นิสสัน เป็นแบรนด์แรกที่นำเสนอรถยนต์ในกลุ่มอีโคคาร์เข้ามาในตลาดเมืองไทย เปิดตัวกันด้วยรุ่นมาร์ชและจากนั้นก็เริ่มนำเสนออีโคคาร์แบบซีดานในนามว่าอัลเมร่า รวมไปถึงรถอเนกประสงค์ตัวจี๊ดน้องใหม่อย่างโน๊ตรถสไตล์วัยมันที่มีรูปทรงทันสมัยและภายในกว้างมาก
ตามมาตอบสนองความต้องการแบบครบทุกความชอบ และเวลานี้ก็ถึงคราวที่จะต้องทำการแต่งหน้าทาปากและเพิ่มเทคโนโลยีกันใหม่ ให้ทันสมัยมากขึ้น จึงเป็นที่มาของคำว่าเวอร์ชัน 2018
การอัดใส่เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพิ่มเติมนี้จะเน้นในส่วนของนิสสันโน๊ตและอัลเมร่า เนื่องจากนิสสันมองว่ารถมีอายุระยะหนึ่งแล้ว ความคุ้มค่ากลายเป็นเรื่องสำคัญ การใส่ฟังก์ชันจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสม
โดยดาวเด่นในครั้งนี้เห็นจะเป็นโน๊ตที่อัดเทคโนโลยีมาให้แบบที่เรียกว่าแทบจะขนมาจากเทียน่า รถท็อปสุดราคาหลักล้านของค่ายนี้กันทุกระบบเลยทีเดียว ส่วนนิสสันมาร์ชนั้นนิสสันวางเป้าหมายให้เป็นรถที่เน้นการเป็นรถยนต์คุ้มค่าเป็นเจ้าของได้ง่าย จึงเน้นโปรโมชันมากกว่าการเพิ่มราคาแล้วเพิ่มออปชัน
รถยนต์ทั้ง 3 โมเดลนี้ นิสสันจะตอบโจทย์การใช้งานตั้งแต่กลุ่มเริ่มต้น ด้วยนิสสันมาร์ช รถที่มีราคาจับต้องและเป็นเจ้าของได้ง่าย นิสสันอัลเมร่า รถจะใหญ่ขึ้นขยับขึ้นมาอีกหน่อยนึงเหมาะกับคนมีครอบครัวมีลูกเล็กๆ ส่วนนิสสันโน๊ต จะวางตำแหน่งให้เป็นพรีเมียมสุด
โดยมีขนาดเทียบเท่าบีเซ็กเมนต์แต่ประหยัดน้ำมันและอัดเทคโนโลยีมาแบบไม่อั้น และการแนะนำเวอร์ชัน 2018 ในครั้งนี้นิสสันจัด “Let’s Move” กิจกรรมทดสอบขับโน๊ตและอัลเมร่า ณ จังหวัดตรัง เมืองเล็กๆ ที่มีดีกว่าที่คิด คล้ายๆ รถยนต์ทั้ง 2 รุ่นนี้ที่มีดีมากกว่าที่เห็น
ในส่วนของโน๊ตนั้น Thereporter.asia ได้เคยนำมาทดสอบแล้วครั้งหนึ่ง แต่ในเวอร์ชันนั้นไม่ได้ใส่ระบบใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามา รวมไปถึงไม่ได้ขับในสนามทดสอบเหมือนกับที่มากันในทริปนี้ด้วย
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกิจกรรมทดสอบครั้งนี้เป็นการทดสอบขับทั้งแบบไดนามิก และให้สื่อมวลชนได้สัมผัสเทคโนโลยีอัจฉริยะและระบบความปลอดภัย
ภายใต้แนวคิดของนิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility – NIM) อาทิ Intelligent Around View Monitor (i-AVM) กล้องรอบคัน Moving Object Detection (MOD) กระจกมองหลังแสดงผล Rear-View Mirror Monitoring และระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง (Lane Departure Warning – LDW)
และระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน (Forward Emergency Braking – FEB) ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ มีความเหมาะอย่างยิ่งในการใช้ขับขี่บนถนนที่เล็กและที่จอดรถที่ค่อนข้างจำกัดของจังหวัดตรัง
โดยระบบที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะถูกใส่มาใน โน๊ต ซึ่งความเร้าใจของการทดสอบครั้งนี้ไม่ใช่แค่การได้ใช้ระบบต่างๆ ข้างต้นเท่านั้น แต่ยังได้ขับแบบสลาลอมเพื่อแสดงประสิทธิภาพว่า ถึงจะเป็นรถในเซ็กเมนต์นี้ก็ขับแบบโหดได้เหมือนกันนะ
ซึ่งได้จำลองสนามกีฬาจังหวัดตรังในการจัดกิจกรรม Dinamic Test ที่นอกจากจะทำให้เราได้ทดลองการจอดในพื้นที่แคบ และเบรคแบบทำได้ตามใจสั่งแล้ว ยังรู้ว่าการขับแบบสลาลอมนั้น โน๊ต ก็ “เอาอยูู่” ได้แบบไม่มีอาการวูบวาบให้เสียวแต่อย่างใด
นับเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าตัวเล็กในเรื่องของสมรรถนะได้ดีมากทีเดียว แถมยังมีรุ่นที่ตกแต่งด้วยสีดำส้มมาให้เด่นสะดุดตาเข้าไปอีก
“ในทริปก็จะมีผู้ทดสอบที่เป็นผู้หญิงและจะมีโอกาสที่ได้ทดลองเช่นดียวกับผู้ทดสอบที่เป็นผู้ชายทุกอย่าง แต่ด้วยการมีครูผู้สอนที่เป็นหญิงเก่ง และผู้ชายอารมณ์ดี มีการอธิบายที่เข้าใจง่าย ทำให้แม้ในบางกิจกรรมจะดูโหดๆ ไปบ้าง ก็จะมีรอยยิ้มหลังจากได้ทดลองขับกันทุกคน เพราะในบางเรื่องที่เราคิดว่าทำไม่ได้ ก็กลับทำได้แบบที่ทุกคนต้องร้องว๊าว”
เราได้ขับโน๊ตแค่ในสนามทดสอบเท่านั้น เพราะทริปนี้ Thereporter.asia ได้อัลเมร่าเวอร์ชัน 2018 ที่แม้จะไม่ได้ใส่ระบบไฮเทคอัดแน่นมาแบบโน๊ต แต่ก็มีระบบความบันเทิงที่นิสสันเรียกว่าฟังก์ชันเครื่องเสียงแบบใหม่ล่าสุด ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เหมาะสมกับเมืองเล็กๆ อย่างตรังที่ถนนหนทางไม่ได้กว้างใหญ่นัก และมีรถจอแจตลอดเวลา
ซึ่งนิสสันบอกว่า “ระบบเครื่องเสียงใหม่นี้เป็นการเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าชาวไทยเมื่อนึกถึงรถยนต์ซีตีคาร์ ก็จะนึกถึงนิสสันเป็นอันดับแรกๆ” ซึ่งเราก็เห็นด้วยค่อนข้างมากทีเดียว เพราะเหมาะกับการลัดเลาะพาเราไปหาอาหารอร่อยๆ กินได้ทุกหนทุกแห่ง งานนี้บอกเลยว่าแม้รถจะมีพื้นที่กว้างมาก แต่ตัวเราก็แน่นมากเพราะอาหารแสนอร่อยสาระพัดชนิดที่กินเข้าไป
ระบบเครื่องเสียงแบบใหม่นี้มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วรองรับการเชื่อมต่อได้ทั้งระบบ iOS ด้วยแอปเปิลคาร์เพลย์ และ Android ทั้งยังมีการเชื่อมต่อแบบแฮนด์ฟรีที่เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้น ควบคุมการโทรออก รับส่งข้อความ เล่นเพลง วีดีโอ และมาพร้อมแอปพลิเคชันระบบนำทางอีกด้วย
เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างระบบเครื่องเสียงกับสมาร์ทโฟน เพื่อโทรออก เล่นเพลงโปรด และรับความช่วยเหลือในการนำทางได้ และทริปนี้ทุกคนต่างก็ชินกับการใช้งานสมาร์ทโฟนกันอยู่แล้ว ดังนั้นแค่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับรถ แค่นี้เราก็จะไปตะลอนหาอาหารอร่อยได้ทั่วทุกที่ในจังหวัดตรังกันได้สบายๆ
แอปเปิลคาร์เพลยที่ใส่มาให้นี้จะมีระบบเนวิเกชันแถมให้ลูกค้าเป็นแอคเคาท์ตลอดชีพ และสามารถลิงค์กับแอนดรอยด์ จึงไม่ต้องกังวลว่าใครไม่ได้เป็นสาวกแอปเปิลจะใช้ไม่ได้ เพราะนิสสันใช้เทคโนโลยีของการเชื่อมต่อภายใต้ Intelligent Integration
เพื่อให้คนและรถอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน หนึ่งในสามแนวคิดหลักภายใต้ นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี ซึ่งประกอบไปด้วย เทคโนโลยีความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่เหนือชั้น (Intelligent Driving) และเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนที่ให้สมรรถนะเป็นเยี่ยม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Intelligent Power)
“หน้าจอที่สัมผัสได้ง่าย การเข้าใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ไม่ยากเลย โดยเฉพาะในส่วนแผนที่ซึ่งต้องบอกว่าทำให้เราวางแผนในการเดินทางเพื่อไปหาที่ “กิน” กันได้แบบสบายๆ ซึ่งในกิจกรรมนี้จะมีผู้ทดสอบ 2 คน น้องนักศึกษาผู้ทำหน้าที่เป็นไกด์ท้องถิ่น 1 คน และช่างภาพอีก 1 คน
ซึ่งรายหลังนี้ได้ขนอุปกรณ์การถ่ายภาพไปเยอะมาก เยอะจนเราคิดว่าจะไปถ่ายทำสารคดีแบบสามารถถ่ายทอดสดไปทั่วโลกได้เลยทีเดียว แต่ทั้งคนและสัมภาระต่างๆ ก็ไมได้ทำให้การโดยสารภายในเป็นเรื่องอึดอัดแต่อย่างใด แถมยังเหลือพื้นที่ให้เรากินและแลกเปลี่ยนอาหารกันได้แบบสบายท้องกันอีกด้วย”
การเดินทางในเมืองปัจจุบัน รถยนต์ขนาดเล็กที่มีกำลังเครื่องยนต์เพียงพอ แถมด้วยเทคโนโลยีที่อัดแน่นทั้งความไฮเทคและความปลอดภัย น่าจะตอบโจทย์ได้ดีกว่ารถยนต์ขนาดที่ใหญ่ที่มีพละกำลังมาก แต่กลับไม่มีเทคโนโลยีใดๆ เข้ามาช่วยได้เลย ยิ่งรถติดการจราจรหนาแน่น
การมีเทคโนโลยีที่สร้างความบันเทิง ลดความเครียด ก็น่าจะตอบโจทย์ได้ดีกว่า ซึ่งการทดสอบรถในเซกเมนต์อีโคคาร์ของนิสสันในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการช่วยหาคำตอบให้กับคนที่กำลังลังเลการเลือกซื้อรถยนต์ในระดับนี้อยู่ ได้ค้นหาตัวเองเพิ่มมากขึ้นแล้ว ก็อาจจะทำให้หลายคนหันมามองรถยนต์ขนาดเล็กแต่มีพื้นที่ภายในเกินตัวกันเพิ่มขึ้นบ้าง
เพราะแม้อัลเมร่าและโน๊ตแม้จะเป็นรถยนต์ขนาดเล็ก แต่ก็มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางเพียงพอ และกว้างกว่ารถยนต์ในเซกเมนต์ที่ใหญ่กว่านี้เสียด้วยซ้ำ แถมยังให้เทคโนโลยีไฮเทคและความปลอดภัยที่มากกว่า เมื่อเทียบกับรถในคลาสที่สูงกว่า ยังไม่นับรวมพละกำลังที่พอเหมาะพอควรกับการใช้งานและความประหยัด แบบที่เรียกว่าเงินที่มีอยู่ในมือจะคุ้มค่ามากกว่าแน่นอน