นิสสัน เทียน่า ปรับโฉมใหม่อีกครั้งเน้นความไฮเทค

นิสสัน เทียน่า ปรับโฉมใหม่อีกครั้งเน้นความไฮเทค

การเปิดตัวรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ของค่ายคู่แข่ง อาจไม่สร้างความน่าตื่นเต้นเพียงพอที่จะทำให้ นิสสัน เปิดตัวโฉมใหม่แบบ All New จึงทำเพียงการแต่งหน้าทาปากและใส่เทคโนโลยีใหม่เพิ่มขึ้น พร้อมปรับหน้าตาให้ดูแตกต่างจากรุ่นปัจจุบันสักหน่อย

ภายใต้แนวคิด “Energetic Flow” หรือดีไซน์ที่ทรงพลัง สง่างาม เพราะไฮไลท์จริงๆ สำหรับปีนี้และต้นปีหน้าไม่ใช่รถยนต์นั่งขนาดกลาง แต่เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่พร้อมจะแนะนำสู่ตลาดในเร็วๆ นี้อย่างนิสสัน “ลีฟ” ต่างหาก

การปรับดีไซน์ นิสสัน เทียน่า ในครั้งนี้เน้นความสดใหม่ของด้านหน้า เริ่มจากบริเวณเสาที่เชื่อมระหว่างตัวถังส่วนหน้าและหลังคารถยนต์ หรือ เสา A (A-pillars) แผงกันชนหน้า รวมถึงไฟหน้า และสะดุดตาด้วยกระจังหน้าแบบ V-Motion และไฟหน้าทรงบูมเมอแรงที่สามารถดึงดูดสายตาได้ดีมากทีเดียว

ในส่วนของการปรับในส่วนอื่นๆ นั้นมีความแตกต่างเพียงเล็กน้อย เช่นเดียวกับภายในที่หากจะแยกความแตกต่างนั้นแทบจะมองไม่เห็น เพราะส่วนใหญ่จะเน้นใส่ความไฮเทคในระบบต่างๆ มากกว่า

นิสสัน

เริ่มตั้งแต่ความสะบายขั้นกว่ากับ ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมท (Remote Engine Start) ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถสตาร์ทรถ และเปิดเครื่องปรับอากาศก่อนเริ่มใช้งานโดยประตูรถยังล็อคอยู่ เพิ่มความสะดวกสบายและให้กับลูกค้าที่ต้องการความเย็นสบายแบบทันทีเมื่อเข้าไปนั่งในรถ ระบบ Welcome Seat

เบาะนั่งคนขับปรับถอย-เดินหน้าอัตโนมัติ 40 มิลลิเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกขณะขึ้น-ลงจากรถ และระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ Memory Seat 2 หน่วยความจำ ซึ่งเชื่อมต่อกับกุญแจอัจฉริยะ Intelligent Key แต่ละดอก ซึ่งปรับตำแหน่งเบาะนั่งและกระจกมองข้างตามความต้องการที่แตกต่างของผู้ขับขี่แต่ละคนโดยอัตโนมัติ

เทคโนโลยี กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง หรือ Intelligent Around View Monitor (IAVM)
ระบบที่จะช่วยให้ผู้ขับสามารถมองเห็นสภาพรอบตัวยานพาหนะได้ทั่วทุกทิศทาง ด้วยการสร้างภาพมุมสูงแบบ bird’s-eye view รอบตัวรถ จึงทำให้สามารถควบคุมตัวรถระหว่างถอยจอดรวมถึงเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างง่ายดายแม้ในพื้นที่แคบ

เทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน หรือ Moving Object Detection (MOD) เทคโนโลยีนี้จะตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนทุกครั้งเมื่อมีวัตถุหรือบุคคลที่เคลื่อนไหวอยู่ใกล้ตัวรถ โดยจับการเคลื่อนไหวจากภาพของกล้องที่อยู่รอบๆ ในขณะจอดรถ

นิสสัน

หรือมีการเคลื่อนตัวช้าๆ เมื่อมีสิ่งของหรือวัตถุเคลื่อนไหว ระบบจะส่งทั้งภาพและเสียงเตือนผู้ขับ ทั้งนี้กล้องทั้งสี่ตัวรอบคันรถ สามารถแจ้งเตือนผู้ขับได้ใน 3 สถานการณ์ คือ เมื่อรถจอดหรือหยุดนิ่ง เมื่อรถเคลื่อนตัวไปข้างหน้า หรือเมื่อเคลื่อนถอยหลัง

เทคโนโลยีเตือนจุดบอดหรือจุดอับสายตาอัจฉริยะ หรือ Blind Spot Warning (BSW) จะเริ่มทำงานเมื่อพบว่ามียานพาหนะอื่นเข้าใกล้ตัวรถในบริเวณจุดอับสายตา และทำการแจ้งเตือนที่กระจกมองข้างทั้งสองด้าน โดยคนขับจะได้รับทั้งเสียงเตือนและสัญญาณไฟกะพริบที่บริเวณกระจกมองข้าง

และเทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทางอัจฉริยะ หรือ Lane Departure Warning (LDW) เทคโนโลยีนี้จะแจ้งเตือนด้วยสัญญาณภาพบนหน้าปัทม์และส่งสัญญาณเสียงเมื่อรถเคลื่อนที่ออกนอกช่องทาง โดยระบบจะทำงานเมื่อมีการขับเคลื่อนด้วยความเร็วมากกว่า 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ในส่วนของเทคโนโลยีการขับขี่นั้น นิสสันได้ใส่ระบบช่วยควบคุมทิศทางขณะเลี้ยว (Active Trace Control: ATC) ช่วยให้เข้าโค้งได้เฉียบคม ป้องกันอาการหน้าดื้อโค้ง (understeer)

โดยระบบ ATC จะส่งแรงเบรคไปชะลอ 2 ล้อด้านในที่หักเลี้ยว เพื่อช่วยรักษาทิศทางของตัวรถให้เคลื่อนไปในทิศทางที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamics Control: VDC)

 

นิสสัน

ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System: TCS) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist: HSA) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบเสริมแรงเบรก (BA) กุญแจอัฉริยะ Immobilizer Intelligent Key

และระบบถุงลม 6 จุด ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (SRS Airbags) ถุงลมด้านข้าง (Side Airbags) และม่านถุงลมด้านข้าง (Curtain Airbags) ระบบกุญแจอัจฉริยะพร้อมระบบ Immobilizer ระบบกันขโมย และกล้องมองหลัง

นายอันตวน บาร์เตส ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า นิสสันยังคงมุ่งเน้นไปที่ฟีเจอร์ความปลอดภัย และเทคโนโลยี อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ อันถือเป็นแนวทางหลักของเราในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่จะทำให้ เทียน่า ใหม่ สามารถตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าของเราได้ดีที่สุด

เทียน่าใหม่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เดิม QR25DE ในรุ่น 2.5L และเครื่องยนต์ MR20DE ในรุ่น 2.0L โดยทั้งคู่มาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบ XTRONIC CVT ราคาเริ่มต้นที่ 1,339,000 บาท สำหรับรุ่น 2.0XE 1,426,000 บาท สำหรับรุ่น 2.0XL 1,476,000 บาท สำหรับรุ่น 2.0XL Navi

และ 1,674,000 บาท สำหรับรุ่น 2.5XV Navi โดยมาพร้อมสีใหม่ Radiant Red และอีก 5 สีให้เลือก ได้แก่ สีเทา Deep Iris Gray สีขาว Storm White สีดำ Black Star สีเงิน Brilliant Silver และสีน้ำตาล Grayish Bronze

Related Posts