BMW X4 รถพ่อบ้านยุคดิจิทัลที่ลุยมากกว่าบนทางเรียบ

BMW X4 รถพ่อบ้านยุคดิจิทัลที่ลุยมากกว่าบนทางเรียบ

การนำเสนอบีเอ็มดับเบิลยู X4 รุ่นเดิม อาจจะดูไม่ค่อยมีภาพลักษณ์ที่ชัดเจนมากนัก เมื่อเทียบกับรถในเซ็กเมนต์อื่นๆ ที่บีเอ็มมีอยู่ และทำให้กลุ่มเป้าหมายอาจจะลังเลที่จะเลือกใช้ แต่สำหรับ X4 ตัวใหม่นี้ บีเอ็มตั้งใจให้ Sports Activity Coupe รุ่นนี้มีความทันสมัยไฮเทคและมีภาพลักษณ์ที่ชัดเจนมากขึ้น

เปรียบเป็นพ่อบ้านก็จะเป็นพ่อบ้านที่ออกแนววัยรุ่นหน่อย ชอบความทันสมัยแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร ประมาณว่าถ้าไม่มีลูกเมียนั่งมาด้วยก็หนุ่มโสดดีๆ นี่เอง แต่ถ้าเป็นวัยรุ่นหนุ่มสาวก็จะเป็นกลุ่มที่เบื่อรถยนต์ซีดาน อยากลุยได้แบบเบาๆ พาไปเที่ยวได้ไกลกว่าเดิม มากกว่าที่รถซีดานทั่วไปจะให้ได้

เพื่อให้ภาพชัดเจนขึ้น บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จึงได้เชิญชวนสื่อมวลชนซึ่งรวมถึง Thereporter.asia ได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่หลากสไตล์ และที่มากกว่าความธรรมดาคือการเข้าไปทดสอบในสนามแข่งรถแก่งกระจาน เซอร์กิต ที่ต้องบอกเลยว่าหลังจากได้ทดสอบกันแล้วก็รู้เลยว่า รถ SAC หรือเอสยูวีคูเป้คันนี้ มีดีกว่าที่คิด

X4

และงานนี้ยังได้สัมผัสกับรถยนต์ในตระกูลมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ทั้งมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์, มินิ จอห์นคูเปอร์ เวิร์คส์ คลับแมน, มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน และมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล

การทดสอบบีเอ็มดับเบิลยู X4 ในสนามแข่งรถแก่งกระจาน เซอร์กิต ครั้งนี้ ไม่ได้เน้นความเร็วและความปราดเปรียวของตัวรถบนทางเรียบเท่านั้น เพราะด้วยการเซ็ตพวงมาลัยใหม่ให้มีความกระชับมากขึ้นเป็นพวงมาลัยไฟฟ้าอัจฉริยะแบบสปอร์ต งานนี้เราจึงได้ได้ทดลองขับสลาลมบนทางกรวด การกลับรถอย่างรวดเร็วและการหักหลบกระทันหัน

เพื่อให้เรียนรู้สมรรถนะของรถคันนี้ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น และการขับในแทรคที่กำหนดนี้ก็จะมีการแข่งขันกันด้านเวลา ซึ่งต้องบอกเลยว่างานนี้เค้นสมรรถนะกันแบบเต็มๆ

“การขับแบบสลาลมที่ค่อนข้างแคบ ด้วยการเซ็ตพวงมาลัยใหม่ให้มีการหมุนที่น้อยลง ทำให้มีความกระชับสามารถหักเลี้ยวได้อย่างง่ายดายมากขึ้น รักษาอาการในการหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ดีขึ้น ให้ความรู้สึกสนุกได้มากกว่าเดิม จนไม่รู้สึกว่ากำลังขับรถยกสูงอยู่ เหมือนกับขับซีดานทั่วไปที่มีช่วงล่างเฟิร์มมากกว่า

และในส่วนของการขับออฟโรดแบบเบาๆ ซึ่งทางทีมงานได้จัดเส้นทางแบบออกนอกลู่นอกทางให้นั้น ก็ทำให้เรารู้ถึงสมรรถนะของรถขับเคลื่อน 4 ล้อคันนี้ดีขึ้น สามารถพาเราลุยไปในพื้นที่ๆ รถซีดานไปไม่ได้ และทำให้เราสามารถไปได้ไกลกว่ารถเอสยูวีที่ขับเคลื่อน 2 ล้อ”

X4

ส่วนบนทางเรียบนั้นก็ให้ความมั่นใจทั้งในความเร็วต่ำและความเร็วสูงตามชื่อชั้นของบีเอ็มดับเบิลยู การเดินทางมีความสะดวกสบายและช่วงล่างหนึบนุ่มไม่กระเด้งกระดอน (เว้นแต่จะเปิดโหมดสปอร์ต) นอกจากนี้ด้วยระบบควบคุมการขับขี่ขณะเข้าโค้ง (Performance Control) ระบบ Driving Assistant และช่วงล่างแบบ M Sport ช่วยให้ทุกการเดินทางมีความมั่นใจมากขึ้น

ซึ่งหลังจากทดสอบเสร็จแล้วก็เข้าใจแล้วว่าบางครั้งเราไม่จำเป็นต้องมีรถยนต์หลายคันเพื่อการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันก็ได้ ประมาณว่าซื้อคันนี้คันเดียวครบ จบในที่เดียวทั้งไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือจะขับหล่อๆ ในเมือง

ไม่ใช่ทางด้านสมรรถนะการขับขี่ที่มาแบบครบๆ เท่านั้นสำหรับ X4 คันนี้ เพราะในส่วนของลูกเล่นก็เรียกได้ว่าอัดเทคโนโลยีไฮเทคมาให้แบบเกินหน้าเกินตารถในค่ายรุ่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยเบรกอัตโนมัติที่สามารถตรวจจับรถและคนเดินถนนด้วยความเร็วต่ำ (Person Warning with City Braking Function)

ระบบเตือนเพื่อป้องกันการชนด้านหลัง (Rear-collision prevention) ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร (Lane Departure Warning) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา (Blind spot detection) ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง (Crossing-traffic warning rear) และระบบเตือนป้ายจราจร (Speed limit info and no-overtaking indicator)

รวมถึงระบบ BMW Connected Drive ผ่านแพลตฟอร์ม Open Mobility Cloud ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ดิจิตอลเข้ากับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูได้แบบไร้สาย ไม่ว่าจะด้วย iPhone หรือ Apple Watch และระบบการสั่งการด้วยเสียงและ BMW Gesture Control

ซึ่งการทดลองระบบเหล่านี้แล้วต้องบอกเลยว่า ช่วยอำนวยความสะดวกได้มาก เพราะบางครั้งเมื่อเราระวังแล้วแต่ก็จะมีบางสิ่งที่นอกเหนือความคาดหมายก็ช่วยผ่อนจากหนักเป็นเบาได้ไม่ยากเลย

X4

นอกจากความล้ำสมัยที่ให้มาแล้วรูปโฉมภายนอกของบีเอ็มดับเบิลยู X4 ใหม่ ยังมีความสวยและโฉบเฉี่ยวกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด มีความสปอร์ตที่เด่นชัดมากขึ้น แม้จะมีมิติรถยนต์มีขนาดยาวขึ้น 81 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 37 มิลลิเมตร และฐานล้อกว้างขึ้น 54 มิลลิเมตร แต่ก็ไม่ได้ทำให้ดูเทอะทะเลย กลับดูว่ามีขนาดตัวที่กำลังดีมากกว่า

และที่ชอบอีกอย่างหนึ่งคือหลังคากระจกแบบพาโนรามายังช่วยเสริมให้ภายในตัวรถโปร่งสบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระอีก 25 ลิตร เป็น 525 ลิตร และขยายได้สูงสุดถึง 1,430 ลิตร ด้วยการพับพนักพิงที่นั่งด้านหลังที่พับแยกได้สามตอนแบบ 40/20/40

เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบที่มาพร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้พละกำลังสูงสุดที่ 140 กิโลวัตต์ /190 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบต่อนาที เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 8 วินาที ความเร็วสูงสุด 213 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ และด้วยเทคโนโลยี BMW EfficientLightweight บีเอ็มดับเบิลยู X4 ใหม่ จึงมีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 50 กิโลกรัม และยังมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพียง 0.30 ซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพสูงที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ภายในเซกเมนต์เดียวกัน ส่งผลให้มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยเพียง 17.9 กม./ลิตรเท่านั้น

X4

ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบมาโดยคำนึงถึงผู้ขับเป็นหัวใจสำคัญ ทั้งเบาะที่นั่งแบบสปอร์ตและเบาะรองเข่าที่ได้รับการออกแบบใหม่ให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน M Sport เบาะหนังแท้ Vernasca แผงคอนโซลหุ้มหนัง Sensatec ตกแต่งภายในด้วย Aluminium Rhombicle พร้อมแถบโครเมียม

บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport ใหม่ พร้อมชุดแต่ง M Sport พร้อมด้วยล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้ว ลาย Double-spoke ราคาจำหน่าย 3,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)

Related Posts