เอสไอเอสจับมืออินเตอร์ลิ้งค์เปิดให้บริการ SiS Cloud Services เพื่อรุกตลาดพับลิคคลาวด์ในเมืองไทย เน้นจุดแข็งด้านการ customize ให้องค์กรสามารถปรับแต่งระบบคลาวด์ได้ด้วยตนเอง นำเสนอโซลูชันและบริการผ่านคู่ค้ากว่า 2,000 ราย
มุ่งเจาะ 5 กลุ่มองค์กรธุรกิจ อาทิ อสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีกที่มีเครือข่ายสาขา ประกันภัย หน่วยงานหรือองค์กรภาครัฐ และบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อิสระ ตั้งเป้าก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดพับลิคคลาวด์ในประเทศไทยภายใน 3 ปี
นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอสไอเอสจับมืออินเตอร์ลิ้งค์เปิดให้บริการ “SiS Cloud Services” เพื่อรุกตลาดพับลิคคลาวด์ในเมืองไทย เนื่องจากมองเห็นว่าตลาดคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ประกอบกับองค์กรธุรกิจมองหาผู้ให้บริการที่มีทีมงานมากประสบการณ์และมีดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศ เพื่อความคล่องตัวและง่ายในการบริหารจัดการและตรงกับกฎระเบียบต่างๆ
ทั้งนี้เอสไอเอสมีพันธมิตรระดับโลกที่เป็นผู้นำทั้งด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์สำหรับคลาวด์ และพันธมิตรที่สำคัญในประเทศอย่างอินเตอร์ลิ้งค์ ผู้ให้ด้านการให้บริการโครงข่ายไฟเบอร์ออปติคและดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศ
โดยการให้บริการผ่านคู่ค้าทั้งหมดด้วยความแข็งแกร่งของทั้ง 2 บริษัทจะช่วยให้บริการและโซลูชันคลาวด์ที่เรานำเสนอวันนี้สามารถตอบโจทย์ทั้งในเรื่องราคาที่คุ้มค่าและสามารถแข่งขันได้
รวมถึงอิสระในการจัดการระบบคลาวด์ และได้มาตรฐานในระดับสากล ซึ่งขณะนี้ได้เปิดให้บริการคลาวด์เซอร์วิสแก่องค์กรธุรกิจไปแล้วมากกว่า 30 ราย ตั้งเป้าก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดพับลิคคลาวด์ในประเทศไทยภายใน 3 ปี
“เอสไอเอสมีพันธมิตรที่เป็นคู่ค้ากว่า 2,000 ราย ที่มีความรู้ความชำนาญ นอกเหนือจากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคอยู่ โดยจะเน้นการให้บริการคลาวด์ทั้งหมดผ่านคู่ค้า ใช้เทคโนโลยีชั้นนำในการให้บริการคลาวด์ อาทิ VMware, Nutanix, Veeam, Trend Micro, HPE, Fortinet, Microsoft
ด้วยความเป็นเอสไอเอส เรามีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทำให้ลูกค้าสามารถ customize ระบบคลาวด์ตามที่ตนเองต้องการได้ และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถแข่งขันและเติบโตในตลาดคลาวด์ได้คือความยืดหยุ่นการให้บริการ และโมเดลการทำธุรกิจที่เน้นการเติบโตไปด้วยกันกับเหล่าพันธมิตรที่เป็นคู่ค้า ที่สำคัญทั้งราคาและคุณสมบัติก็สามารถแข่งขันในตลาดได้”
นายสมชัย กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมากลุ่มองค์กรธุรกิจที่ใช้คลาวด์ของเอสไอเอสส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มบริษัทประกันภัย ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หรือหน่วยงานราชการ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วลูกค้ามักจะนำ Core Business Application ขององค์กร
เช่น ERP มาใช้งานบนคลาวด์เนื่องจากความต้องการระบบที่เน้นเรื่องความปลอดภัยและเรื่องเสถียรภาพ และมั่นใจว่าจะสามารถขยายบริการครอบคลุมไปยังกลุ่มผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ (ISV) ได้มากขึ้นในปี 2562
SiS Cloud Services ให้บริการอยู่บนศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ 2 แห่งของบริษัท อินเตอร์ลิงค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) ได้แก่ Interlink IDC และ Genesis Data Center ซึ่งผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ISO 27001:2013 และ Tier 3 Data Center โดยศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งสองแห่งมีการเชื่อมต่อกันด้วยเครือข่ายไฟเบอร์ความเร็วสูง
มีระบบรักษาความปลอดภัยครบถ้วน ได้แก่ การป้องกัน Denial-of-Service (Dos) หรือ Distributed Denial-of-Service (DDos), Web Application Firewall, IPS, Advanced Persistent Threat (APT) สามารถรองรับการสำรองและกู้คืนระบบในกรณีที่ไซต์หลักได้รับความเสียหาย เรารับรองคุณภาพบริการที่ 99.90% Monthly Uptime SLA พร้อมศูนย์บริการหลังการขายแบบ 24×7
นายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) ITEL กล่าวว่า ที่ผ่านมาอินเตอร์ลิ้งค์ได้ทำการลงทุนด้านดาต้าเซ็นเตอร์ไปแล้ว 2 แห่ง และความร่วมมือกับเอสไอเอสในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับการบริหารจัดการคลาวด์ขององค์กรธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น
ซึ่งดาต้าเซ็นเตอร์ทั้ง 2 แห่งนี้มีเสถียรภาพและความปลอดภัยสูง สามารถเพิ่มความยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงยังช่วยให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมในการบริหารจัดการด้านการดำเนินธุรกิจได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าองค์กรธุรกิจได้เป็นอย่างดี
ด้านนายพันธนา ณ ตะกั่วทุ่ง ผู้จัดการทั่วไป แผนกคลาวด์ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยการให้บริการที่มีดาต้าเซ็นเตอร์อยู่ในประเทศ จะช่วยทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงเพื่อแก้ไข ทดลองและปรับแต่งได้ตามต้องการ เน้นเรื่องความยืดหยุ่นในการปรับแต่งบริการต่างๆ ให้เข้ากับลูกค้าแต่ละรายเป็นหลัก
รวมทั้งสามารถเป็นไปตามกฎระเบียบต่างๆ ได้ อาทิ ภาคการเงินที่กำหนดว่าดาต้าเซ็นเตอร์ต้องอยู่ในประเทศเท่านั้น ที่สำคัญคือ การใช้ดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศทำให้มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่เหนือกว่าผู้ให้บริการต่างประเทศ
ประกอบกับการมีพันธมิตรเป็นบริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จะทำให้เราสามารถให้บริการโครงข่ายไฟเบอร์ออปติคความเร็วสูงเชื่อมต่อลูกค้าทั่วประเทศเข้ากับคลาวด์ได้
โดยขณะนี้มีการเปิดให้บริการ 6 รูปแบบ ประกอบด้วย 1.Data Center On Cloud (IaaS) 2.Disaster Recovery to Cloud (DRaaS) 3.Backup to Cloud (BaaS) 4.Container on Cloud (PaaS) 5.Virtual Desktop on Cloud และ 6.ERP on Cloud Powered by SAP B1
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง