หลังจาก GSMA สมาคมผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมที่มีสมาชิกมากกว่า 800 รายทั่วโลก ประกาศรับรองให้เอไอเอส เป็นผู้ให้บริการ ที่มีทั้งโครงข่าย eMTC และ NB-IoT ครอบคลุมทั่วประเทศ เป็นรายแรกและรายเดียวในไทย
รวมไปถึงยังได้รับการยอมรับจาก ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก ที่ประกาศให้เอไอเอส เป็น Thailand IoT Solutions Provider of the Year 2018 หรือองค์กรที่มีความเป็นเลิศทางด้านบริการ IoT ทำให้หลายคนเริ่มสงสัยว่าโครงข่าย eMTC และ NB-IoT ที่กำลังพูดถึงนั้นคืออะไร และมีประโยชน์ต่อ IoT อย่างไร
eMTC หรือ enhanced Machine-Type Communication นั้นมีจุดเด่นอยู่ที่มีความสามารถรับ/ส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ที่มีการเคลื่อนที่ได้ เช่น Connected Car, Tracking ได้ สามารถรับ/ส่ง ข้อความเสียง สำหรับอุปกรณ์ IoT รูปแบบใหม่ๆ ในอนาคต สามารถรับ/ส่งข้อมูลขนาดใหญ่กว่าเครือข่าย Narrow Band IoT ใช้พลังงานต่ำ เมื่อเทียบกับการส่งข้อมูลด้วย 4g หรือ 3g
ส่วนเครือข่าย Narrow Band IoT ของเอไอเอสนั้น มีจุดเด่นอยู่ที่มีการใช้พลังงานไฟฟ้าต่ำ จึงช่วยทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ IoT อยู่ได้นานถึง 10 ปี สามารถรองรับปริมาณอุปกรณ์ IoT ได้สูงสุดในระดับแสนตัวต่อสถานีฐาน รัศมีครอบคลุมของเครือข่ายต่อสถานีฐาน กระจายได้มากกว่า 10 ก.ม.
รวมถึงในตัวอาคารก็ยังรับสัญญาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถพัฒนาเครือข่ายให้เปิดบริการ IoT ได้อย่างรวดเร็ว เพราะออกแบบอุปกรณ์ให้ใช้ร่วมกับโครงข่าย 4G ในปัจจุบันได้
นายเกรียงศักดิ์ วาณิชย์นที หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี เอไอเอส กล่าวว่า การมีเครือข่าย eMTC จะช่วยเพิ่มศักยภาพและความแข็งแกร่งในการให้บริการ IoT ไปอีกขั้น เนื่องด้วย eMTC สามารถใช้ควบคู่กับ Narrow Band IoT ได้ และมีคุณสมบัติมาเสริมซึ่งกันและกัน
อาทิ eMTC เหมาะกับการใช้งาน IoT แบบเคลื่อนที่ เช่น Connected Car รวมถึงสามารถรับ/ส่ง ข้อความเสียงในอุปกรณ์ IoT ยุคใหม่ๆได้อีกด้วย ในขณะที่ NB-IoT จะเน้นเรื่องการประหยัดพลังงานของอุปกรณ์และสามารถสื่อสารได้ในระยะไกล
“นับเป็นอีกก้าวแห่งความสำเร็จครั้งใหญ่ของประเทศไทยที่มีโครงข่าย IoT ทั้ง 2 ระบบ ที่พร้อมรองรับต่อการพัฒนาและการประยุกต์ใช้งานจริง นับเป็นนวัตกรรมเครือข่ายระบบสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศที่พร้อมรองรับต่อการพัฒนาประเทศในทุกๆ ด้าน
เพื่อสอดรับนโยบาย Thailand 4.0 โดยโครงข่าย IoT ถือเป็นโครงข่ายหลักที่สำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะมาสนับสนุนการบริหารจัดการของอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ”
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับเครือข่าย Narrow Band IoT นั้นได้เปิดใช้บริการเมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 ซึ่งเป็นการให้บริการเชิงพาณิชย์แบบครบวงจรแล้วกับองค์กรภาคเอกชนและภาครัฐ รวมถึงมหาวิทยาลัยและหน่วยงานวิจัยด้าน IoT แล้ว
อาทิ บริษัท ปตท., พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค, โครตรอน กรุ๊ป (Krotron), มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นต้น นอกจากนี้เอไอเอสกำลังทำงานร่วมกับภาครัฐ และ เอกชน รวมถึงสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อทยอยนำ IoT เข้าไปเริ่มใช้งานจริงอย่างต่อเนื่อง
โดยมีทีมงานที่สามารถผสมผสาน ออกแบบ พัฒนารูปแบบบริการที่ตอบโจทย์ สร้างประโยชน์ให้แก่องค์กรเพื่อให้คนไทยทุกกลุ่มได้ใช้ประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เอไอเอสเดินหน้าสนับสนุน IoT Ecosystem ทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง
โดยสร้างความพร้อมด้านเครือข่ายทั้ง eMTC และ NB-IoT ที่รองรับบริการ IoT รูปแบบใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อจุดประกายการนำเทคโนโลยี IoT เข้าถึงระดับผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น
พร้อมทั้งสามารถตอบโจทย์การสร้างสรรค์ และต่อยอดบริการในระดับอุตสาหกรรม และผลักดันประเทศไทยก้าวสู่สังคม Smart City ในยุค 5G