อรูบ้า เดินหน้าพัฒนา NetInsight ดึง Ai ช่วยวิเคราะห์เครือข่าย สเถียรสูงสุด

อรูบ้า เดินหน้าพัฒนา NetInsight ดึง Ai ช่วยวิเคราะห์เครือข่าย สเถียรสูงสุด

‘อรูบ้า (Aruba) เปิดตัวโซลูชั่น NetInsight ดึงปัญญาประดิษฐ์พัฒนาสถาปัตยกรรมโมบายเฟิร์ส ช่วยทำให้ระบบเครือข่ายปรับเปลี่ยนการทำงานแบบอัตโนมัติ และสามารถสร้างสำนักงานดิจิทัลอัจฉริยะ ที่มีความเสถียรระดับสูงและประสานความร่วมมือกับผู้ผลิต IoT และคลาวด์ สู่การให้บริการที่มีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต

จัสติน เฉียช ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไต้หวัน อรูบ้า กล่าวว่า “ ความต้องการใช้อุปกรณ์พกพาระบบคลาวด์และ IoTกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับยุคสมัยใหม่ ทำให้สำนักงานในอนาคตต้องเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ด้วยแนวทางที่มองผู้ใช้เป็นหลัก

ด้วยความสามารถของ Aruba NetInsight มีระบบการวิเคราะห์ด้วย Machine Learning ทำการดูแลตรวจสอบและแสวงหาข้อมูลเชิงลึกของระบบเครือข่ายอยู่อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ข้อมูลที่ได้มาเหล่านี้ทางทีมงาน IT สามารถนำมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการระบบเครือข่ายของตน และเพิ่มประสบการณ์ในการใช้งานของผู้ใช้ให้มีคุณภาพ ความพึงพอใจสูงขึ้น “

นอกจากนั้นอรูบ้ายังขยายเครือข่ายความร่วมมือกับคู่ค้าในโครงการ Smart Digital Workplace ทำให้สามารถทดสอบการเชื่อมต่อแบบบูรณาการของโซลูชั่นที่นำเสนอ เพื่อให้มีการจัดการของอุปกรณ์ IoTต่าง ๆขององค์กรด้วยความปลอดภัย พร้อมสร้างสภาวะแวดล้อมในการทำงานร่วมกันเชิงกายภาพ ส่งเสริมความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ และสร้างสำนักงานดิจิทัลที่ทันสมัยมีระบบการทำงานอัตโนมัติ

ด้วยความร่วมมือใหม่ ๆ กับคู่ค้าในเรื่องของการสร้างสรรค์สำนักงานดิจิทัลอัจฉริยะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ArubaEdge Technology Partner Program ประกอบด้วยความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทผู้เชื่อมต่อเฟอร์นิเจอร์ใช้ในสำนักงานเข้ากับเทคโนโลยีและบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีทั้งหลาย

เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การทำงานในสำนักงานที่พนักงานสามารถใช้งานอุปกรณ์ IoTได้อย่างปลอดภัย มีระบบอัตโนมัติต่าง ๆ ทั้งการดูแลอาคารและให้ความเป็นส่วนตัว อีกทั้งมีบริการอ้างอิงกับสถานที่ (location-based services)แก่ผู้มาเยือนและพนักงานของตน

NetInsight ช่วยวิเคราะห์และรักษาเสถียรภาพของระบบด้วยปัญญาประดิษฐ์

องค์กรไอที วันนี้ความท้าทายในเรื่องการจัดการสภาวะแวดล้อม ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงสูงและไม่สามารถคาดการณ์ได้ บนเครื่องมือที่พัฒนาขึ้นมาก่อนหน้านี้เพื่อบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานของระบบเครือข่าย แต่ยังไม่สามารถใช้เพื่อขยายประสบการณ์ที่น่าพึ่งพอใจในการใช้งานแก่ผู้ใช้ได้

ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT จึงต้องการเครื่องมือใหม่ที่ทันสมัย ในการแก้ปัญหาเรื่องประสิทธิภาพได้แบบล่วงหน้า ให้ความเข้าใจเชิงลึกถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ และสามารถให้ข้อแนะนำทำการปรับเปลี่ยนองค์ประกอบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเครือข่ายก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อการทำงานและการดำเนินธุรกิจ

และเพื่อที่จะสามารถระบุปัญหาเหล่านี้ได้ล่วงหน้า อรูบ้าได้ขยายความสามารถในการวิเคราะห์และสร้างเสถียรภาพของสถาปัตยกรรมโมบายเฟิร์สของตนด้วยการเสนอโซลูชั่น NetInsight ตัวใหม่ โดยจะใช้เทคโนโลยี machine learning เพื่อดูแลระบบเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง วิเคราะห์หาข้อมูลเชิงลึกในกรณีเกิดความผิดปกติ และให้ข้อแนะนำที่ดีที่สุดในการเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ระบบเครือข่าย

สำหรับการใช้งานของพนักงานในยุคโมบายเฟิร์สและสำนักงานที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ IoTโดยใช้ข้อมูลการเชื่อมต่อของผู้ใช้ที่เป็นการเฉพาะเจาะจงและคุณลักษณะของ RF performance

มหาวิทยาลัยวอชิงตันหนึ่งในลูกค้าของอรูบ้ามุ่งมั่นจะให้ประสบการณ์ในการใช้งานระบเครือข่ายที่น่าพึ่งพอใจแก่ผู้ใช้ในทุกๆวิทยาเขต โรงพยาบาลและคลินิกของตน ด้วยการที่มี Wi-Fi access point กว่า 12,000 เครื่องและอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเข้าใช้งานเครื่องข่ายมากกว่า 150,000 ตัวในแต่ละวัน

สิ่งที่มหาวิทยาลัยกังวลมากจริงๆคือความท้าทายในเรื่องการบริหารประสิทธิภาพเนื่องจากขนาดผู้ใช้ที่ใหญ่มาก มีรูปแบบการใช้ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้และมีแอปพลิเคชั่นหลายตัวที่ต้องการประสิทธิภาพของเครือข่ายหลากหลายแตกต่างกันไป

เดวิด มอร์ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายเครือข่ายและโทรคมนาคมของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน กล่าวว่า “ทุกวันนี้เครือข่ายดิจิทัลของวิทยาเขตและโรงพยาบาลต่างๆของเรามีความสลับซับซ้อนเพิ่มขึ้นทั้งในเรื่องของแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ อุปกรณ์พกพาอัจฉริยะจำนวนมากมายและผู้ใช้ทั้งหลายที่คาดหวังว่าเขาจะสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบเครือข่ายได้จากทุกๆที่”

“การใช้ Aruba NetInsight ทำให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลของระบบเครือข่ายด้วยภาพเสมือนของกระแสข้อมูล (flow visualizations) และการวิเคราะห์ที่นำมาวางแผนปฏิบัติได้ (actionable analytics) ช่วยให้เราทำการตัดสินใจทีจำเป็นเกี่ยวกับการเพิ่มสัญญาณและขยายพื้นที่ให้บริการไปยังพื้นที่ที่มีความต้องการใช้งาน

อย่างเช่นการส่งสัญญาณ Wi-Fi บริเวณนอกอาคารที่พึ่งสร้างใหม่ เราสามารถทดสอบผลกระทบต่อเครือข่ายทั้งก่อนและหลังของการเปลี่ยนแปลงสัญญาณเครือข่าย ดังนั้นเราจึงสามารถเตรียมการล่วงหน้ารองรับ ทำให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเข้าใช้เครือข่ายได้”

NetInsight

สร้างสรรค์สำนักงานดิจิทัลอัจฉริยะด้วยระบบนิเวศน์

การนำอุปกรณ์พกพา คลาวด์และ IoT มาใช้กำลังเปลี่ยนแปลงโลกแห่งการทำงานเป็นปัจจัยทำให้เกิดระบบเครือข่ายที่สามารถปรับสภาพตามความต้องการของผู้ใช้ได้โดยอัตโนมัติอาคารอัจฉริยะทั้งหลายที่มีประสิทธิภาพสูงและรองรับ IoTกำลังจะมาบรรจบกับเรื่องของสำนักงานดิจิทัลอัจฉริยะที่เน้นโมบายเฟิร์ต

ทิศทางนี้จะทำให้เกิดสำนักงานดิจิทัลอัจฉริยะที่ส่งเสริมประสบการณ์การทำงานบนความปลอดภัย เชื่อถือได้ มีประสิทธิภาพและเป็นส่วนตัว ซึ่งจะส่งเสริมให้พนักงานมีความคิดสร้างสรรค์ ทำงานร่วมกับคนอื่น ๆ ได้คล่องตัว ทำงานได้อย่างรวดเร็วขึ้นและมีอิสระ

การนำสถาปัตยกรรมโมบายเฟิร์ตมาปรับใช้ ทำให้อรูบ้าสามารถขยาย ArubaEdge Technology Partner Program ให้ครอบคลุมคู่ค้ากลุ่มใหม่ อันได้แก่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ บริษัทที่ทำการเชื่อมต่อเฟอร์นิเจอร์อุปกรณ์สำนักงานเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ๆ

ด้วยคู่ค้ากลุ่มใหม่ของอรูบ้าจะทำให้สามารถสรรค์สร้างสำนักงานสมัยใหม่ที่มีคุณลักษณะโดดเด่นรองรับการใช้งานอุปกรณ์พกพาต่าง ๆ ของผู้ใช้ มีระบบการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและการกำหนดตำแหน่งอ้างอิงโดยใช้อุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่เป็น IoT

สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ประสบการณ์ที่ผู้ใช้จะได้รับมีตั้งแต่วางรูปแบบของที่ทำงานและอุปกรณ์สำนักงานให้เหมาะสม สะดวก ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ และมีระบบแสงสว่างที่เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละบุคคล ไปจนถึงการการสื่อสารแบบบูรณาการผ่านอุปกรณ์พกพา และการทำให้ห้องประชุมถูกบริหารจัดการด้วยระบบอัตโนมัติ การทำการบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่าง ๆล่วงหน้าเพื่อป้องกันการชำรุด และการสร้างระบบอนุรักษณ์พลังงานโดยอัตโนมัติ โดยทุกอย่างทำบนโครงสร้างพื้นฐานอันเดียวกัน

ซานดีฟ เดฟ หัวหน้าแห่งสำนักงานดิจิทัลและเทคโนโลยี ของหน่วยงานGlobal Workspace Solution ที่ บริษัท CBRE กล่าวว่า “ผู้บริโภคคาดหวังว่าจะได้รับประสบการณ์ในการใช้งานที่ต่อเนื่องและราบรื่นในทุก ๆ สิ่งที่เขาทำ และรวมถึงสถานที่ทำงานด้วย”

“ลูกค้าของเราล้วนแต่มองหาอะไรก็ตามที่จะมาช่วยดึงดูดและรักษาพนักงานที่เก่งและฉลาดต่างล้วนเห็นว่าประสบการณ์ในสถานที่ทำงานเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยได้ลูกค้ามาหา CBRE เพื่อให้เสนอบริการการสร้างสรรค์ประสบการณ์ในการทำงานที่ดีและการสร้างสถานที่ทำงานแบบดิจิทัล

ซึ่งเราทำผ่านโซลูชั่น CBRE 360 ที่ให้บริการทางประสบการณ์ที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยีชั้นนำ การร่วมเป็นพันธมิตรกันอย่างเหนี่ยวแน่นระหว่าง CBRE ที่มีเป้าหมายต้องการสร้างสภาพแวดล้อมในสำนักงานที่ล้ำสมัยด้วยบริการที่หลากหลายเหมาะสมอย่างบูรณาการเข้ากับทิศทางทางเทคโนโลยีของอรูบ้าในเรื่องของสำนักงานดิจิทัลอัจฉริยะ เป็นสิ่งที่ทีมของทั้งสองบริษัททำงานร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดและคาดว่าจะสามารถทำงานผสานกันได้อย่างกลมกลืน (synergies) ในอนาคต”

นายฟรานซิสโก เจ อโคบา กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายขายในสหรัฐอเมริกาของหน่วยงาน Global Real Estate Transformation ของ Deloitte Consulting LLP กล่าวว่า “บริษัทต่าง ๆ กำลังคิดพิจารณาใหม่ในเรื่องกลยุทธ์การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของตนให้มีความสอดคล้องและเหมาะสมกับทิศทางของการทำงานในอนาคต”

“สำนักงานดิจิทัลอัจฉริยะเป็นการสร้างความแตกต่างที่สำคัญของแต่ละองค์กรในการดึงดูด รักษาไว้และพัฒนาพนักงานที่ฉลาดมีความสามารถของตนให้เติบโตในองค์กรต่อไปการทำงานในอนาคตจะถูกกำหนดด้วยประสบการณ์ในสำนักงานอัจฉริยะทั้งหลาย และผู้นำขององค์กรที่ทำหน้าที่ดูแลด้านอสังหาริมทรัพย์จะต้องร่วมมือกับผู้ร่วมงานที่ดูแลด้าน IT หาแนวทางนำการทำงานกับอุปกรณ์พกพา (mobility) และอุปกรณ์ IoTในองค์กรมาแปลงโฉมรูปแบบทางกายภาคของสำนักงาน”

เจฟฟ์ กิบสัน ผู้อำนวยการของหน่วยงาน Advanced Business Development ที่ Herman Miller กล่าวว่า “สิ่งที่ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ในสำนักงานให้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว คือการเพิ่มเข้ามาของเลเยอร์ในระดับดิจิทัลและข้อมูล”

“ผู้คนต้องการการติดตั้งระบบช่วยเหลือหลายอย่างในการทำงานของตนและการเข้ามาของดิจิทัลเลเยอร์ช่วยทำให้มีประสบการณ์ในการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

“เรากำลังทำงานร่วมกับอรูบ้าทำการสร้างสรรค์วิสัยทัศน์เกี่ยวกับสถานที่ทำงานซึ่งระบบคลาวด์สามารถเชื่อมต่อเข้ากับเฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้และอุปกรณ์ทั้งหลายในสำนักงานเพื่อที่จะรองรับการสร้างสรรค์ประสบการณ์ดิจิทัลในยุคโมบายเฟิร์ต การนำข้อมูลและข่าวสารเชิงลึกมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พื้นที่ขององค์กรรวมทั้งสร้างศักยภาพในประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานให้สูงสุด”

ขยายความร่วมมือกันทำงานและเพิ่มผลิตภาพของสำนักงานอย่างราบรื่น

ในหลาย ๆ องค์กรดิจิทัล มีแอพพลิเคชั่นในการทำงานร่วมกันจำนวนสองหรือมากกว่านั้นถูกใช้พร้อม ๆ กัน อย่างเช่น Skype for Business สำหรับการโทรโดยใช้เสียงและแชร์อุปกรณ์เดสก์ทอปต่าง ๆ และ Zoom สำหรับใช้ในการประชุมผ่านวีดีโอ และการนำอุปกรณ์พกพามาใช้ร่วมกับอุปกรณ์ในห้องประชุม Zoom ใช้โฟกัสในการประชุมระหว่างหลายห้องประชุมและหลายพื้นที่ของทีมงาน โซลูชั่นนี้จะสามารถถูกใช้ร่วมกันกับแนวคิดริเริ่มเรื่องสำนักงานดิจิทัลอัจฉริยะของอรูบ้า

อีริค ยูน ผู้นำฝ่ายบริหารของ Zoom กล่าวว่า “สำนักงานกำลังพัฒนากลายเป็นสถานที่ที่ให้ประสบการณ์ที่ซึ่งผู้คน ข้อมูลข่าวสารเนื้อหา และเครื่องมือต่าง ๆ จะต้องทำงานผสานกันอย่างกลมกลืน”

“ระบบห้องประชุมของ Zoom เป็นระบบซอฟต์แวร์ที่รองรับอุปกรณ์พกพา ร่วมกับอุปกรณ์เดสก์ทอปได้จากหลากหลายผู้ผลิตช่วยให้สามารถสร้างประสบการณ์ดังกล่าวขึ้น

โดยยอมให้เครื่องมือต่าง ๆ ที่เหมาะสมสามารถทำงานร่วมกัน การเปิดกว้างแบบนี้เป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการ หลังจากหลายปีที่ผ่านมาลูกค้าเหล่านี้ไม่มีทางเลือกอื่นเลย นอกจากต้องซื้อระบบเครือข่ายและอุปกรณ์telepresence จากผู้ผลิตเพียงรายเดียว”

ในโซลูชั่นที่หลากหลายสำหรับเพิ่มผลิตภาพในสำนักงานดิจิทัลและรองรับอุปกรณ์ IoT ในระดับองค์กรขนาดใหญ่ที่ได้รับการทดสอบแล้วว่าใช้งานได้จริง อรูบ้าได้ขยายโครงการ ArubaEdge Technology Partner Program โดยเพิ่มรายชื่อคู่ค้าที่เชี่ยวชาญเรื่องสำนักงานดิจิทัลอัจฉริยะได้แก่ AccelTex, HPE Pointnext, Lunera, Patrociniumและ SpaceIQ ไปในรายการชื่อคู่ค้าที่อรูบ้ารับรองร่วมกับรายชื่อที่มีอยู่แล้ว

อันได้แก่ Envoy, Robin และ Teem คู่ค้าเหล่านี้จะสามารถนำเสนอโซลูชั่นที่มีความเป็นเอกภาพซึ่งสามารถรวมการบริการอ้างอิงสถานที่ (location services) เข้ากับ การจัดการอุปกรณ์ IoTขององค์กรให้มีความปลอดภัยในการใช้งานส่วนบุคคลและทำสำนักงานดิจิทัลอัจฉริยะให้เป็นระบบอัตโนมัติ

โทนี บาลิสเตรียริ รองประธาน Corporate Field Sales ที่ Zones, Inc กล่าวว่า “ลูกค้าของเรามีความสนใจเพิ่มมากขึ้นในเรื่องการสร้างสภาพแวดล้อมในสำนักงานที่ทันสมัยอันเป็นผลมาจากการเติบโตของอุปกรณ์พกพาและ IoT”

“แนวโน้มใหม่นี้ทำให้ต้องพึ่งคู่ค้าที่เชื่อถือได้สูงในการทำโซลูชั่นด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมที่จำเป็นอย่างยิ่งในการนำเทคโนโลยีหลาย ๆ อย่างเข้ามาผสานเข้าด้วยกันเพื่อที่จะสรรค์สร้างสำนักงานดิจิทัลอัจฉริยะ”

มหาวิทยาลัยแห่งมลรัฐโอไฮโอ (OSU) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐบาลสหรัฐ ฯ ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ มีนักศึกษากว่า 66,000 คนใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เชื่อมต่อเข้ามาในระบบเครือข่ายโดยเฉลี่ยวันละ 132,000 อุปกรณ์ การจัดการประสิทธิภาพของระบบเครือข่ายจึงเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและใช้เวลามากในแต่ละวัน ทำให้ OSU ต้องหันมาใช้ NetInsightเข้าช่วยแก้ปัญหานี้

“NetInsightช่วยแก้ปัญหาที่น่าปวดหัวที่เรียกว่าช่องว่างทางวิศวกรรม (engineering void) ในทีมของเราโดยที่มันสามารถทำการประเมินประสิทธิภาพของระบบเครือข่ายแคมปัสแบบไร้สาย (campus wireless network) ของเราทั้งในปัจจุบันและอดีตได้เองโดยอัตโนมัติให้คำแนะนำแก่เราเกี่ยวกับการปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการ และตรวจวัดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นต่าง ๆ ออกมาเป็นข้อมูลที่เราสามารถทำความเข้าใจและนำมาใช้ประโยชน์ต่อได้ง่าย ๆ”

บ็อบ คอร์บิน ผู้อำนวยการอาวุโสในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานของมหาวิทยาลัยแห่งมลรัฐโอไฮโอ กล่าวว่า“เราให้ความเชื่อถือ NetInsight เสมือนเป็นสมาชิกคนหนึ่งของทีมเลย”

ทั้งนี้ HPE Pointnext เป็นการให้บริการและโซลูชั่นสำนักงานดิจิทัลอัจฉริยะ ช่วยให้ลูกค้าและคู่ค้าทั่วโลกสามารถใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้อย่างเต็มที่ ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ ๆ สร้างสรรค์ความพึ่งพอใจให้แก่ลูกค้าและเพิ่มผลกำไรจากการที่ทำให้พนักงานมีประสบการณ์ในสำนักงานที่ดีเยี่ยม

การให้บริการและโซลูชั่นเหล่านี้จะช่วยขยายความร่วมมือระหว่างทีมงาน IT ของลูกค้ากับของคู่ค้าของอรูบ้าในการสรรค์สร้างความสามารถที่สมบูรณ์จำเป็นสำหรับการออกแบบ การจัดการพัฒนาและสนับสนุนการสร้างสำนักงานดิจิทัลอัจฉริยะบน Aruba Mobile First Platform และระบบนิเวศของคู่ค้าที่สามารถดูแลรักษาได้ง่าย

Related Posts