เดินเล่นในงาน Big Bang 2018 ดูว่าใครมีอะไรมาโชว์

เดินเล่นในงาน Big Bang 2018 ดูว่าใครมีอะไรมาโชว์

เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับงานในงาน Digital Thailand Big Bang 2018 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 –23 กันยายน 2561 ที่อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี งานนี้มีอะไรมาโชว์กันบ้าง

ซึ่ง Thereporter.asia ได้เก็บบูธที่น่าสนใจพร้อมภาพสวยๆ มาไว้ให้ดูกัน บอกเลยว่างานนี้นักเรียนนักศึกษาและเด็กๆ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจได้ดีทีเดียว แถมยังมีมุมน่ารักๆ ให้ได้ถ่ายรูปกันอีกเพียบ

Big Bang 2018

เริ่มต้นที่บูธ CAT โดดเด่นมากสำหรับบูธนี้เพราะมีแม่เหล็กเป็นรถสปอร์ตรุ่นล่าสุดของบีเอ็มดับเบิลยู กับ i8 โรสเตอร์ ที่งานนี้ไม่ได้มาโชว์สมรรถนะ แต่มาแสดงถึงความคืบหน้าของโครงข่ายลอร่าสุดล้ำ ที่จะทำให้บรรดาผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถหาที่ชาร์จไฟได้อย่างง่ายดาย

นอกจากนี้ CAT ยังได้จัดเต็ม IoT แบบใช้งานได้จริงในรูปแบบต่างๆ โดยภายในงานจะแบ่งเป็น 3 โซน ประกอบด้วย 1. โซน Big Data ซึ่งจะนำเสนอสื่อมัลติมีเดียในรูปแบบ วิดีโอและอินโฟกราฟิก แสดงการใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลและการใช้ประโยชน์ Big Data ที่กำลังจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทย

  1. โซน Digital Service เน้นความโดดเด่นของบริการ Security Service ที่มาพร้อมระบบ Video Analytics เทคโนโลยีวิเคราะห์ภาพและวิดีโอจากกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ

สามารถวิเคราะห์ข้อมูลภาพจากกล้อง CCTVจำนวนมากอย่างมีประสิทธิภาพโดยเก็บข้อมูลภาพใบหน้าของผู้เข้าร่วมงานเพื่อนำภาพมาวิเคราะห์ข้อมูลตามฟังก์ชันที่กำหนดได้

3. โซน Digital Park Thailand นำเสนอความลงตัวของพื้นที่โครงการ Digital Park Thailand เพื่อเป็นศูนย์กลางการลงทุนดิจิทัลขนาดใหญ่ในอนาคต

ถัดมาที่ทีโอที งานนี้นำโครงข่ายพื้นฐานโทรคมล้ำสมัยรองรับ BIG DATA-IoT ภายใต้แนวคิด “โครงข่ายมีชีวิต โครงข่าย ทีโอที” ด้วยโครงข่าย FIBER OPTIC – MOBILE – SUBMARINE CABLE ของ ทีโอที ซึ่งเชื่อมโยงทั่วประเทศและภูมิภาคทั่วโลก

รองรับ BIG Data ของประเทศด้วยข้อมูลที่ยิ่งใหญ่มหาศาลที่จะต่อยอดพัฒนาประเทศทั้งในภาคสังคมและภาคธุรกิจการค้า สร้างโอกาสต่าง ๆ ให้กับคนทั้งประเทศเพื่อผลักดันประเทศไปสู่ประเทศไทย 4.0

ภายในบูธ ของ ทีโอที ในงาน Digital Thailand Big Bang 2018 ได้แบ่งพื้นที่การจัดแสดง ออกเป็น 2 ส่วนที่สำคัญคือ ส่วนที่ 1 โครงข่ายมีชีวิต โครงข่าย ทีโอที : TOT Lively Network เป็นการเชื่อมโยงในการให้บริการโทรคมนาคมผ่านโครงข่ายคุณภาพของ ทีโอที

ที่นำไปสู่การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจและสังคมผ่านการนำเสนอนิทรรศการในมุมมอง 5 ด้าน ดังนี้ การสร้างรายได้เพิ่ม (Lively Community) สาธารณสุข (Lively-Health) คุณภาพชีวิตที่ปลอดภัย (Lively-Security) ความบันเทิง(Lively life) และการศึกษา (Lively Learning)

ส่วนที่ 2. Hall of Fame เป็นการนำเสนอรางวัลที่ ทีโอที ได้รับจากการดำเนินงานในการให้บริการโครงข่ายในด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย รางวัลนวัตกรรมดีเด่นประจำปี 2561 ใบรับรองมาตรฐาน MEF2.0 Service Certification และ รางวัลBest Community Telecom Project จากโครงการเน็ตประชารัฐ เป็นต้น

Big Bang 2018

เดินต่อมากันที่บูธ AIS เบอร์ 1 โทรคมนาคมไทย งานนี้มาภายใต้แนวคิด “Thailand Big Data : โลกเปิดเราปรับ ประเทศเปลี่ยน” จัดบูธแสดงเทคโนโลยีดิจิทัลอนาคต

โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยในทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน ชูไฮไลท์ อาทิ Next G ,NB-IOT ,eMTC ,BIG Data ,Robot ,Google Assistant และ Digital For Thais

และพลาดไม่ได้เลยกับ “Alex Robot” นวัตกรรมหุ่นยนต์อัจฉริยะโดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถโต้ตอบและสนทนากับลูกค้า พร้อมให้ข้อมูลสินค้าและบริการได้

งานนี้ได้เจอตัวเป็นๆ เช่นเดียวกับ AIS The StartUp ซึ่งเอไอเอสให้การสนับสนุนมาโดยตลอด นอกจากนี้ยังมี Google Assistant ผู้ช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นแค่ใช้เสียง โดยร่วมพัฒนาเทคโนโลยีกับกูเกิ้ลเพื่อให้ลูกค้าสามารถพูดคุยกับ “น้องอุ่นใจ” เสมือนเป็นผู้ช่วยส่วนตัวในการพาลูกค้าเข้าถึงบริการต่างๆ ของเอไอเอส สาวกสีเขียวอย่าพลาด

Big Bang 2018

ด้านกลุ่มทรูมาภายใต้แนวคิด Space of Life, DigiLife Society นำเสนอนวัตกรรมล้ำสมัยที่จะยกระดับการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล ถ่ายทอดทุกมิติบริการของทรู เพื่อตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ร่วมสัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตดิจิทัลแบบสุดๆ ในทุกด้านผ่านการจำลองพื้นที่แบ่งเป็น 3 โซน

ได้แก่ LIVE : การนำดิจิทัลมาใช้ในชีวิตประจำวันที่เชื่อมต่อทุกด้านผ่านมือถือ จะจ่าย ช้อป ก็ได้พ้อยท์แลกสิทธิประโยชน์ทุกวัน, LEARN & WORK : เรียนรู้ ทำงาน และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ผ่านโปรแกรมและพื้นที่การเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็น ทรู ดิจิทัล พาร์ค, ทรู อินคิวบ์ และ ทรู แล็บ

พร้อมพื้นที่เพื่อการสร้างสรรค์นวัตกรรม อาทิ หุ่นยนต์, อุปกรณ์ IoT และ โซลูชัน IoT เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม และ PLAY : เต็มความสนุก และความบันเทิง ผ่านแอปพลิเคชัน และคอนเทนต์ต่างๆ

ตอกย้ำความพร้อมของกลุ่มทรู ที่จะเติมเต็มชีวิตดิจิทัลของคนไทยให้สมบูรณ์แบบได้แล้ววันนี้ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่รองรับเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Infrastructure) ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเครือข่าย 4G+, ไฟเบอร์บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต 1 Gbps และ NB-IoT ที่ครอบคลุมและใช้งานได้จริงทั่วไทย

ผสานการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้บริการ (Data Analytic) ที่จะเพิ่มศักยภาพการให้บริการและสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้าและบริการต่างๆ ให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคคนไทยอย่างแท้จริง เพื่อยกระดับและเสริมการใช้ชีวิตดิจิทัลไลฟ์สไตล์ให้เป็นจริงได้

Big Bang 2018

ด้านดีแทคงานนี้มาพร้อมกับการจัดบูธที่เรียกได้ว่า สวยและเก๋ที่สุด เพราะจัดได้สะดุดตาและแตกต่างจากคู่แข่งในธุรกิจรายอื่นๆ อย่างมาก

ฉีกแนวมาเป็นดิจิทัลคาเฟ่ คาเฟ่ ที่น่าเข้าไปสัมผัสมาก ซึ่งภายในคาเฟ่แห่งนี้จะแบ่งเป็น 7 โซนเทคโนโลยี ประกอบด้วย 1. บิ๊กดาต้า พบกับพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย อาวุธสำคัญแห่งยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ

  1. เทคโนโลยี ดีแทคนำเสนอสุดยอดเทคโนโลยีแห่งการสื่อสารด้วยคลื่น 2300 MHz ที่มากับ 4G TDD ด้วยรูปแบบ VR พร้อมนำเสนอ 5G พร้อมทั้ง GNSS RTK การยกระดับอินเทอร์เน็ตบอกพิกัดด้วยความแม่นยำ

3. การเปลี่ยนแปลง ปฏิรูปเทคโนโลยีด้วย IoTs ผสานนวัตกรรมใหม่กับสิ่งที่ไม่คาดคิด และการนำ IoT มาพัฒนาในการทำเกษตรกรรมอย่างแม่นยำ เพื่อให้การทำเกษตรกรรมได้ผลผลิตอย่างสมบูรณ์

  1. ดีแทค แอคเซอเลอเรท ไฮไลท์กับโครงการบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพและนำเสนอข้อมูลสร้างแรงบันดาลใจกับครอบครัวสตาร์ทอัพ

  2. ยกระดับคุณภาพสังคม พบกับหลากหลายโครงการ อาทิ โครงการพลิกไทย, โครงการโปลิศน้อย หุ่นยนต์ที่ปรึกษาเพื่อคุณผู้หญิง, โครงการ Safe Internet ส่งเสริมเด็กไทยใช้งานเน็ตให้ปลอดภัย และดีแทค เน็ตอาสา เป็นต้น

6. ไฮไลท์ประสบการณ์ด้วยแนวคิดเสิร์ฟความสุขด้วยเทคนิคการ Mapping นำเสนอเรื่องราวดิจิทัลง่าย กับแนวคิด “Serving The Best For Customers, The Tasty Flavor” และ 7. ดิจิทัลคาเฟ่ คาเฟ่ โซนพักผ่อนรับกาแฟ และร่วมสนุกกับการลุ้นของที่ระลึก

Big Bang 2018

ด้าน ไปรษณีย์ไทย มาภายใต้แนวคิด “พลังไปรษณีย์ไทย พลังขับเคลื่อนประเทศไทย” พบการจัดแสดงนวัตกรรมและบริการไปรษณีย์จำนวนมาก อาทิ นวัตกรรม “เครื่องบริการไปรษณีย์อัตโนมัติ” (APM) นำเสนอความสะดวกสบายในการฝากส่งสิ่งของทางไปรษณีย์

ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการด้วยตัวเองได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว มุมบริการ “พร้อมโพสต์” ผู้ช่วยจัดการฝากส่งสิ่งของล่วงหน้าทางไปรษณีย์ให้แก่ลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่ม e-Commerce และ SMEs มุมสนับสนุนดิจิทัลชุมชนด้าน e-Commerce เพื่อสร้างโอกาสและสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการท้องถิ่นตามนโยบายของรัฐบาล ผ่านเว็บไซต์ www.thailandpostmart.com

นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการแสตมป์ นำเสนอแสตมป์ที่เกี่ยวข้องกับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร พร้อมจำหน่ายแสตมป์ สิ่งสะสมและสินค้าไปรษณีย์ ตลอดจนบริการถ่ายภาพ iPhoto ดีไซน์พิเศษ ฟรี! แก่ผู้เข้าชม โดยจะเปลี่ยนพื้นหลังของภาพทุกวันตลอดการจัดงาน ใครอยากรู้ว่าไปรณีย์ไทยล้ำแค่ไหนต้องแวะมา

ส่วน ไทยคม งานนี้นำแพลตฟอร์มด้านดาวเทียมหลากหลายรูปแบบเข้าร่วมแสดง อาทิ บริการสื่อสารทางทะเลใหม่ล่าสุด “นาวา (Nava)” ซึ่งได้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อต้นปี 2561 โดย Nava เป็นแพลตฟอร์มบริการที่จะช่วยเชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างเรือที่ออกไปปฏิบัติการให้สามารถติดต่อกับชายฝั่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รวมถึง แพลตฟอร์มดาวเทียมที่มุ่งส่งเสริมการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อยกระดับการเรียนรู้สู่โลกดิจิทัล พร้อมเปิดประสบการณ์สุดพิเศษกับโชว์เคส การประกอบ Cubesat ดาวเทียมขนาดเล็ก เพื่อมุ่งส่งเสริมแรงบันดาลใจด้านอวกาศ สร้างสรรค์นวัตกรรมการสื่อสาร เชื่อมต่ออนาคตสู่โลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ ไทยคม ยังได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) นำเสนอวิวัฒนาการความรู้และเทคโนโลยีอวกาศ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตลอดจนแนวโน้มการพัฒนาในอนาคต ในโซนจัดแสดงนิทรรศการนานาชาติด้านกิจการอวกาศ “Space Exhibition” อีกด้วย

Big Bang 2018

ปิดท้ายกับบูธที่น่าสนใจกับน้องใหม่อย่าง “เก็ท” แอปพลิเคชันแบบออนดีมานด์ที่ให้บริการเรียกรถมอเตอร์ไซค์วินและส่งของ รวมถึงบริการหลากหลายในอนาคต ซึ่งในงานนี้เราจะได้รู้จักกับแบรนด์ “เก็ท” รวมถึงนำเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกจากโกเจ็กเข้ามาจัดแสดงให้ผู้เข้าชมงานหลายพันคนได้ร่วมกิจกรรม

และ “เก็ท” ยังได้เปิดลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อรับสมัครเทสเตอร์ที่สนใจทดลองใช้แอปเวอร์ชันเบต้าของ “เก็ท” ที่บูธอีกด้วย โดยแอปเวอร์ชันเบต้านี้เป็นเวอร์ชันก่อนที่จะมีการปล่อยแอปจริง

โดยผู้ที่ลงทะเบียนล่วงหน้าจะมีโอกาสได้ทดลองใช้งานแอปพลิเคชันก่อนใครในกรุงเทพฯ และเพื่อช่วยให้ฟีดแบ็คกับเก็ทเพื่อให้สามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้ตอบโจทย์คนไทยต่อไป

นอกเหนือจากที่ Thereporter.asia ได้นำเสนอแล้ว ก็ยังมีบูธอื่นๆ อีกหลายบูธที่น่าสนใจและไม่น่าพลาด

Related Posts