หมดปัญหาเรื่องการประเมินราคาพื้นที่หลังคาบ้านที่ขาดความชัดเจน เพราะล่าสุด เอสซีจี ได้ก้าวสู่ผู้นำด้านเทคโนโลยีการประเมินราคาหลังคาบ้าน ด้วยเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียม พร้อมให้บริการตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม ตั้งแต่งานติดตั้งหลังคาบ้านใหม่ครบวงจร และงานปรับปรุงหลังคาบ้านเก่า การซ่อมรั่วเฉพาะจุด ไปจนถึงการเปลี่ยนหลังคาเก่าทั้งผืน เน้นแก้ปัญหาเบ็ดเสร็จจบทุกปัญหาหลังคา
นอกจากนี้ยังเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ http://roofexpert.scgbuildingmaterials.com เพื่อเป็นศูนย์รวมข้อมูลเรื่องหลังคาอย่างครบถ้วน ทั้งข้อมูลสินค้า คำแนะนำเกี่ยวกับระบบหลังคาที่เหมาะสมกับบ้านแต่ละหลัง แบบบ้านที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าที่ต้องการประมาณราคาสินค้าเบื้องต้นด้วยตนเอง รวมทั้งมีช่องทางให้ลูกค้าสามารถลงทะเบียนนัดหมายเวลาเข้ารับคำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญของเอสซีจีได้อีกด้วย
นายธงชัย โสภณ Managing Director-Roof Business ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า เอสซีจีให้ความสำคัญกับการนำปัญหาและความต้องการเชิงลึกของลูกค้ามาพัฒนาเป็นสินค้าและบริการที่ดีขึ้น มองปัญหาของลูกค้าเหมือนกับปัญหาของตัวเองที่ต้องแก้ไขให้ดี แล้วนำปัญหาที่ได้ฟังมาประมวลผลและแก้ไข เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าอย่างแท้จริง
รวมถึงยังมุ่งเน้นการบริการหลังการขายที่ดีอีกด้วย โดยปีนี้เอสซีจีจึงมุ่งตอบโจทย์ลูกค้าให้ครอบคลุมและตรงจุดยิ่งขึ้น ด้วยการนำเสนอสินค้าหลังคาในรูปแบบโซลูชันครบวงจร
“ปัจจุบันในเมืองไทยมีบ้านที่สร้างไปแล้ว 18 ล้านครัวเรือน และมีบางส่วนต้องเริ่มการปรับปรุงสภาพ ต้องมีการเสียหายซ่อมแซม โดยเฉพาะปัญหาล่าสุดที่ลูกค้าต้องเผชิญจากความรุนแรงของสภาพอากาศที่แปรปรวน ทั้งอุณหภูมิ แรงลม และปริมาณฝน
ซึ่งแม้ว่าราคาค่าบริการของช่างจะแพงกว่าผู้รับเหมาทั่วไป แต่เราเป็นมาตรฐานการทำงาน ไซต์งานสะอาดและเป็นมืออาชีพ มีการวัดแบบเป็นระบบชัดเจน ช่างได้รับการเทรนจากเอสซีจี และมีเจ้าหน้าที่ของเราตรวจสอบอย่างรัดกุม มีการวางแผนงานอย่างเป็นระบบ การควบคุมงบประมาณ และการติดตามงานให้เสร็จทันกำหนด
เพื่อบ้านสวย อยู่สบาย และปลอดภัย ผ่าน 3 องค์ประกอบ ได้แก่ สินค้าคุณภาพ ระบบหลังคา และบริการติดตั้งที่เอสซีจีใส่ใจเพื่อให้ลูกค้าใช้งานหลังคาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้รายได้จากงานบริการติดตั้งหลังคาในปีที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
โดยเฉพาะงานปรับปรุงหลังคาบ้านเก่า (Roof Renovation) ที่มีการเติบโตในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการนำเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมมาช่วยประมาณราคาเบื้องต้นสำหรับการเปลี่ยนหลังคาเก่าทั้งผืน เพื่อให้ลูกค้ามีข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้รวดเร็วขึ้น
ปัจจุบันงานติดตั้งหลังคาบ้านใหม่ให้บริการครอบคลุมทั่วทุกภาคของประเทศ ส่วนงานปรับปรุงหลังคาบ้านเก่า พร้อมให้บริการสำหรับบ้านเดี่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ อาทิ ชลบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น และภูเก็ตแล้ว และมีแผนขยายพื้นที่ให้บริการครอบคลุมทุกภาคในอนาคตต่อไป นอกจากนี้ยังได้ทำการเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ http://roofexpert.scgbuildingmaterials.com เพื่อเป็นศูนย์รวมข้อมูลเรื่องหลังคาอย่างครบวงจร
นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าที่ต้องการประมาณราคาสินค้าเบื้องต้นด้วยตนเอง โดยมีช่องทางให้ลูกค้าสามารถลงทะเบียนนัดหมายเวลาเข้ารับคำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญของเอสซีจีได้อีกด้วย
สำหรับในปีนี้ได้นำเสนอระบบหลังคาซึ่งผ่านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม รวมทั้งทดสอบประสิทธิภาพเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าทั้งสิ้น 4 ระบบ ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกประสิทธิภาพของแต่ละระบบได้ตั้งแต่ระดับ Silver ไปจนถึง Gold และ Platinum ได้แก่ 1.ระบบหลังคากันร้อน (SCG Heat Protection System) ช่วยสะท้อนและป้องกันความร้อนได้ดียิ่งขึ้น
เพราะความร้อนที่เข้าสู่ตัวบ้านจะผ่านเข้ามาทางหลังคา ดังนั้นการป้องกันความร้อนตั้งแต่ด่านแรกจึงสำคัญที่สุด 2.ระบบหลังคากันรั่ว (SCG Leakage Protection System) ช่วยป้องกันปัญหารั่วซึมบริเวณจุดเสี่ยงและรอยต่อต่างๆ ของหลังคา หมดกังวลกับการซ่อมแซมและมีค่าใช้จ่ายภายหลัง
3.ระบบยึดหลังคา (SCG Fixing Solution System) ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผืนหลังคา เพิ่มความปลอดภัยให้บ้าน หมดกังวลกับปัญหาหลังคาหลุดปลิว
และ 4.ระบบหลังคาระบายอากาศ (SCG Ventilation System) ช่วยระบายความร้อนจากโถงหลังคาให้บ้านเย็นสบายกว่าที่เคย ซึ่งเอสซีจีตั้งเป้ายอดการให้บริการติดตั้งหลังคาในปีนี้ ขยายตัวเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40
และหวังผลักดันยอดขายกลุ่ม Roof Renovation ให้เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 150 จากปีที่ผ่านมา ส่วนยอดขายหลังคาในปีที่ผ่านมานั้นมีรายได้ประมาณ 7,000 ล้านบาท ตั้งเป้าการเติบโตที่ 1-2% แม้ว่าตลาดหลังคาโดยรวมจะยังคงติดลบ