ไปรษณีย์ไทยจับมือตลาดต่อยอดตั้ง “ศูนย์บริการรับส่งสินค้าครบวงจร” จุดรับส่งและกระจายสินค้าในพื้นที่โครงการตลาดต่อยอด รวม 3 แห่ง ประกอบด้วย เคาน์เตอร์บริการไปรษณีย์ 1 แห่ง และจุดพักเพื่อรวบรวมและเตรียมขนส่งสิ่งของเข้าสู่เส้นทางไปรษณีย์ จำนวน 2 แห่ง หวังส่งเสริมและผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยกว่า 2 แสนราย ได้พัฒนาการค้าและส่งออกระดับโลก เพื่อก้าวสู่การเป็นฮับธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจรของอาเซียน
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และ บริษัท ตลาดต่อยอด เออีซี จำกัด ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในการเปิดศูนย์บริการรับส่งสินค้าภายใน “โครงการตลาดต่อยอด เออีซี เทรด เซนเตอร์” (Tarad Tor Yod AEC Trade Center) ถือเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนและส่งเสริมให้โครงการตลาดต่อยอด เพื่อให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการส่งออกของภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง
โดยไปรษณีย์ไทยจะเปิดจุดรับ-ส่งและกระจายสินค้าในพื้นที่ตลาดต่อยอดทั้งหมด 3 แห่ง คือ เคาน์เตอร์บริการไปรษณีย์ 1 แห่ง และจุดพักเพื่อรวบรวมและเตรียมขนส่งสิ่งของเข้าสู่เส้นทางไปรษณีย์ จำนวน 2 แห่ง
นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทย ยังได้ร่วมพัฒนาระบบต่างๆ รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่และวิทยากรมาบรรยายให้ความรู้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ซื้อและผู้ขายภายในโครงการฯ ภายใต้มาตรฐานระดับสากล ซึ่งไปรษณีย์ไทยมีช่องทางและเครือข่ายครอบคลุมทั่วโลก
“นโยบายหลักของไปรษณีย์ไทยคือการพัฒนาบริการไปรษณีย์เพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ยกระดับระบบปฏิบัติการให้มีความทันสมัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการ ตลอดจนมุ่งเน้นพัฒนากระบวนการทำงานด้านต่างๆ ในการรองรับการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
เพื่อตอกย้ำศักยภาพในการเป็นผู้นำในธุรกิจไปรษณีย์และโลจิสติกส์ครบวงจรของอาเซียน พร้อมการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อพัฒนาบริการต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้บริการที่สะดวกและไม่ซับซ้อน”
ด้าน นายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น ผู้ดำเนินงานและบริหารโครงการตลาดต่อยอด กล่าวว่า ศูนย์ให้บริการของไปรษณีย์ไทยภายในโครงการตลาดต่อยอด มีมาตรฐานระดับสากลและเส้นทางรับส่งสินค้าครอบคลุมทั่วโลก
สามารถช่วยอำนวยความสะดวกกับผู้ประกอบการภายในตลาดต่อยอดและกลุ่มนักธุรกิจต่างชาติให้เข้ามาแลกเปลี่ยนซื้อขายภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น รวมถึงความร่วมมือด้านการประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ และให้คำปรึกษาอันเป็นประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนจัดหาสิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่ผู้ประกอบการไทย มุ่งเน้นสร้างการเติบโตทางธุรกิจ ขยายการลงทุน
“กลุ่มประเทศอาเซียนที่มีประชากรราว 640 ล้านคน ซึ่งประเทศไทยอยู่ในตำแหน่งที่เป็น Strategic Location มีศักยภาพเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งสามารถกระจายสินค้าได้ทั่วภูมิภาคอาเซียน นับเป็นโอกาสอันดีในการช่วยส่งเสริม ให้เกิดการลงทุนของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทยที่มีกว่า 200,000 รายในปัจจุบัน”