Place-ism หรืออาจจะแปลเป็นไทยง่ายๆ ว่าเป็นแนวคิดของการบูชาสถานที่ ซึ่งในปี 2561 นี้ ซิสโก้มองว่าเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความสะดวกสบาย สำหรับการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานที่อยู่ไกลทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว โดยจะยังสามารถสร้างมิตรภาพ ความไว้วางใจและความสามัคคีได้ แม้จะอยู่คนละสถานที่กับเพื่อนร่วมงานในทีมเดียวกัน
นอกจากนี้การทำงานร่วมกันนั้นผู้คนจะคุ้นเคยมากขึ้นเมื่อพูดคุยกับทีมงานผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ชินกับการสั่งงานด้วยเสียงพูดกับแมชชีน รวมถึงการพูดคุยกับโทรศัพท์ ระบบคอมพิวเตอร์ในรถยนต์ และอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน และในปี 2561 ผู้คนจะเริ่มพูดคุยกับห้องประชุม และในไม่ช้าก็จะพูดคุยโต้ตอบกับทีมงานที่เป็นระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ซึ่งผลการศึกษาของซิสโก้เผยว่า 95% ของคนทำงานในออฟฟิศ (จาก 2,270 คนที่ตอบแบบสอบถาม) “เห็นด้วย” กับการใช้ระบบ AI เพื่อช่วยในเรื่องการประชุม และ 57% เชื่อว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
และในอีกไม่นานนี้เราจะได้พบกับเทคโนโลยี Ambient AI ซึ่งเป็นโปรแกรมผู้ช่วยอัจฉริยะสำหรับการประชุมจะทำงานในส่วนของแบ็คกราวด์ เพื่อเรียนรู้วิธีการจัดตั้งทีมงานและการทำงานร่วมกัน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในช่วงทดลองด้านความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว
บ้านจะกลายเป็นสถานที่ทำงานตามปกติ แม้ในบางบริษัทจะพยายามให้เข้ามาอยู่ร่วมกันในออฟฟิต แต่ปัจจัยอื่นๆ อย่างเช่น โปรแกรมแชท การประชุมผ่านวิดีโอ รวมไปถึงปัจจัยขับเคลื่อนทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ เช่น การใช้เวลาและค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางไปกลับจากที่ทำงาน จะทำให้บ้านกลายเป็นออฟฟิศที่เหมาะสมที่สุด และที่สำคัญการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยจะทำให้ผู้เชี่ยวชาญไม่จำเป็นต้องเดินทางมายังออฟฟิศ แต่ยังสามารถพูดคุยได้เหมือนกับตัวต่อตัวด้วยเทคโนโลยี แม้ทุกคนจะอยู่คนละที่กัน ช่วยให้ประหยัดต้นทุนไปได้มหาศาล
ห้องประชุมจะกลายเป็นห้องนั่งเล่นในออฟฟิศ การทำงานร่วมกันเป็นทีมจะขยายตัวออกไปในพื้นที่ทำงานที่ไม่ใช่แค่ในห้องเดียวกัน สิ่งเหล่านี้จะทำให้ออฟฟิศเป็นสถานที่พิเศษสำหรับงานที่เฉพาะเจาะจงหรือการทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะ ซึ่งองค์กรธุรกิจควรจะติดตั้งเทคโนโลยีวิดีโอที่มีประสิทธิภาพพร้อมด้วยเทคโนโลยีสภาพแวดล้อมที่ใช้ AI เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน รองรับการทำงานเป็นทีมบนระบบคลาวด์ที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอ
นาย ซานดีพ เมห์ร่า กรรมการผู้จัดการด้าน Collaboration (การทำงานร่วมกัน) ของซิสโก้ ประจำภูมิภาคเอเชียและญี่ปุ่น กล่าวว่า ในปี 2561 จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับองค์กรธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ช่วยให้ฝ่ายรักษาความปลอดภัยมีเครื่องมือสำหรับการตรวจสอบและควบคุมข้อมูล เพิ่มความปลอดภัยให้กับผลิตภัณฑ์ส่วนตัวของผู้ใช้ โดยไม่จำเป็นต้องล็อคสเปคของอุปกรณ์เหมือนกับเครื่องมือรักษาความปลอดภัยรุ่นแรกๆ
โดย VR และ AR จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการประชุม ยิ่งเราสามารถสร้างเครื่องมือทางเทคโนโลยีเหล่านี้ได้มากเท่าไร การทำงานร่วมกับทีมงานที่เชื่อมต่อถึงกันก็จะเป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นธรรมชาติมากขึ้นเท่านั้น
ล่าสุดซิสโก้ได้นำเสนอ Cisco WebEx in VR ห้องเสมือนจริงสำหรับการทำงานร่วมกันของทีมงาน ประชุม ปรึกษาหารือ และติดต่อสื่อสารพบปะกันได้แม้อยู่ห่างไกลกันหลายไมล์ โดยเทคโนโลยี Virtual Reality จะนำเสนอวิธีการที่แปลกใหม่ช่วยให้การพรีเซนต์งาน พบปะพูดคุยกันได้ราวกับว่าอยู่ในห้องเดียวกัน แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วจะอยู่ห่างไกลกันหลายพันไมล์ก็ตาม ต่อยอดจากการประชุมแบบคอนเฟอร์เรนซ์แบบเดิม แต่เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีที่มีเอไอเข้ามาเกี่ยวข้อง
“ปัจจุบันกระบวนการทำงานบางอย่างเริ่มเข้าสู่ระบบ VR เช่น การออกแบบ และการสร้างคอนเทนต์ ซึ่งแนวคิด Cisco WebEx in VR คือตัวอย่างล่าสุดของการทดลองของซิสโก้ในการใช้เครื่องมือสำหรับการทำงานร่วมกันขณะนี้บุคลากรสามารถพูดคุยโต้ตอบ ประสานงาน และใช้เวลาร่วมกันในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยแอป Cisco WebEx in VR ซึ่งพร้อมใช้งานในร้านค้าของ Oculus เรากำลังทดสอบวิธีที่ผู้คนจะสามารถเริ่มต้นทำงานร่วมกันในโลกเสมือนจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
Cisco WebEx in VR จะช่วยให้การติดต่อสื่อสารกับคนอื่นๆ ในรูปแบบของตัวละคร พบปะพูดคุยกันในรูปแบบที่สมจริงและเป็นธรรมชาติมากกว่าเดิม ช่วยให้สามารถคว้าจับ เปิด แชร์ และนำเสนอไฟล์ต่างๆ โดยใช้มือของผู้ใช้งานในการพลิกดูแต่ละหน้า โต้ตอบกับวัตถุ 3 มิติ และนำเสนอ PDF ให้แก่คนอื่นๆ ในทีมงาน นอกจากนี้ยังทำการเชื่อมต่อกับกระดานไวท์บอร์ดในโลกแห่งความเป็นจริง ผู้ใช้งานจึงสามารถเขียน/ลบข้อความบนไวท์บอร์ดและใช้งานความสามารถอื่นๆ ในโลกเสมือนจริงหรือระบบ Virtual Reality และสมาชิกทีมงานจะสามารถทำงานร่วมกันในแบบเรียลไทม์ผ่านทาง VR และกระดานของจริงไปพร้อมๆ กัน
ทั้งนี้ซิสโก้จะได้นำเสนอ Cisco Webex Teams ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแบรนด์ใหม่สำหรับแอป Cisco Spark ซึ่งซิสโก้ได้ทำการปรับปรุงได้ดีไซน์แอปใหม่ที่เรียบง่าย ใช้งานสะดวก รองรับการทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ใช้ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เริ่มใช้งานเป็นครั้งแรก การเข้าถึงกิจกรรมและเครื่องมือทั้งหมดอย่างไร้รอยต่อสำหรับการทำงานเป็นทีม ให้ได้มากกว่าการส่งข้อความเป็นกลุ่ม พื้นที่ต่างๆ
จะช่วยรองรับกิจกรรมการทำงานร่วมกันทั้งหมดของทีมงานในลักษณะที่สมดุล ส่งเสริมการติดต่อสื่อสารมากกว่าเพียงแค่การแชท ปรับปรุงวิธีที่ผู้ใช้สามารถดูและเข้าร่วมการประชุม เพิ่มความสะดวกในการทำงานตั้งแต่ห้องประชุมถึงโต๊ะทำงาน ด้วย Cisco Webex Board
ปัจจุบันมีผู้ใช้ Cisco WebEx 6 พันล้านนาทีต่อเดือน 130 ล้านผู้ใช้งานและมีอุปกรณ์กว่า 1.5 ล้านชิ้น