ตลอดปี 2018 ที่ผ่านมา Thereporter.asia มีโอกาสได้ทดสอบรถยนต์มากมายหลายรุ่น ทั้งจากการเชิญให้ไปทดลองและสัมผัสร่วมกับสื่อมวลชนท่านอื่น และการหยิบยืมมาทดสอบเป็นการส่วนตัวและใช้เวลาอยู่กับรถรุ่นนั้นๆ ด้วยระยะเวลาที่เพียงพอที่จะได้ใช้ฟังก์ชันของรถเกือบจะทุกอย่าง (ยกเว้นแอร์แบ็คที่ไม่คิดจะทดลองใช้)
เน้นใช้งานแบบที่คนปกติใช้กันโดยทั่วไป ไม่ได้นำไปขับโหดแบบนักแข่งแรลลี่หรือทำอะไรที่เกิดความสามารถของประเภทรถ และที่สำคัญคือ เทคโนโลยีที่ใส่มาให้ต้องตอบโจทย์โลกยุคใหม่
ในส่วนของราคานั้นกลายเป็นปัจจัยรองลงมา เพราะจะมองในเรื่องของความคุ้มค่ามากกว่า ประกอบกับการตั้งราคาของรถในระดับเดียวกันยุคนี้ก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก หลายรุ่นมีเทคโนโลยีที่ดีมีความเหมาะสม แต่ก็มีหลายรุ่นที่ราคาเท่ากับคู่แข่งแต่ให้เทคโนโลยีมาเหมือนดูถูกผู้บริโภค ดังนั้นรถที่ Thereporter.asia นำมาทดสอบก็จะเลือกในรุ่นที่ใส่เทคโนโลยีมาให้ ไม่ได้เน้นขับกันทุกคันทุกรุ่นที่มีขายตามท้องตลาด
Ford Ranger 2.0 Bi-Turbo Wildtrak 4×4 10A/T คือรถรุ่นที่ Thereporter.asia ยกให้เป็น Best Car 2018 เหตุผลที่เลือกรถยนต์รุ่นนี้เพราะเป็นรถยนต์ที่มีการพัฒนาให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา จนมาถึงรุ่นไมเนอร์เชนจ์นี้ก็ไม่ใช่เพียงจะแต่งหน้าทาปากมาให้นิดๆ หน่อยๆ เท่านั้น
แต่เหมือนกับเป็นการเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่กันเลยทีเดียว และแม้จะมีราคาค่าตัวสูงถึง 1,265,000 บาท แต่เมื่อมองถึงเทคโนโลยีที่ใส่มาให้ รถยุโรประดับพรีเมียมที่แพงกว่าหลายเท่าตัวยังให้มาน้อยกว่าเลย
ไม่ใช่เพียงการตกแต่งภายในที่หรูหราเกินหน้าเกินตาคู่แข่งเท่านั้น แต่ด้วยช่วงล่างที่หนึบแน่นแต่นุ่มนวลขึ้นทำให้กระบะ 4 ประตูคันนี้เข้าใกล้ความเป็นเอสยูวีครอบครัวได้มากเข้าไปอีก ไม่กระเด้งกระดอนและกระด้างเหมือนกระบะทั่วไป มีการทรงตัวและการขับขี่ที่ดีที่สุดในบรรดารถกระบะทั้งหมด เช่นเดียวกับเทคโนโลยีอย่าง ABS, EBD, ESP, TCS, HLA , HDC TSC, ระบบป้องกันรถพลิกคว่ำ Roll Over Mitigation และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ที่ใส่มาให้ก็เหนือกว่าคู่แข่งที่ราคาใกล้เคียงกันไปหลายขุมแล้ว
แต่ยังไม่หมดเพราะฟอร์ดได้ใส่ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่าง Adaptive Cruise Control ระบบช่วยจอดรถแบบอัตโนมัติ Active Parking Assist ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane Keeping System ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Driver Alert System และระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning System ระบบเบรกอัตโนมัติ ตรวจจับรถและคนเดินถนน AEB : Autonomous Emergency Braking ระบบทั้งหมดนี้เมื่อมองไปรอบๆ ตัวแล้ว ยังหารุ่นรถที่ให้ขนาดนี้ในราคาเท่านี้ได้ยาก
อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบที่สุดคือ การมีระบบการโทรฉุกเฉินหลังเกิดอุบัติเหตุจนแอร์แบ็คระเบิด หรือการชนจากด้านหลังแล้วเสียหายมาจนถึงถังน้ำมัน นอกจากจะมีการตัดระบบน้ำมันอัตโนมัติแล้ว ระบบซิงค์ 3 จะโทรเข้าศูนย์นเรนทรโดยอัตโนมัติ ซึ่งการทำงานหลังเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ที่ผ่านมาก็เห็นเฉพาะกับรถยุโรประดับหรูเท่านั้นที่มีให้ใช้กัน เรนเจอร์จึงน่าจะเป็นรถในตลาดแมสที่ได้ใช้เทคโนโลยีที่ดีแบบนี้
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นแบบ Part-time มาช่วยทำให้ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องการบริโภคน้ำมัน เพราะปรับได้ว่าจะให้ขับ 2 หรือขับ 4 แต่ทั้งนี้ในโหมดขับ 2 นั้นก็ให้ความมั่นใจได้มากอยู่แล้ว แต่จะมั่นใจมากกว่าถ้าเลือกเป็นขับเคลื่อน 4 ล้อ ในส่วนของการทรงตัวนั้นทำได้ดีทั้งในการเดินทางความเร็วทั่วไป
จนถึงความเร็วสูงในระดับ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ยังสามารถบังคับควบคุมได้เป็นอย่างดีไม่มีวอกแวก การเปลี่ยนเลนทั้งแบบกระทันหันหรือแบบปกติสร้างความมั่นใจได้มาก หรือแม้แต่ในการเดินทางที่ต้องฝ่าสายฝน เราจะพบว่าด้วยประสิทธิภาพของช่วงล่างและระบบความปลอดภัยที่อัดเข้ามาให้มากมายนั้น ช่วยได้มากทีเดียว
ในความเป็นจริงรถที่ทดสอบหลายรุ่นในปีนี้ต่างก็มีจุดดีและจุดด้อยที่ต่างกันออกไป การตัดเลือกคันที่ดีที่สุดไม่ใช่ว่าปลื้มแบรนด์ไหนมากกว่า แต่เพราะ Ford Ranger 2.0 Bi-Turbo Wildtrak 4×4 10A/T ตอบโจทย์ได้หลายด้าน และถือว่าเป็นรถที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการรถยนต์ในเมืองไทยในเรื่องของเทคโนโลยีและความปลอดภัยที่ใส่มาให้จนล้น
เป็นตัวอย่างที่ดีของการอัดเทคโนโลยีมาให้กับผู้บริโภคคนไทยได้ใช้กันแบบไม่ต้องกั๊ก ไม่ใช่เอาเปรียบด้วยคำว่าความเป็นรถตลาดแต่ไม่ให้เทคโนโลยีอะไรมาเลยแถมยังแพง หรือแม้แต่การตั้งสเปครถในเมืองไทยอย่างหนึ่งแต่ส่งออกอีกอย่างหนึ่งทั้งที่เป็นรุ่นเดียวกัน มันน่าจะหมดไปได้แล้วสำหรับยุคไทยแลนด์ 4.0
ฟอร์ดอาจจะไม่ใช่แบรนด์ที่ซื้อง่ายขายคล่อง แต่อย่างน้อยในระหว่างที่ใช้งานอยู่ก็อุ่นใจมากกว่า ซึ่งฝากไปถึงผู้บริหารว่าควรนำรถที่หลากรุ่นเข้ามาในเมืองไทยให้มากหน่อย ไม่ใช่ว่าขายกระบะได้ดีก็บุกอย่างเดียว เพราะความหลากหลายของผลิตภัณฑ์จะส่งผลให้แบรนด์เติบโตและเป็นที่รู้จักได้กว้างมากขึ้น
เช่นเดียวกับการสร้างความมั่นใจในเรื่องของศูนย์บริการที่ต้องพัฒนาให้ทุกดีลเลอร์ทำได้ดีมีมาตรฐานเท่ากัน ให้ดูตัวอย่างดีลเลอร์ ฟอร์ดเอ็มดับบลิว ราชพฤกษ์ นครอินทร์ ก็ได้ว่าการให้บริการที่ดีและมีประสิทธิภาพดีนั้นเป็นอย่างไร เพราะรายนี้ดูแลลูกค้าได้ดีแทบไม่มีที่ติ ควรให้ศูนย์อื่นนำไปเป็นแบบอย่าง
ส่วนในปีหน้า Thereporter.asia จะนำรถมาทดสอบกันให้มากขึ้น เน้นรถที่มีเทคโนโลยีที่น่าสนใจเหมือนเดิม อาจจะเพิ่มเติมด้วยลูกเล่นใหม่ๆ สำหรับปีนี้ขอบคุณผู้อ่านที่น่ารัก และสวัสดีปีใหม่ 2019 นะครับ
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง