้าอุปโภคบริโภคยังพบว่าการซื้อขายในโลกออนไลน์ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยอดขายออฟไลน์ก็ยังไม่ตก ซึ่งมีการเติบโตอยู่ที่ราว 1-5% ต่อเนื่องทุกปี และพบว่าสาขาของรีเทลสโตร์ก็มีการเปิดเพิ่มขึ้นเฉลียอยู่ที่ 10% ทุกปีเช่นกัน ซึ่งหากมองในมุมของผลสำรวจที่ได้ พบว่าคนเริ่มมองหาการซื้อที่เพิ่มมากขึ้น และช่องทางใหม่ๆที่สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยที่ยังไม่ทิ้งช่องทางเดิมๆ

ด้วยความซับซ้อนดังกล่าว Dunhumby จึงได้พัฒนาโซลูชั่น Insightless Media Planning เพื่อศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าของแบรนด์ จากข้อมูลบิ๊กดาต้า บนฐานข้อมูล Club Card กว่า 15 ล้านรายทั่วประเทศ ซึ่งครอบคลุมผู้ซื้อสินค้ากว่า 70% ทั่วประเทศ

“เส้นทางการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าหรือ Customer Journey ไม่ได้เริ่มจากบ้านแล้วตรงมาซื้อที่จุดขายอีกต่อไป แต่มี Customer Journey และวิธีการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าที่ซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้น และแต่ละคนมีวิธีการตัดสินใจซื้อสินค้าที่แตกต่างกันออกไป การเข้าใจความแตกต่างของกลุ่มลูกค้า และสร้างกลยุทธ์ของการสื่อสารแบบเฉพาะเจาะจง เพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ จึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อการสื่อสารกับลูกค้าเพื่อสร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อให้กับลูกค้า”

ทั้งนี้ระยะเวลของการดึงข้อมูล ตลอดจนประมวลเพื่อพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดให้กับแบรนด์แบบ End to End พร้อมการติดตามและวัดผลอย่างมีประสิทธิภาพ จะใช้เวลาในการประมวลผลแคมเปญราว 1 สัปดาห์ ขณะที่ระยะเวลาขอแคมเปญจะใช้เวลาราว 3 เดือน เพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าแบบผสมผสานสื่อออนไลน์และออฟไลน์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

โดยปัจจุบัน ดันน์ฮัมบี้ มีลูกค้าลูกค้า 265 แบรนด์ และมีการสร้างมาเก็ตติ้งในร้านค้ามากกว่า 1,450 แคมเปญ เพิ่มขึ้นราว 18% จากปีก่อนหน้า และมีจำนวนการผสมรวมการสร้างดิจิทัลมีเดียเอนเกจเมนต์มากขึ้นกว่า 14% ตั้งเป้าขยายแบรนด์ 29-30% หรือราว 300 แบรนด์ หลังการเปิดตัวโซลูชั่นอย่างเป็นทางการ

และในอนาคตจะทำการพัฒนาโซลูชั่น ให้สามารถพยากรณ์การซื้อได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้แบรนด์สามารถตั้งเป้าหมายที่ละเอียดทางการตลาดมากขึ้น และนับเป็นนวัตกรรมทางการตลาดที่จะเข้าใจผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้งและช่วยให้แคมเปญโฆษณาเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

Related Posts