ฟูจิตสึ ประเทศไทย เปิดตัว DWOT โซลูชั่นครบวงจรด้านการจัดการอุตสาหกรรม ที่พัฒนาโดยทีมงานประเทศไทยทั้งหมด ตอบโจทย์ทั้งเรื่องของการจัดการ ความปลอดภัย การจัดการซ่อมบำรุง การติดตามแบบเรียลไทม์ ตลอดจนการวิเคราะห์ความคุ้มค่าของกระบวนการทำงานที่เหมาะสม ตามความต้องการของอุตสาหกรรมนั้นโดยเฉพาะ
นายไกวัลย์ บุญเสรฐ หัวหน้ากลุ่มงาน ดิจิทัล โซลูชั่น ฟูจิตสึ ประเทศไทย กล่าวว่า DWOT จะเข้ามาตอบโจทย์การดำเนินงานของอุตสาหกรรมได้ทุกรูปแบบ ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างผลิตผลที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังตอบโจทย์การเพิ่มมูลค่าของอุตสาหกรรมนั้นนั้นได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้การดำเนินงานมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นในยุคของดิจิทัล
โดยกลุ่มเป้าหมายของการนำเสนอโซลูชั่นนี้ มีการจัดทีมขึ้นมาเฉพาะกลุ่ม แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ เพื่อให้เข้าถึงเป้าหมายชัดเจนที่สุด 1.สมาร์ท รีเทล 2. สมาร์ท แฟคโทรี่ 3.สมาร์ท เวิร์คเพลส และยังมีความร่วมมือของผู้ผลิตอุปกรณ์ระดับโลกที่พัฒนาให้สามารถเชื่อมต่อได้กับ DWOT ทำให้ให้โซลูชั่นของฟูจิตสึเอง มีความครบถ้วนสมบูรณ์มากขึ้น
ในส่วนของรายได้นั้น นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เรายังสามารถดำเนินงานตามเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่อง แต่ท้ายที่สุดยังต้องรอดูในเดือนที่เหลืออีกครั้ง และในปีนี้ เราตั้งเป้าที่จะเติบโตขึ้นกว่า 10% ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของตลาดไอทีในปัจจุบัน ซึ่งภาพรวมจะเติบโตอยู่ราว 5% เท่านั้น

ด้านนางคอง เษี่ยว เอี๊ยน ผู้อำนวยการฝ่าย Digital Innovations เปิดเผยว่า แพลตฟอร์ม DWOT (Digital Work and Operation Tracking) จะรองรับการทำงานของทุกอุตสาหกรรม โดยสามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ IoT ทุกแบรนด์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต
ขณะที่ฟีเจอร์หลักของการทำงานมีทั้งในส่วนของการบำรุงรักษา การผลิต การขนส่ง ตลอดจนการทำงานในส่วนของวิศวกรรม โดยรองรับระบบการทำงาน การออกแบบ การจัดการเครื่องจักรได้อย่างลงตัวเพื่อจำลองการผลิตในขั้นตอนสุดท้ายก่อนการผลิตจริง เป็นการประหยัดต้นทุนทั้งเวลาและการลงทุนได้ราว 50% ในบางอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ DWOT เป็นโซลูชั่นที่ประสานการทำงานและเก็บประวัติการดำเนินงานในรูปแบบดิจิทัล ทั้งข้อมูลบุคคลและกระบวนการทำงาน ตลอดจนการติดตามการดำเนินงานแบบเรียลไทม์ แล้วประมวลผลเพื่อสร้างคุณสมบัติการทำงานที่เหมาะสม เพื่อจับคู่บุคลากรที่เหมาะสมในการทำงานชิ้นนั้นๆ
นอกจากนั้นในเรื่องของการจัดการรับคำสั่ง สามารถเชื่อมต่อระบบ ERP เพื่อรับคำสั่งได้อย่างไหลลื่น ซึ่งเมื่อรับคำสั่งเข้ามาแล้ว จะทำการประมวลผลเพื่อจับคู่บุคลากรที่เหมาะสมเช่นกัน อีกทั้งยังมีการลดขั้นตอนการขออนุญาติเข้าทำงานที่เกี่ยวข้อง ตามระบบการทำงานของโรงงานอุตสาหกรรมได้แบบอัตโนมัติ
อีกทั้งยังสามารถจัดการสร้างโปรไฟล์ของคนงาน เพื่อให้คนงานพกติดตัว ทำให้สามารถติตดามการดำเนินงาน ตำแหน่งของบุคคลนั้นๆได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งเมื่อบุคลากรเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงสูงและจำเป็นต้องผ่านการอบรมพิเศษ ระบบจะสามารถล่วงรู้ได้ทันที และเมื่อมีบุคลากรเข้าไปยังพื้นที่ไม่เหมาะสมจะมีการแจ้งเตือนทันที
ขณะที่ในส่วนของผลิตผลทางการผลิต จะสามารถวิเคราะห์ผลของการทำงานได้อย่างเรียลไทม์ จากการแทร็กการทำงานดังกล่าวผ่านแดชบอร์ด ผ่านศูนย์ควบคุม ROC ซึ่งสามารถวิเคราะห์ความคุ้มค่าของการจ้างงานเพื่อประกอบการตัดสินใจในอนาคต
อีกทั้งในเรื่องของความปลอดภัย ยังสามารถแทร็กได้ถึงความปลอดภัยของพื้นที่การทำงาน ซึ่งจะมีการแจ้งเตือนเมื่อเข้าสู่บางพื้นที่ที่มีการจำกัดเวลาในการเข้าอยู่ ซึ่งเมื่อเลยกำหนดระยะเวลาจะมีการแจ้งเตือนไปที่แดชบอร์ดทันทีเช่นกัน
ทั้งนี้ขั้นตอนของการทำงาน DWOT จะเริ่มจากตัวอุปกรณ์แล้วส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายในพื้นที่ หลังจากนั้นจะส่งเข้าสู่ระบบโซลูชั่น เพื่อนำไปประมวลผลแบบอัจฉริยะ (แมชชีนเลิร์นนิ่ง) และจัดรูปแบบออกมาเป็นแดชบอร์ดที่เหมาะสมให้กับผู้ดูแลระบบได้สามารถตอบสนองได้แบบทันท่วงที
ขณะที่หน้าแดชบอร์ด จะมีการแสดงแท็กในพื้นที่ออกมาเป็นรูปแบบ 2 มิติ (แผนผัง) โดยสามารถคลิกเพื่อเลือกดูรายละเอียดเฉพาะบุคคลได้อย่างเหมาะสม สามารถแบ่งการทำงานออกเป็นโซน เป็นชั้น หรือแบบเฉพาะบุคคล เพื่อสร้างรูปแบบการแจ้งเตือนที่เหมาะสมได้ตรงความต้องการ
โดยสามารถแท็กได้ทั้ง บุคคล รถยนต์ อุปกรณ์ภายใน ตลอดจนระบบการแทร็กของระบบขนส่ง เพื่อให้สามารถล่วงรู้การเดินทางของบุคลากรได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสื่อสารไปยังบุคคลนั้นๆจากศูนย์ดูแลได้ทันที รวมไปถึงการสื่อสารแบบ3 ทาง เพื่อประสานการทำงานด้านวิศวกรรมจากทางวิศวกรผู้ผลิตเครื่องจักรโดยตรง ช่วยให้การซ่อมบำรุงเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ในส่วนของระบบเครือข่ายนั้น DWOT ยังมีการควบคุมความปลอดภัยของระบบเครือข่าย ซึ่งเป็นแบบ Pervasive Network ที่สามารถทะลุทะลวงได้ในทุกจุด เพื่อป้องกันการเกิดจุดอับสัญญาณในพื้นที่อย่างละเอียด ซึ่งในการวางระบบนั้นจะมีการสำรวจในพื้นที่จริง เพื่อติดตั้งระบบเครือข่ายอย่างละเอียดและเข้มงวดในการวางระบบ
ปัจจุบันมีการทำงานพัฒนา AP(Access PointX หรือจุดกระจายสัญญาณไวไฟ ร่วมกับทางซิสโก้ ซึ่งมีการพัฒนาอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานป้องกันการระเบิด สำหรับบางอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ เช่นอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซเป็นต้น
ทั้งนี้ DWOT เป็นก่ารพัฒนาโซลูชั่น โดย ฟูจิตสึ ประเทศไทยเองทั้งโซลูชั่น ซึ่งใช้ระยะเวลาในการพัฒนามานานกว่าปี จากทีมพัฒนาทั้งระบบเพียง 5-6 คนเท่านั้น แต่สามารถที่จะนำไปจำหน่ายยังต่างประเทศจากการผลักดันของบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะสามารถวางจำหน่ายยังต่างประเทศได้ผ่านการรวมเข้าไปในหนึ่งรายการขายโซลูชั่นของฟูจิตสึทั่วโลก อีกทั้งยังมีการนำเสนอผ่านการโร้ดโชว์ในระดับภูมิภาคของทั่วโลก