หลังจากลงทุนด้านเทคโนโลยีไปอย่างเต็มที่ ล่าสุดกสิกรไทยจึงได้ใช้ประโยชน์จาก AI ในการนำมาวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าทั้งพฤติกรรมด้านการเงินและความต้องการ ทำให้ลูกค้าเอสเอ็มอีสามารถขอสินเชื่อผ่านมือถือเป็นแบงก์แรก หวังช่วยลูกค้าให้เข้าถึงสินเชื่อและได้เงินทุนในเวลาที่ต้องการ วงเงินกู้สูงสุด 1 ล้านบาท
โดยไม่ใช้หลักประกัน ไม่ต้องยื่นเอกสาร คลิ๊กปุ๊บ 1 นาทีรับเงินทันที ตั้งเป้าปีนี้ปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีผ่านมือถือ 3,000 ล้านบาท
การนำเสนอสินเชื่อดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนโฉมการให้สินเชื่อเอสเอ็มอี จากเดิมที่การขอสินเชื่อเอสเอ็มอีจะใช้เวลาในการพิจารณาและใช้เอกสารในการสมัครหลายอย่าง แต่การนำ AI และเทคโนโลยีของมือถือเข้ามาสร้างโมเดลอัจฉริยะในการวิเคราะห์ข้อมูลและความต้องการสินเชื่อนั้น
นอกจากระบบจะรู้ว่าใครมีความต้องการสินเชื่อแล้ว ยังมีขั้นตอนในการรับเงินสินเชื่อที่รวดเร็วมากขึ้น ลดขั้นตอนในการขอสินเชื่อ ได้วงเงินที่เพียงพอในเวลาที่ต้องการโดยไม่ต้องร้องขอ ไม่เสียโอกาสทางธุรกิจ และยิ่งผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีการเดินบัญชีสม่ำเสมอ มีวินัยทางการเงิน จะทำให้ธนาคารมีข้อมูลเพียงพอในการใช้ระบบวิเคราะห์เพื่อนำเสนอสินเชื่อแก่ลูกค้า
“เมื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้รับแจ้งข้อเสนอสินเชื่อผ่านเมนู Life PLUS บนแอปพลิเคชัน K PLUS เพียง 3 ขั้นตอน คือ 1.ลูกค้าเลือกข้อเสนอ 2.ธนาคารพิจารณาอนุมัติ 3.ลูกค้าคลิ๊กตกลงรับสินเชื่อ เงินจะโอนเข้าบัญชีลูกค้าทันทีภายใน 1 นาที โดยให้วงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท ไม่ต้องใช้หลักประกัน ไม่ต้องยื่นเอกสาร”
นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยได้พัฒนาโมเดลในการพิจารณาสินเชื่อสำหรับเอสเอ็มอีขึ้นมาใหม่ โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้า เช่น ข้อมูลด้านเงินฝาก การใช้เครดิต และข้อมูลจากแอปพลิเคชัน K PLUS เป็นต้น
เพื่อประเมินหาความต้องการทางการเงิน และนำเสนอสินเชื่อผ่านมือถือ ซึ่งการใช้ AI และเทคโนโลยีของมือถือเข้ามาช่วย ทำให้ธนาคารรู้ว่าต้องนำเสนอสินเชื่อ “ให้ใคร” ที่มีความต้องการเงินทุน นำเสนอ “ให้เมื่อไหร่” ที่ตรงกับช่วงเวลาที่ลูกค้าต้องการ และนำเสนอ “ให้เท่าไหร่” ซึ่งเป็นวงเงินที่เพียงพอสำหรับความต้องการของธุรกิจลูกค้า
เอสเอ็มอีเป็นกลุ่มธุรกิจที่สำคัญของธนาคารและต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แต่ที่ผ่านมาธุรกิจเอสเอ็มอียังมีข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน จากปัญหาการไม่มีข้อมูลทางการเงินเพียงพอสำหรับธนาคารในการพิจารณาสินเชื่อ ไม่มีหลักประกัน
รวมถึงขาดการวางแผนการทางการเงิน จึงทำให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบยาก ส่งผลให้ธุรกิจหยุดชะงักและทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดเล็กก็จะมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อมากขึ้น และในอนาคตเมื่อธนาคารมีข้อมูลลูกค้ามากขึ้น
ระบบ AI จะสามารถพัฒนาความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลความต้องการของลูกค้าได้แม่นยำยิ่งขึ้น ก็จะเป็นโอกาสที่จะขยายสินเชื่อให้เอสเอ็มอีได้มากขึ้นและกับกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น
“ธนาคารได้นำเสนอสินเชื่อเอสเอ็มอีผ่านมือถือไปตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยเป็นการส่งแจ้งเข้าไปที่เมนู Life PLUS บนแอปพลิเคชัน K PLUS ของลูกค้า ซึ่งได้รับความสนใจและตอบรับวงเงินที่ธนาคารนำเสนอ นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีจากลูกค้า และจากการที่ภาพรวมเศรษฐกิจของไทยมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น
จึงเชื่อว่าลูกค้าเอสเอ็มอีน่าจะมีความต้องการที่จะใช้เงินทุนหมุนเวียนและขยายการลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งการนำเสนอและอนุมัติสินเชื่อที่ง่ายและรวดเร็วจะช่วยให้ลูกค้าเลือกใช้บริการสินเชื่อกับธนาคารมากขึ้น โดยในปีนี้ธนาคารได้ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีผ่านมือถือ 3,000 ล้านบาท”