ไม่ต้องตั้งบูธประชันกับใครให้เป็นตัวเลือก เพราะสำหรับคนที่เลือกแบรนด์นี้แล้วก็จะพลาดงาน BMW Xpo 2018 ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง งานนี้นอกจากจะขนรถบีเอ็มดับเบิลยูมาทุกรุ่นทุกแบบแล้ว ยังจะเปิดตัวรถใหม่อย่าง บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport ใหม่ บีเอ็มดับเบิลยู i8 Roadster ใหม่ และบีเอ็มดับเบิลยู M2 Edition Black Shadow ใหม่ ที่พร้อมเปิดให้แฟนพันธุ์แท้มายลโฉมกับแบบพร้อมขาย พบกันระหว่างวันที่ 6-9 กันยายนนี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
แต่ถ้าใครสนใจรถต้นแบบล้ำๆ งานนี้บีเอ็มดับเบิลยูก็ได้นำ Concept X7 iPerformance สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก โดยบีเอ็มดับเบิลยู Concept X7 iPerformance เป็นรถยนต์ 6 ที่นั่งสุดหรู พร้อมระบบความบันเทิงและการสื่อสารล้ำยุค ในรูปลักษณ์ที่เปี่ยมด้วยความสง่างามและทรงพลัง
และที่สำคัญยังเป็นอีกขั้นของการพัฒนารถยนต์ในตระกูล iPerformance ให้โดดเด่นด้วยการผสานนวัตกรรมการขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า eDrive ที่ลดมลภาวะ และการขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซิน BMW TwinPower Turbo
นายคริสเตียน วิดมานน์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่างาน BMW Xpo เปรียบเสมือนการเฉลิมฉลองรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมประสิทธิภาพเหนือชั้น และพร้อมที่จะนำเสนอนวัตกรรมแห่งยนตรกรรมสุดหรูและเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ก้าวหน้าที่สุดในอุตสาหกรรมให้แก่ลูกค้าชาวไทย
โดยนอกจากการนำรถยนต์รุ่นใหม่แล้ว งานนี้ยังเป็นการรวมตัวครั้งสำคัญของเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูที่จะนำรถมาจัดแสดงในงาน BMW Xpo 2018 กว่า 15 คัน
พร้อมร่วมแบ่งปัน #BMWStories ประสบการณ์สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน ทั้งจาก เปาะ กีรเกียรติ เย็นมะโนช เจ้าของตำนานบีเอ็มดับเบิลยู สีเขียว ‘สังกะสีตรา 3 มงกุฎ’ คันเดียวในประเทศไทย มงคล ทศไกร นักฟุตบอลทีมชาติไทย และ ศราวุธ พอจิต นักบินผู้หลงใหลในบีเอ็มดับเบิลยู
พร้อมกันนี้เรายังได้เตรียมอาหารและกิจกรรมที่สนุกสนานมากมาย รวมถึงมินิคอนเสิร์ตจากป๊อด โมเดิร์นด็อก ให้ทุกคนได้เพลิดเพลินกันในวันเสาร์ที่ 8 กันยายน เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์
ส่วนใครที่อยากจะรู้จักรถรุ่นใหม่ที่จะมาเปิดตัวในงานนี้ Thereporter.asia ขอแนะนำคันที่สะกดทุกสายตาก่อน กับ บีเอ็มดับเบิลยู i8 รถยนต์สปอร์ตแห่งอนาคตที่กลับมาสร้างความเร้าใจอีกครั้งในสไตล์โรดสเตอร์ ขับเคลื่อนในระบบปลั๊กอิน ไฮบริด ควบคู่กับเทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู eDrive ใหม่ล่าสุด
ที่ได้รับการพัฒนาให้สามารถวิ่งได้นานและไกลมากขึ้นโดยไร้การปล่อยมลภาวะ มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแรงดันสูงที่เพิ่มความจุจาก 20 แอมป์เป็น 34 แอมป์ หรือเพิ่มความจุแบตเตอรี่โดยรวมจาก 7.1 เป็น 11.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง
ส่งพลังด้วยด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 105 กิโลวัตต์ / 143 แรงม้า เพิ่มขึ้นจากเดิม 9 กิโลวัตต์ / 12 แรงม้า สามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ 105 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัฒนาจากมอเตอร์ไฟฟ้าของรุ่นก่อนหน้าที่เร่งความเร็วได้สูงสุด 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ซึ่งเมื่อขับขี่ด้วยโหมด eDrive โดยไม่มีการปล่อยไอเสียเลย จะสามารถส่งบีเอ็มดับเบิลยู i8 Roadster ใหม่ด้วยความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถขับขี่ในตัวเมืองได้โดยไม่ปล่อยมลภาวะออกจากท่อไอเสียเป็นระยะทางสูงสุด 53 กิโลเมตร (EU test cycle)
เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ยังคงทรงพลังเช่นเดิมด้วยกำลัง 170 กิโลวัตต์ / 231 แรงม้า สร้างอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรได้ภายใน 4.6 วินาที เพิ่มลุคสปอร์ตด้วยล้ออัลลอยบีเอ็มดับเบิลยู i ขนาด 20 นิ้ว ลาย W-spoke
โครงกระจกหน้ามาในวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา พร้อมด้วยหลังคาที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าได้อย่างไร้เสียงภายในเวลา 15 วินาที ขณะขับขี่ที่ความเร็วสูงสุด 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยหลังคาจะถูกเก็บลงในลักษณะตั้งฉาก ทำให้เพิ่มปริมาตรการเก็บสัมภาระที่ท้ายรถได้ถึงมากขึ้นถึง 100 ลิตร
การออกแบบโดยใช้เทคโนโลยี BMW EfficientLightweight ด้วยการใช้ชิ้นส่วนอลูมิเนียมที่เชื่อมต่อกลไกการเปิดปิดหลังคาเข้ากับตัวรถ ซึ่งผลิตขึ้นด้วยเทคนิคการพิมพ์แบบสามมิติ อันถือเป็นการบุกเบิกเทคโนโลยีด้านการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์
ด้วยการผลิตโครงสร้างยึดเกาะที่เชื่อมต่อกันในรูปทรงเรขาคณิต ซึ่งไม่สามารถทำได้ด้วยกระบวนการหล่อขึ้นรูปในแบบดั้งเดิม ขณะที่การพิมพ์แบบสามมิตินี้ ยังช่วยให้ชิ้นส่วนดังกล่าวมีคุณสมบัติครบครัน ทั้งในด้านความแข็งแกร่งและน้ำหนักที่เบา
บีเอ็มดับเบิลยู i8 Roadster ใหม่ ยังมาพร้อมเทคโนโลยี BMW ConnectedDrive เพื่อการเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด และนวัตกรรมที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่อื่น ๆ เช่น ระบบจอภาพแสดงข้อมูลการขับขี่ (BMW Head-up Display) ระบบแผนที่นำทางรุ่น Professional กุญแจรีโมทระบบสัมผัส (BMW Display Key) ระบบ Driving Assistant ระบบไฟหน้า BMW Laserlight และระบบสร้างเสียงจำลองเพื่อให้ผู้ใช้ทางเท้าได้ยิน
มากันที่น้องใหม่ล่าสุดในกลุ่มรถครอบครัวกับบีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport ใหม่ เปิดตัวกันที่ราคา3,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard) มาพร้อมดีไซน์เฉพาะตัวในฐานะ Sports Activity Coupe คันแรกของรถยนต์ขนาดกลาง สมาชิกของบีเอ็มดับเบิลยูตระกูล X รูปโฉมภายนอกมีขนาดยาวขึ้น 81 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 37 มิลลิเมตร
และฐานล้อกว้างขึ้น 54 มิลลิเมตร ดีไซน์ภายนอกเสริมด้วยเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวและชุดแต่ง M Sport พร้อมด้วยล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้ว ลาย Double-spoke พร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนใหม่ล่าสุดมาเต็มพิกัด ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมการขับขี่ขณะเข้าโค้ง (Performance Control) พวงมาลัยไฟฟ้าอัจฉริยะแบบสปอร์ต ระบบ Driving Assistant และช่วงล่างแบบ M Sport
บีเอ็มดับเบิลยู X4 ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบที่มาพร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้พละกำลังสูงสุดที่ 140 กิโลวัตต์ / 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบต่อนาที เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 8 วินาที
ทะยานสู่ความเร็วสูงสุด 213 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้สมรรถนะที่คล่องตัวในทุกสภาพท้องถนนด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ บีเอ็มดับเบิลยู xDrive ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ
และด้วยเทคโนโลยี BMW EfficientLightweight บีเอ็มดับเบิลยู X4 ใหม่ จึงมีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 50 กิโลกรัม และยังมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพียง 0.30 ซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพสูงที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ภายในเซกเมนต์เดียวกัน
บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport ใหม่ พกพานวัตกรรมล้ำยุคจากบีเอ็มดับเบิลยูมาอย่างเต็มเปี่ยม ทั้ง ระบบ iDrive ใหม่ล่าสุด ระบบการสั่งการด้วยเสียงและ BMW Gesture Control ระบบการติดต่อ สื่อสารอย่างไร้ขีดจำกัด BMW ConnectedDrive และระบบความปลอดภัยล้ำสมัยต่าง ๆ เพื่อสร้าง
ความอุ่นใจและปลอดภัยในทุกเส้นทาง
สำหรับสายนักแข่งที่ชอบไม่เหมือนใคร งานนี้ขอแนะนำบีเอ็มดับเบิลยู M2 Edition Black Shadow ใหม่ ราคา : 6,009,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard) อวดโฉมดีไซน์สีดำล้วน Sapphire Black metallic สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ตอกย้ำความทรงพลังสไตล์สปอร์ตของรถยนต์ในตระกูล M
เสริมลุคด้วยล้ออัลลอยสีดำด้านขนาด 19 นิ้ว ลาย Y-spoke เติมเต็มความสมบูรณ์แบบของรถสปอร์ตคูเป้ด้วยยางหน้าและหลังคละขนาด มาพร้อมขุมพลังเบนซิน BMW M TwinPower Turbo 6 สูบแถวเรียง ทำงานเข้าจังหวะกับเกียร์อัตโนมัติ M แบบคลัตช์คู่ 7 จังหวะ
พร้อม Drivelogic ให้กำลังสูงสุด 272 กิโลวัตต์ / 370 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 465 นิวตันเมตร ที่ 1,400-5,560 รอบต่อนาที ตอบสนองการขับขี่ได้ในทุกจังหวะด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ 4.3 วินาที โดดเด่นด้วยกระจกข้างคาร์บอน กระจังหน้าไตคู่สไตล์ M ขอบหน้าต่างสีดำเงา ท่อไอเสีย M คาร์บอนขอบโครเมียมคู่แยกออก 2 ทาง
สำหรับลูกค้าที่สั่งจองรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูภายในงาน BMW Xpo 2018 จะได้รับข้อเสนอพิเศษดังต่อไปนี้
ลูกค้าที่จองรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นที่เข้าร่วมรายการ* พร้อมด้วยแพ็คเกจบริการ BSI Ultimateมอบระยะเวลาการบำรุงรักษาฟรี 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร และการรับประกัน 5 ปีโดยไม่จำกัดระยะทาง
โดยมีกำหนดส่งมอบรถไม่เกินวันที่ 30 กันยายน 2561 จะได้รับการขยายระยะเวลาโปรแกรม BSI ครอบคลุมการบำรุงรักษาฟรี 6 ปี / 120,000 กิโลเมตร พร้อมรับประกัน 6 ปีแบบไม่จำกัดระยะทาง ทั้งนี้ข้อเสนอการขยายเวลาในโครงการ BSI และการรับประกันนี้ ไม่ครอบคลุมรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในตระกูล i และบีเอ็มดับเบิลยู X4 (F26)