K SME Good to Great พร้อมหนุนธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์

K SME Good to Great พร้อมหนุนธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์

กสิกรไทย จับมือสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ และสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย จัดโครงการ K SME Good to Great ครั้งที่ 3

หนุนเอสเอ็มอีธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ฮาร์ดแวร์ และพลาสติกอุตสาหกรรม เพื่อยกระดับการผลิตสู่กลุ่มอุตสาหกรรมอนาคต (New S-Curve) อัพความรู้และให้คำปรึกษาเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมผลิต พร้อมโอกาสรับเงินรางวัล 100,000 บาท

นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยจัดโครงการ K SME Good to Great นี้ขึ้นเป็นครั้งที่ 3 โดยในครั้งนี้เป็นการสนับสนุนกลุ่มธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ฮาร์ดแวร์ และพลาสติกอุตสาหกรรม ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจนี้ถือเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก (Disruptive Technology) ที่เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตและส่งผลกระทบกับธุรกิจและเศรษฐกิจโลก

โดยเฉพาะเทคโนโลยีในโลกยานยนต์ที่มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทั้งการผลิตรถยนต์ที่มีฟังก์ชั่นต่างๆ รวมถึงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ที่ต้องมีระบบการทำงานแบบอัจฉริยะมากขึ้นในหลายๆ ส่วน

ส่งผลให้ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ ฮาร์ดแวร์และพลาสติกอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้องพึ่งพิงธุรกิจยานยนต์ต้องเผชิญกับความท้าทายในการปรับตัวและยกระดับการผลิตของตนเองในการเข้ากลุ่มอุตสาหกรรมอนาคต (New S-Curve) ให้ได้

นอกจากนี้ธุรกิจฮาร์ดแวร์ และธุรกิจพลาสติกอุตสาหกรรมเป็นธุรกิจที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงด้านการผลิตที่ปัจจุบันมุ่งการผลิตไปที่ประเทศจีนที่มีต้นทุนค่าแรงที่ถูกกว่า

ดังนั้น ผู้ประกอบการ SME ไทยในทั้ง 3 กลุ่มอุตสาหกรรม จำเป็นต้องมีการปรับปรุงการผลิต นำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มกำลังการผลิต และลดต้นทุน รวมทั้งต้องพยายามหาตลาดใหม่ๆอยู่เสมอ เพื่อลดแรงกดดันจากต่างชาติ

ธนาคารกสิกรไทยจึงได้ร่วมมือกับพันธมิตรจาก สวทช. สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ และสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย จัดโครงการ K SME Good to Great เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ฮาร์ดแวร์ และพลาสติกอุตสาหกรรม

ให้สามารถดำเนินธุรกิจและแข่งขันได้ในระยะยาวและเติบโตอย่างยั่งยืน และยังสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้รองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตและสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น

รายละเอียดโครงการแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ 1. งานสัมมนาให้ความรู้เรื่องกลยุทธ์ แนวโน้มการผลิตเพื่อรองรับอุตสาหกรรมอนาคต 2. การอบรมเชิงลึก 4 วันกับผู้เชี่ยวชาญตัวจริง โดยนำเทคโนโลยีหรืองานวิจัยเข้ามาเพื่อสร้างมูลค่าและต่อยอดสินค้าโดยคัดเลือกผู้สมัครเพียง 50 รายเท่านั้น

และ 3. การให้คำปรึกษาตัวต่อตัวในการทำวิจัยและพัฒนาธุรกิจ สำหรับ 5 ผู้ประกอบการที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับเงินรางวัลรายละ 100,000 บาท พร้อมรับคำปรึกษารายธุรกิจ พร้อมเงินทุนในการวิจัยและพัฒนาศักยภาพธุรกิจจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)

ธนาคารฯ หวังว่าโครงการ K SME Good to Great นี้จะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ช่วยให้ผู้ประกอบการทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจให้สามารถดำเนินธุรกิจและแข่งขันได้อย่างแข็งแกร่งท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

รศ.ดร.รัชพล สันติวรากร ผู้อำนวยการโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) จาก สวทช.เปิดเผยว่า บทบาทของสวทช. คือ การสนับสนุนผู้ประกอบการในทุกอุตสาหกรรม ซึ่งอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ฮาร์ดแวร์ และพลาสติกอุตสาหกรรมจัดอยู่ใน Supply Chain ของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์

ซึ่งถือเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่รัฐบาลมุ่งเน้น โดยสวทช.จะให้ความสำคัญในการทำงานวิจัย และยกระดับเทคโนโลยีในการผลิตของผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ก็อยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า ทาง สวทช. ก็ทำงานในหลายกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง

เพื่อให้ สวทช. เป็นหนึ่งในหน่วยงานหลักที่ช่วย SME ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ได้ สำหรับการดำเนินการภายใต้โครงการนี้ จะมีกิจกรรมช่วยส่งเสริมความสามารถของผู้ประกอบการ รวมทั้งคัดสรรวิทยากร หัวข้อบรรยาย การศึกษาดูงานที่เป็นประโยชน์และทันต่อสถานการณ์ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ

นายสุวรรณ เหรียญเสาวภาคย์ รองผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ เปิดเผยว่า สถาบันฯ ให้ความสำคัญเรื่องระบบการบริหารจัดการทั้งในส่วนของกระบวนการผลิต บุคลากร แผนกลยุทธ์ รวมถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่

ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน มีเป้าหมายคือต้องการยกระดับภาคอุตสาหกรรมและบริการ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมทั้ง 3 กลุ่มนี้ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นกำลังหลักสำคัญของประเทศและมีการแข่งขันที่สูง

ดังนั้นโครงการนี้จะเป็นการแนะนำแนวทางต่อผู้ประกอบการทั้ง 3 ภาคอุตสาหกรรมถึงแนวทางในการพัฒนาและปรับปรุงองค์กรแบบบูรณาการ ผ่านผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ (Implementer) ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อแนะนำต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะสามารถนำไปดำเนินการได้จริงและเกิดประโยชน์ต่อผู้ประกอบการทั้ง 3 กลุ่มอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

ด้านนายชนาธิป สุรชัยสิทธิกุล นายกสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ มุ่งหวังผลักดันสร้างกลุ่มคลัสเตอร์ในอุตสาหกรรม S-Curve จึงได้พัฒนาสมาชิกซึ่งเป็นโรงงานผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรม โดยการมุ่งเน้นสร้างกิจกรรม

อาทิ การฝึกอบรมสัมมนา ให้คำปรึกษาแนะนำในเชิงลึก การสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงอุตสาหกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจ รวมทั้งการหาตลาดโดยการพาสมาชิกไปศึกษาดูงานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่ออัพเดทเทคโนโลยีอยู่เสมอ

จึงมั่นใจว่าโครงการนี้จะช่วยจุดประกายและผลักดันผู้ประกอบให้ต่อยอดพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมอนาคตใหม่ๆ ได้โดยมีผู้เชี่ยวชาญ ผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์ มาช่วยวิเคราะห์ เพิ่มจุดแข็งลดจุดอ่อนให้กับธุรกิจในด้านต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

โครงการ K SME Good to Great จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในครั้งแรกจัดให้แก่กลุ่มธุรกิจผลิตอาหาร ครั้งต่อมาสำหรับธุรกิจค้าปลีกซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดกับ 3 ธุรกิจได้แก่ ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ฮาร์ดแวร์ และพลาสติกอุตสาหกรรม ถือเป็นกลุ่มธุรกิจสุดท้ายของโครงการฯ ในปีนี้ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ – 23 ส.ค. 61

Related Posts