มาสด้านำต้นแบบ VISION COUPE มาโชวในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป เพื่อให้ชาวไทยได้เห็นถึงเส้นสายอันทรงพลังของการออกแบบที่สง่างาม เพื่อนำไปสู่รถยนต์เจนเนอเรชั่นที่ 7 อย่างเต็มรูปแบบ ส่วนรถยนต์ไฟฟ้านั้นยังไม่มีความชัดเจน ขอเน้นพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ชี้ที่ผ่านมาได้ทำดิจิทัลแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงข้อมูลได้ดีขึ้น และปรับทางด้านบริการสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น ส่งผลยอดขาย 10 เดือนแรกโตขึ้น 43%
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้านำรถต้นแบบ MAZDA VISION COUPE จากประเทศญี่ปุ่นมาจัดแสดงให้คนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด เพื่อสื่อสารปรัชญาการออกแบบรถยนต์ในเจนเนอเรชั่นใหม่ โดยมาสด้าได้เน้นย้ำในเรื่องของการรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อม ด้วยวิสัยทัศน์ระยะยาว หรือ SUSTAINABLE ZOOM–ZOOM 2030 คือยุทธศาสตร์การพัฒนาเทคโนโลยีควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม
“สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV นั้นมาสด้ามองว่าการนำเทคโนโลยีไฟฟ้ามาใช้นั้น ต้องคำนึงถึงแหล่งกำเนิดพลังงานที่สะอาดด้วย มาสด้าจึงมีแนวคิดในเรื่องของ Well-to-Wheel เพื่อเป็นการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันมาสด้ายังคงหาทางเลือกที่หลากหลายในการพัฒนาเครื่องยนต์และระบบขับขี่
ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีไฮบริด เทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า เทคโนโลยีเชื่อมต่อการสื่อสาร และยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ลูกค้ามีความสนุกสนานในการขับขี่ นอกจากนี้ยังพัฒนาในเรื่องของความปลอดภัยเพื่อให้มีความล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น”
ด้านนายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มาสด้าได้ดำเนินกลยุทธ์การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว เริ่มตั้งแต่การปรับปรุงพัฒนาโชว์รูม และการขยายโชว์รูมไปยังพื้นที่ต่างๆ ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
โดยเน้นมาตรฐานใหม่ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีตั้งแต่แรกเห็น และทำให้กลุ่มลูกค้าอยากที่จะเข้ามาใช้บริการ ในด้านการตลาดมาสด้าได้เพิ่มช่องทางการสื่อสารให้ลูกค้ามีความใกล้ชิดกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น
โดยการสร้าง Mazda Digital Platform ทั้งในส่วนของออนไลน์และออฟไลน์ และการสื่อสารที่เชื่อมโยงกันให้เป็น INTEGRATED DIGITAL EXPERIENCE ทั้งในและนอกโชว์รูม นอกจากนี้ยังยกระดับการดูแลของลูกค้าในส่วนของ MAZDA ACTIV SERVICE เพื่อดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่ตั้งแต่ก้าวแรกจนกระทั่งลูกค้าซื้อรถคันใหม่ ซึ่งสิ่งที่พัฒนาปรับปรุงมาตลอดนั้นส่งผลให้มาสด้ามียอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับมาสด้าตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนตุลาคมนั้น มียอดขายสะสมแล้ว 57,402 คัน เติบโต 43% ครองส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 6.9% และประมาณการณ์น่าจะมากกว่า 65,000 คัน ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้มาสด้าประสบความสำเร็จ คือ การตอบรับอย่างดีจากลูกค้า การสร้างแบรนให้แข็งแกร่ง
ประกอบกับการดำเนินงานด้านการตลาดที่แตกต่าง ผนวกกับการออกแบบที่โดดเด่น เทคโนโลยีอันล้ำสมัย และการขับขี่ที่สนุกสนานอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมาสด้า เราจะไปถึงเป้ายอดขายที่เราตั้งไว้โดยไม่ยาก
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง