ฟูจิตสึโชว์เคส INESA ก้าวสู่ ‘โรงงานอัจฉริยะ’ อย่างเต็มรูปแบบ

ฟูจิตสึโชว์เคส INESA ก้าวสู่ ‘โรงงานอัจฉริยะ’ อย่างเต็มรูปแบบ

ฟูจิตสึ เปิดเผยกรณีตัวอย่างการสร้าง ‘โรงงานอัจฉริยะ’ ที่สมบูรณ์แบบ ของกลุ่มบริษัท The Instrument and Electronics (Shanghai)Associates Group (INESA) เป็นองค์กรรัฐขนาดใหญ่ในประเทศจีนให้บริการโซลูชั่น Smart City ส่วนบริษัท INESA Display MaterialsCo., Ltd. เป็นบริษัทในเครือ

ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตชุดกรองสีสำหรับจอแสดงผล(Color Filter) แห่งเดียวในโลกที่มีศักยภาพในการผลิตมาถึงรุ่นที่ 5 แล้วและเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในรูปแบบธุรกิจขององค์กรและสภาพแวดล้อมของตลาด รัฐบาลของประเทศจีนจึงได้ประกาศใช้แผนกลยุทธ์ “ผลิตในประเทศจีน ปี 2025” ขึ้น

จุดมุ่งหมายเพื่อผสานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)ที่ทันสมัยเข้ากับระบบการผลิต จะช่วยให้ประเทศจีนนำหน้าคู่แข่ง โดยการเปลี่ยนจากผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ที่ผลิตสินค้าจำนวนมากไปเป็นโรงงานประสิทธิภาพสูงที่มุ่งเน้นผลิตสินค้าคุณภาพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ บริษัท INESA จึงริเริ่มใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ล้ำสมัยและระบบการผลิตอัจฉริยะ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและความได้เปรียบทางการแข่งขัน ให้ประสบความสำเร็จ

ในการสร้างโรงงานอัจฉริยะดังกล่าว บริษัทต้องก้าวให้ทันการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ในส่วนที่เกี่ยวกับการผลิต คุณภาพ ประสิทธิภาพ การควบคุมค่าใช้จ่ายและการลดการใช้พลังงาน ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยระบบอัจฉริยะในการเก็บรวบรวมข้อมูล การจัดเก็บ การประมวลผลและการวิเคราะห์ภาพที่ได้

เพื่อให้สามารถเข้าถึงและวิเคราะห์ข้อมูลในการผลิตได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนติดตามการใช้พลังงานควบคู่กันไปในวิธีปฏิบัติแบบดั้งเดิม ข้อมูลจะถูกเก็บรวบรวมผ่านรายงานทางสถิติต่างๆ

อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ยังเป็นปัญหาเนื่องจากมีขั้นตอนที่ซับซ้อนต้องใช้ทั้งเวลาและแรงงาน อีกทั้งยังไม่สามารถแสดงข้อมูลที่หลากหลายได้อย่างมีนัยสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นเรื่องยากที่จะรับรู้ถึงสถานะโดยรวมของโรงงานผลิต ตลอดจนถึงการใช้งานและการบำรุงรักษาอุปกรณ์อีกด้วย

“ในสภาพแวดล้อมด้านการผลิตของเรา เรามีแหล่งข้อมูลจำนวนมากที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการทำงาน อุปกรณ์ และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งอาจส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพของสินค้าที่เราผลิต”

Wei Fengrong ผู้อำนวยการฝ่ายสารสนเทศของ INESA Display Materials Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ INESA Group กล่าวว่า “การเก็บรวบรวมข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญต่อการปรับปรุงระบบการจัดการ ดังนั้น การแสดงผลอย่างเป็นเอกภาพในแพลตฟอร์มเดียวกัน จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง”

การเริ่มเข้าสู่โรงงานอัจฉริยะ โดยการใช้ แพลตฟอร์มโซลูชั่นแบบ IoT

ในเดือนมกราคมปี 2016 ฟูจิตสึและ INESA ได้ร่วมกันจัดตั้งบริษัทSmart Manufacturing Demonstration Factory ซึ่งเป็นโรงงานผลิตตัวอย่างประกอบด้วย 3 เฟส โดยในเฟสแรกของโครงการทั้งฟูจิตสึและ INESA ได้ร่วมมือกันเก็บรวบรวมและเปรียบเทียบข้อมูลที่มีอยู่แล้ว ในขณะเดียวกันก็ได้นำสถาปัตยกรรม Internet of Things (IoT) มาใช้เพื่อให้สามารถมองเห็นสถานะการผลิตและสถานการณ์การดำเนินงานของโรงงานได้อย่างครอบคลุม

โซลูชั่นนี้ประกอบด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตไร้สายร่วมกับกระบวนการติดตามแบบดั้งเดิม การตรวจสอบและใช้อุปกรณ์ตรวจจับเพื่อแก้ปัญหาความล่าช้าของข้อมูลตามเวลาจริง พยายามจะวิเคราะห์สถานะการผลิตของโรงงาน เพื่อสร้างรายงานสรุปต่างๆ ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากร เช่น ไฟฟ้า ก๊าซและน้ำ ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมจะถูกเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติ

นอกจากนี้ ฟูจิตสึยังได้ออกแบบแพลตฟอร์มบิ๊กดาต้า เพื่อจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลการใช้พลังงานและข้อมูลการผลิตทั้งหมดของโรงงานไว้ที่ส่วนกลาง ทำให้สามารถมองภาพและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากในเชิงลึกได้อย่างรวดเร็ว”แพลตฟอร์มบิ๊กดาต้าสำหรับข้อมูลขนาดใหญ่ และเทคโนโลยีไร้สายระดับอุตสาหกรรมในแบบ IoT ของฟูจิตสึ ทำให้เราสามารถก้าวไปสู่ระบบการบำรุงรักษาอุปกรณ์แบบอัจฉริยะด้วยเช่นกัน”

Wei Fengrong กล่าวระบบ Enterprise Application Intelligent Dashboard ของฟูจิตสึช่วยให้สามารถแสดงผลตัวชี้วัดหลักๆ ได้อย่างครบถ้วน เช่น ประสิทธิภาพการผลิต คุณภาพผลิตภัณฑ์ สถานะอุปกรณ์ สภาพแวดล้อมโรงงานและพลังงานที่ใช้ไปในการผลิต ผลที่ได้รับ คือ ภาพจากแดชบอร์ดจะช่วยให้สามารถตรวจจับอุปกรณ์ที่ผิดพลาดได้โดยเร็ว ทำให้ผู้จัดการโรงงานสามารถระบุปัญหาและแก้ไขปรับปรุงได้ทันท่วงทีสนับสนุนการดำเนินงานในโรงงาน ไปพร้อมๆ กับการดูแล

สิ่งแวดล้อมหลังจากการใช้โซลูชั่นใหม่ของฟูจิตสึ ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการก็ดีขึ้นอย่างมาก การวิเคราะห์ข้อมูลการดำเนินงานพบว่าผลผลิตเพิ่มขึ้น 25% และสามารถลดเวลาการผลิตลงถึง 50% นอกจากนี้ โซลูชั่นจะรีเฟรชข้อมูลการจัดการพลังงานทุกๆ 45 วินาที ซึ่งจะกระตุ้นให้พนักงานมีความด้วยประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม

โครงการโรงงานอัจฉริยะของ INESA จึงได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัล ‘Smart Manufacturing Pilot Demonstration Project ปี 2016’ และได้เป็นหนึ่งในโรงงานไม่กี่แห่งที่ได้รับการยกย่องว่ามีแนวคิด ระบบการผลิตอัจฉริยะภาพ

“หน้าจอแดชบอร์ดแอปพลิเคชั่นอัจฉริยะของฟูจิตสึ (Fujitsu Enterprise Application Intelligent Dashboard) จะแสดงสถานะของสายการผลิตในแบบเรียลไทม์ในทุกๆ 10 นาที”

“นอกจากนี้ ข้อมูลยังมีข้อเสนอแนะสำคัญที่จะช่วยการทำงานของผู้จัดการ รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการการผลิต คุณภาพและอัตราปริมาณของเสียระหว่างการผลิต การใช้พลังงานและสถานะอุปกรณ์อีกด้วย”

“ระบบ FUJITSU Enterprise Application Intelligent Dashboard มีความรวดเร็วในการตอบสนองต่อปัญหาด้าน อุปกรณ์”

Wei Fengrong กล่าวเสริมว่า “กระบวนการนี้จะช่วยให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงทีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต นอกจากนี้ระบบยังมีฟังก์ชั่นย้อนหลังซึ่งสามารถย้อนดูเหตุการณ์ที่ผู้จัดการไม่ได้ สังเกตก่อนหน้านี้ จะเห็นได้ว่าคุณลักษณะนี้ช่วยให้เราสามารถตรวจสอบสาเหตุของปัญหาและป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ที่คล้ายกันเกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต”

ด้าน Li Xiaojun รองผู้จัดการทั่วไป สรุปว่า “ในฐานะผู้ให้บริการของโซลูชั่น Smart City แบบครบวงจร บริษัท INESA ตอบสนองต่อการเรียกร้องระดับชาติในการสร้างและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของเรา ด้วยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ขอขอบคุณประสบการณ์อันยาวนาน และความเชี่ยวชาญในด้าน ICT”

“และด้านการผลิตของฟูจิตสึ ที่ช่วยให้เราประสบความสำเร็จในการใช้ระบบการผลิตอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี loT และ Big Data ในอนาคตเราจะยังคงทำงานร่วมกับฟูจิตสึต่อไป เพื่อรักษาความเป็นผู้นำอย่างแท้จริง ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันอย่างสูงเช่นนี้”

Related Posts