ทำไมต้องไปงานแสดง ‘ตราไปรษณียากรโลก’ ที่พารากอน

ทำไมต้องไปงานแสดง ‘ตราไปรษณียากรโลก’ ที่พารากอน

งานแสดงตราไปรษณียากรโลก พ.ศ. 2561 (Thailand 2018 World Stamp Exhibition) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 28 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

งานนี้จัดโดยไปรษณีย์ไทยร่วมกับสมาคมนักสะสมตราไปรษณียากรแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายใต้แนวคิด “ท่องเที่ยววิถีไทย ในยุคดิจิทัล 4.0” งานนี้มีอะไรดีที่ทำให้ต้องไปชม

ไฮไลท์อย่างแรกคือคือ การจัดแสดงไปรษณียบัตรส่วนพระองค์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระราชทานให้นำมาจัดแสดงจำนวน 191 ชิ้น ไฮไลท์สุดพิเศษจะอยู่ที่สิ่งสะสมชิ้นพิเศษ 20 ชิ้น ที่ยังไม่เคยถูกนำไปจัดแสดงที่ไหนมาก่อน ซึ่งเป็นไปรษณียบัตรที่ทรงเขียนจ่าหน้าถึงพระองค์เองในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินยังต่างประเทศ

นอกจากนี้ยังมีโซนสำคัญอย่างการจัดแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร การจัดแสดง “จดหมาย 3 แผ่นดิน” หลักฐานการบันทึกเหตุการณ์สำคัญของไทย ตั้งแต่ สมัยอยุธยา ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

ซึ่งจดหมายที่พบฉบับนี้เป็นจดหมายที่เหลืออยู่เพียงฉบับเดียวในไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2231 (ค.ศ.1688) หรือประมาณ 330 ปี มาแล้ว สมัยกรุงธนบุรี เป็นพระราชโองการจากจักรพรรดิเฉียนหลงฮ่องเต้ ซึ่งเอกสารฉบับนี้นับเป็นหนังสือสื่อสารระหว่างจีนและสยามที่เก่าแก่ที่สุดสมัยรัตนโกสินทร์

เป็นจดหมายของ 2 รัชกาล ได้แก่ จดหมายลายพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ซึ่งเป็นจดหมายที่พระองค์ทรงเขียนตอบโต้ เซอร์จอห์น เบาว์ริ่ง จดหมายลายพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว (The Second King of Siam กษัตริย์องค์ที่ 2 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4) ซึ่งเป็นจดหมายที่หาชมได้ยากมาก

โดยใจความในจดหมายฉบับนี้ ได้กล่าวถึง สนธิสัญญาที่ไทยได้ทำกับประเทศเดนมาร์ก และจดหมายลายพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ซึ่งเนื้อความในจดหมายได้กล่าวถึง การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศอินเดีย มาประดิษฐานยังประเทศไทยเพื่อให้ชาวสยามได้กราบสักการะบูชา

และจดหมายที่ทรงกล่าวถึงพระราชพิธีการเปิดรถไฟท่าจีน โดยพระองค์ทรงมีพระราชวินิจฉัยว่า ควรให้สยามมกุฎราชกุมาร (สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร) เป็นผู้แทนพระองค์ไปเปิดสถานีรถไฟท่าจีนแทน

นอกจากนี้สำหรับนักสะสมแสตมป์ทั่วโลกพลาดไม่ได้ คือ การประกวดเเสตมป์แห่งความภาคภูมิใจของนักสะสมแสตมป์ ซึ่งผู้ชนะจะได้รับ 3 รางวัลยิ่งใหญ่ระดับโลกที่ได้รับรางวัลพระราชทานจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ได้แก่ รางวัลกรังด์ปรีซ์ เนชั่นแนล รางวัลผลงานดีเด่นที่สุดของสิ่งประกวด ที่เป็นของประเทศไทย รางวัลกรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล รางวัลผลงานดีเด่นที่สุดของสิ่งประกวดที่เป็นของนานาชาติ ยกเว้นประเทศไทย และรางวัลกรังด์ปรีซ์ ดอร์เนอร์ รางวัลผลงานดีเด่นที่สุดของสิ่งประกวดที่เคยได้รับรางวัลเหรียญทองใหญ่ไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง

ซึ่งล่าสุดนักสะสมแสตมป์จากทั่วโลกได้ตอบรับผลงานเข้าร่วมแสดงและประกวดกว่า 600 ผลงาน รวมมูลค่าหลายพันล้านบาท

สำหรับในส่วนของไปรษณีย์ไทยนั้นได้ทำการออกแบบแสตมป์ที่ระลึกสุดพิเศษ ชุดงานแสดงตราไปรษณียากรโลก พ.ศ. 2561 และจัดทำแสตมป์นิทรรศน์ “Stamp Journey เที่ยวทุกที่วิถีไทย” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในแต่ละภูมิภาค ซึ่งสอดคล้องกับ “ท่องเที่ยววิถีไทย ในยุคดิจิทัล 4.0”

โดยแสตมป์ที่ระลึก ชุดงานแสดงตราไปรษณียากรโลก พ.ศ. 2561 มีด้วยกันทั้งหมด 5 แบบ นำเสนอเรื่องราวการท่องเที่ยวเมืองรอง ตามโครงการเที่ยว 55 เมืองรองของ ททท.

โดยคัดเลือกแหล่งท่องเที่ยว 5 จังหวัด ใน 5 ภูมิภาค ได้แก่ 1. สะพานขาวทาชมพู จ.ลำพูน สะพานประวัติศาสตร์ที่รอดพ้นจากการถูกทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง 2. อุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติ จ.สกลนคร อุทยานบัวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีสายพันธุ์บัวกว่า 100 สายพันธุ์ 3. หาดทรายดำ จ.ตราด หนึ่งใน 5 หาดมหัศจรรย์ของโลกที่เกิดขึ้นจากระบบนิเวศของธรรมชาติ

  1. หมู่บ้านทำกลอง จ.อ่างทอง หมู่บ้านผลิตกลองที่มีชื่อเสียงและดีที่สุดในประเทศไทย และ 5. ซุ้มประตูหิน จ.สตูล เป็นซุ้มประตูหินธรรมชาติ สัญลักษณ์ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา ซึ่งมีความเชื่อว่าคู่รักคู่ใด ที่ได้ลอดซุ้มประตูหินนี้จะสมหวังในความรักและครองคู่กันอย่างมีความสุข โดยแสตมป์ทั้ง 5 แบบ กำหนดวันแรกจำหน่ายในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2561 ราคาดวงละ 3 บาท และ 15 บาท

ส่วนแสตมป์นิทรรศน์ “Stamp Journey เที่ยวทุกที่วิถีไทย” เป็นนิทรรศการที่ย่อส่วนเมืองไทย เพื่อให้เที่ยวได้ในชั่วอึดใจเดียว พร้อมกิมมิคสุดเก๋ไก๋ในรูปแบบ interactive เอาใจคนชอบเที่ยวแบบมีสไตล์ และรับพาสปอร์ตเพื่อร่วมสนุกกับกิจกรรมของแต่ละภาค ประกอบด้วย

เจอนี่ ไปเจอเหนือ สัมผัสสวรรค์แดนสนธยา ตามล่าทะเลหมอก แถมกิ๋นลำ อีสาน เจอนั่น มัน แซ่บ นัว ชมทุ่งดอกบัวแดง พร้อมแซ่บนัว ให้ทั่วอีสาน เที่ยวกลางเจอนี่ มีดีมาให้เจอ ไหว้หลวงพ่อทองคำ ขอพรเสี่ยงเซียมซี เรียนรู้หัตถศิลป์ถึงถิ่นที่มา

เจอเธอ เจอฉัน เจอกันตะวันออก นวดสปาทรายสีดำ ของดีจากธรรมชาติ เชียร์แข่งวิ่งควายหนึ่งเดียวในโลก เจอนั่น เจอนี่ ที่ภาคใต้ แอบแลนกเงือก ลอดซุ้มประตูหิน หรอยจริงหนังลุง

พร้อมกันนี้ไปรษณีย์ไทยยังร่วมออกบูธให้บริการไปรษณีย์จำหน่ายแสตมป์และสิ่งสะสมที่น่าสนใจ และสินค้าที่ระลึกต่างๆ รวมถึงบริการทำ iStamp ดีไซน์เก๋ๆ โดยสามารถนำภาพของคุณไปปรินท์เป็นแสตมป์จริงได้

Related Posts