ไปรษณีย์ไทยจะทำอะไร ถึงมั่นใจจะขึ้นเบอร์ 1 โลจิสติกส์ในอาเซียน

ไปรษณีย์ไทยจะทำอะไร ถึงมั่นใจจะขึ้นเบอร์ 1 โลจิสติกส์ในอาเซียน

ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาธุรกิจของไปรษณีย์ไทยมีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา และมีเทคโนโลยีใหม่ๆ มานำเสนออย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับที่ในปีนี้ไปรษณีย์ไทยได้เตรียมนำเทคโนโลยีมาพัฒนาระบบบริการอย่างต่อเนื่อง ภายใต้เงื่อนไขการใช้บริการที่สะดวกและไม่ซับซ้อน ผ่านสาระพัดบริการอัจฉริยะ พร้อมสนับสนุนอีคอมเมิร์ซระดับจังหวัดและเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์รองรับโครงการ EEC โดยตั้งเป้าหมายว่าจะขึ้นเบอร์หนึ่งธุรกิจไปรษณีย์และระบบโลจิสติกส์ในอาเซียน

สร้างภาพลักษณ์องค์กรใหม่ให้เป็นองค์กรที่มี “มาตรฐาน ทันสมัย พึงพอใจลูกค้า” ภายใต้หลักการบริหารที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ พร้อมยกระดับการให้บริการสู่ “ไปรษณีย์ไทย 4.0” ที่เน้นการสร้างความเข้มแข็งจากภายในองค์กร เพื่อให้บุคลากรทุกระดับของไปรษณีย์ไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบายนี้

นอกจากนี้ในการพัฒนาบริการต่างๆ นั้นยังมุ่งที่จะรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ด้วยการยกระดับระบบปฏิบัติการให้สะดวกต่อการใช้บริการและมีความทันสมัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการ ตามกลยุทธ์ “THP POWER พลังไปรษณีย์ไทย พลังขับเคลื่อนประเทศไทย”

พร้อมเดินหน้าพัฒนาความเป็นเลิศทุกกระบวนการทำงานรองรับการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เพื่อตอกย้ำศักยภาพการทำงานของไปรษณีย์ไทยในฐานะ “เครือข่ายชีวิตและเศรษฐกิจไทย” อย่างแท้จริง

โดยในปีนี้ไปรษณีย์ไทยได้ทำการพัฒนาด้วยการนำเทคโนโลยีพัฒนาบริการ เน้นการใช้บริการที่สะดวกและไม่ซับซ้อน ด้วยบริการใหม่ๆ อาทิ บริการกล่องพร้อมส่งและแอปพลิเคชันพร้อมโพสต์ (Prompt Post) ช่วยให้ผู้ประกอบการประหยัดเวลาฝากส่งหน้าเคาน์เตอร์ ณ ที่ทำการฯ และลดต้นทุนในคราวเดียวกัน เพียงทำการฝากส่งล่วงหน้าจากที่บ้าน เครื่องบริการรับฝากไปรษณีย์อัตโนมัติ (APM) รองรับผู้ใช้บริการที่ต้องการฝากส่งเร่งด่วน หรือสิ่งของที่ไม่ผ่านการเอ็กซ์เรย์

โดยติดตั้งให้บริการ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และในปีนี้มีแผนการติดตั้งเครื่อง APM จำนวน 9 เครื่อง ณ ท่าอากาศยานในสังกัดของกรมท่าอากาศยาน จำนวน 7 แห่ง

iBox หรือบริการตู้นำจ่ายไปรษณีย์อัตโนมัติ ได้ทำการติดตั้งแล้ว ณ ที่ทำการไปรษณีย์ 28 แห่งในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมาก “บริการคูเรียโพสต์ (Courier Post)” บริการจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศระดับพรีเมียมภายใน 2-4 วัน พร้อมมีบริการ On Demand Delivery (ODD) ให้ผู้รับสามารถเปลี่ยนกำหนดเวลาการจัดส่งพัสดุ

หรือเปลี่ยนที่อยู่สำหรับการรับพัสดุได้ตามต้องการ และล่าสุดติดตั้งเครื่องคัดแยกกล่องพัสดุและซองจดหมายประสิทธิภาพสูง ที่สามารถคัดแยกได้กว่า 8,000 – 9,000 ชิ้นต่อชั่วโมง ณ ศูนย์ไปรษณีย์ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อรองรับปริมาณงานไปรษณีย์ที่เพิ่มสูงขึ้นจากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ

สำหรับในส่วนงานเดิมนั้นยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบงานไปรษณีย์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งระบบงานรับฝาก ด้วยการขยายจุดรับฝากที่หลากหลาย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ ระบบงานคัดแยก ด้วยการนำเครื่องคัดแยกอัตโนมัติมาใช้ เพื่อให้การปฏิบัติงานมีความรวดเร็วขึ้น ระบบงานส่งต่อให้ บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเข้ามาทำหน้าที่ขนส่งไปรษณีย์

เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการขนส่งและระบบงานนำจ่ายที่ผู้ใช้บริการสามารถกำหนด วัน เวลา และสถานที่ได้ด้วยตนเอง รวมไปถึงยังพร้อมที่จะก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ รองรับโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC)เพื่อให้ไปรษณีย์ไทย เป็น “เบอร์หนึ่ง” ในธุรกิจไปรษณีย์และการให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรในอาเซียน” ได้อย่างแท้จริง

นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า นอกเหนือไปจากการนำนวัตกรรมเข้ามาใช้งานแล้ว ไปรษณีย์ไทยยังพร้อมช่วยอีคอมเมิร์ซระดับจังหวัด ด้วยการติดตั้งระบบบริหารร้านค้าปลีก หรือ พีโอเอส (Point of Sale : POS) เพื่อรองรับโครงการดิจิทัลชุมชนด้านอีคอมเมิร์ซ ณ ร้านค้าชุมชนที่เข้าร่วมโครงการกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ

โดยปัจจุบันมีสินค้าอยู่ในระบบกว่า 1,300 รายการ ที่สามารถเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ www.thailandpostmart.com ร้านค้าออนไลน์สินค้าชุมชนขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย

และจัดทำโครงการ “ไปรษณีย์ไทย…เพื่อแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง” ที่ใช้ศักยภาพด้านเครือข่ายที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ เป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจชุมชน โดยที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนเพิ่มขึ้นกว่า 50 เปอร์เซนต์ และมีสินค้าที่ได้รับการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมแล้วครอบคลุมพื้นที่ 16 แห่งทั่วประเทศ

Related Posts