หัวเว่ย พัฒนาเทคโนโลยีคลาวด์มาหลายปีแล้ว รวมไปถึงการนำเอไอมาเสริมศักยภาพให้กับองค์กร ให้มีความยืดหยุ่นและมีศักยภาพ แต่การจะสื่อสารสิ่งเหล่านี้ให้ได้ผลลัพท์มากที่สุดต้องสามารถนำเสนอผ่านสิ่งที่จับต้องได้ หน่วยธุรกิจคลาวด์ของหัวเว่ยจึงได้เตรียมจัดงาน Huawei Cloud AI Open Day Thailand 2019 ขึ้น
เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ ให้กับผู้สนใจได้ทดลองใช้งานแอปพลิเคชันล้ำสมัยในภาคอุตสาหกรรม การแบ่งปันความคิดเห็นกับบรรดาผู้นำและผู้เชี่ยวชาญในวงการ และที่สำคัญเป็นการสร้างพันธมิตรใหม่
การจัดงานโอเพ่นเฮ้าส์มีระยะเวลา 5 วัน แสดงการใช้งาน Cloud + AI ในด้านต่างๆ อาทิ การกำกับดูแลเมือง การจัดการด้านโลจิสติกส์ การบริหารจัดการแคมปัส การบริหารงานค้าปลีก การป้องกันและวิเคราะห์ด้านบริการสุขภาพ
การบริหารงานขนส่งและชิพ AI Ascend โดยมีเป้าหมายเป็นลูกค้า ผู้ให้บริการเครือข่าย พันธมิตร ตลอดจนนักศึกษา จะได้พบกับการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมต่างๆ
นายโซเลอร์ ซุน รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจคลาวด์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เอไอมีมาประมาณ 60 ปี แล้ว แต่เริ่มมีผลกระทบในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีการใช้แบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมไอซีที
และขณะนี้เริ่มเข้ามามีบทบาทในทุกอุตสาหกรรมแล้ว ถูกนำมาใช้และปรับเปลี่ยนอย่างมากโดยเฉพาะในเรื่องของบิสิเนสทรานฟอร์เมชัน ซึ่งหัวเว่ยได้มีการพัฒนานำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ของตัวเองทั้งผลิตภัณฑ์ไอที คลาวด์ สมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ
“เอไอถูกนำมาใช้ในศึกษาพฤติกรรมของลูกค้า แล้วนำไปสู่การส่งสตรีมมิงไปถึงตัวลูกค้า เป็นการขายสินค้าตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น นอกจากนี้ยังถูกนำไปใช้ในการแก้ปัญหาโรค วิเคราะห์สิ่งต่างๆ ซึ่งขณะนี้เราต้องมองไปถึงว่ามันมีผลกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบันอย่างไรบ้าง
อย่างเช่น พวกงานที่ทำซ้ำๆ งานที่ทำปริมาณมากๆ จะมีผลกระทบกับลักษณะงานแบบนี้แน่นอน ดังนั้นแรงงานระดับล่างที่จำเป็นต้องพัฒนาโนว์ฮาว ใช้ความรู้ความสามารถมากขึ้น ส่วนผู้บริหารก็จำเป็นต้องมองงานในรูปแบบกลยุทธ์มากขึ้น และจะมีงานใหม่ๆ ขึ้นมาทดแทนงานที่กำลังจะสูญหายไปด้วย”
หัวเว่ยพัฒนาเรื่องคลาวด์และเอไอมาหลายปีแล้ว ตอนนี้อยู่ในเฟส 2 เฟสของการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่และสังคมเข้าหากัน โดยหัวเว่ยกำลังจะนำเอไอมาช่วยในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ หัวเว่ยเริ่มทำเอไอรีเสิร์ซเพื่อลดค่าใช้จ่าย ลดพลังงาน เร่งความเร็วในการประมวลผล
เป็นการพัฒนาให้เป็นระบบเปิด รวมไปถึงสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์มให้พาร์ทเนอร์ในตลาดสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันแนวใหมได้ และเราก็สร้างเฟรมเวิร์กและการพัฒนา ซึ่งภายในงาน Huawei Cloud AI Open Day Thailand 2019 จะนำเสนอสิ่งที่หัวเว่ยได้ทำไปแล้ว และกำลังจะพัฒนาต่อยอด
นายธนินทร์ น้อยรังษี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค HUAWEI CLOUD กล่าวว่า ตลอดช่วงจัดงานผู้เข้าชมจะได้สัมผัสกับเทรนด์ใหม่ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีคลาวด์และ AI เรียนรู้ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี และทดลองใช้งานแอพพลิเคชั่นล้ำสมัยในภาคอุตสาหกรรม
ซึ่งเทคโนโลยีที่เป็นไฮไลท์สำคัญภายในงาน ประกอบด้วยชิพ AI บริการคลาวด์และโซลูชัน AI แบบครบทุกระดับ (Full-stack AI) ที่ครอบคลุมการใช้งานหลากหลายด้าน นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอตัวอย่างความสำเร็จและนวัตกรรมอัจฉริยะต่างๆ ของบริการคลาวด์ด้าน AI
เช่น Optical Character Recognition (OCR) เป็นการรู้จำตัวอักขระด้วยแสงและภาพ, การค้นหาภาพ, การวิเคราะห์วิดีโออัจฉริยะ, แพลตฟอร์มพัฒนาระบบ AI ที่เรียกว่า ModelArts และ HiLens เป็นต้น
สำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ การขนส่ง, การบริหารจัดการแคมปัส, เกม, รถยนต์อัจฉริยะ และการบริหารงานหน้าร้านค้าปลีก โดยมีตัวอย่างการใช้งานเทคโนโลยีซึ่งประกอบไปด้วย
เมือง+AI: โซลูชัน Traffic Intelligent Twins ใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรที่แออัด, การควบคุมดูแลรถยนต์อัจฉริยะ, การตรวจตราปัญหาความรุนแรง, การส่งเสริมความปลอดภัยด้านการขนส่งภายในเมืองและการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
แคมปัส+AI: หุ่นยนต์จะทำหน้าที่ตรวจตราดูแลภายในบริเวณพื้นที่ขนาดใหญ่และประมวลผลเพื่ออนุญาตการเข้าพื้นที่ภายในเวลาเสี้ยววินาทีโดยใช้อัลกอริธึ่มระบบการจดจำที่แม่นยำ นอกจากนี้ยังสามารถปรับปรุงการแสดงผลโฆษณาได้แบบเรียลไทม์ด้วยระบบจดจำใบหน้า และการวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงความแม่นยำในด้านการตลาดที่ดีขึ้น
โลจิสติกส์+ AI: กล้องที่มี “สมอง” มีความสามารถมากกว่าแค่บันทึกภาพคนงาน แต่ยังสามารถรายงานและแสดงหลักฐานความรุนแรง รวมถึงบันทึกภาพความเสียหายที่เกิดจากการกระทำด้วยความประมาทหรือปฏิบัติอย่างไม่ถูกต้องในขั้นตอนการจัดส่งขนถ่ายสินค้าได้ด้วย
การขนส่ง+AI: ระบบจดจำใบหน้าเป็นความสามารถพื้นฐานของ AI ในการตรวจสอบยืนยันความถูกต้องภายในสนามบิน ด่านศุลกากร และร้านค้าปลีก ซึ่งผู้เข้าชมงานจะได้ทดลองสัมผัสขั้นตอนการขึ้นเครื่องทั้งหมด ด้วยระบบการจดจำใบหน้า ตลอดจนไฟสัญญาณจราจรที่ควบคุมด้วยระบบอัจฉริยะแบบเรียลไทม์เพื่อลดปัญหาการจราจรแออัด
งานค้าปลีก+AI: การจดจำลักษณะท่าทางของลูกค้าด้วยเทคโนโลยี AI จะแสดงตัวอย่างแอพพลิเคชั่นที่มีทักษะความสามารถสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมค้าปลีก โดยผู้เข้าชมจะสามารถสั่งกาแฟได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องสั่งผ่านแคชเชียร์
ชิพ AI Ascend: การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี AI ของหัวเว่ยนั้น ทำให้ได้นวัตกรรมชิพสองรุ่น คือ Ascend 910 และ Ascend 310 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสำหรับการประมวลผลแบบนิวรอลเน็ทเวิร์ค พร้อมชุดเครื่องมือการพัฒนา และการฝึกอบรมด้านคลาวด์
นอกจากนี้ ผู้ที่มาในงานยังจะได้รับชมและทดลองควบคุมหุ่นยนต์เล่นฟุตบอลด้วย HiLens ระบบกล้องอัจฉริยะ ตลอดจนการทำงานของเทคโนโลยี AI ในการรู้จำตัวอักขระไทยด้วยแสงและภาพ (Thai OCR) ที่อาจมีลักษณะจากการพิมพ์ไม่สมบูรณ์เช่นตัวอักษรไทยที่มีลายเส้นเอนเอียงหรือผิดรูปบนเอกสารที่มีพื้นหลังซับซ้อนได้อย่างแม่นยำ
HUAWEI CLOUD ธุรกิจคลาวด์ของหัวเว่ย เตรียมจัดงานโอเพ่นเดย์ ภายใต้ชื่อ “Huawei Cloud AI Open Day Thailand 2019” ระยะเวลา 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ชั้น 39 อาคารจี ทาวเวอร์ ถนนพระรามเก้า ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ https://varpevent.com/e/2019/huawei/cloud-ai-day/
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง