RTB เผยผลประกอบการทรงตัว พร้อมเกาะกระแสดิจิทัล ประเทศไทย 4.0 เติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าโตเท่าเดิม 30% จากกระแสสมาร์ทโฟนชะลอตัว และสถานการณ์การเมือง เล็งขยายตลาดสู่กลุ่มองค์กรมากขึ้น พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมสายชาร์จทนทานสูงรับน้ำหนักได้ถึง 30 กิโลกรัม
ดร.บรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ อาร์ทีบี เทคโนโลยี เปิดเผยว่า ในปี 2561 ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมยังชะลอตัว ด้วยสถานการณ์ของตลาดมือถือที่เริ่มหดตัว ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองยังไม่แน่นอน อาจจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม
แต่กระนั้นในช่วงที่ผ่านมา RTB ก็สามารถทำยอดขายได้กว่า 468 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 34% โดยรายได้เกิดจากกลุ่มสินค้าอุปกรณ์เสริมระดับพรีเมี่ยม
ซึ่งหากแบ่งกลุ่มรายได้จะเกิดจากกลุ่ม B2B ซึ่งมีการเติบโตอยู่ที่ราว 50% จากกลุ่มสินค้า VIOP โดยมีสัดส่วน 20% ขณะที่กลุ่มสินค้า B2C ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าคอนซูเมอร์มีสัดส่วนอยู่ราว 80% แต่คาดว่า ยอดขายในปี 2562 จะโตได้ราว 30%
ทั้งนี้ไฮไลต์ในช่วงที่ผ่านมา ยอดขายออนไลน์มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดจากปี 2015 ขึ้นมากว่า10เท่า ในปี 2018 ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีอยู่ท้องตลาด ทำให้ปีนี้เราตั้งเป้าผลักดันให้ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายกระโดดเข้าสู่การจำหน่ายออนไลน์ต่อไป
อีกทั้งสินค้ากลุ่มที่กำลังมาแรง คือกลุ่มเทคโนโลยีในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นระดับองค์กร ซึ่งเรามีสินค้ากลุ่มนี้อยู่ ขณะที่กลุ่มมือถือแม้ว่าจะเริ่มชะลอตัว แต่ก็ยังเป็นเป้าหมายที่สร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งกลุ่มสินค้าที่จะจำหน่ายเป็นกลุ่มสินค้า VOIP โดยมีทั้งสินค้าเกตเวย์ และกลุ่มวิดีโอคอล พร้อมกล้องวิดีโอและสปีกเกอร์ที่ใช้ อีกทั้งยังมีบางส่วนที่รองรับการจำหน่ายให้กลุ่มคอนซูมเมอร์ในการใช้งานในนวัตกรรมวอยซ์คอมมานด์อีกด้วย

นางสาววิมลมาลย์ วัฒนสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด อาร์ทีบี เทคโนโลยี เปิดเผยว่า ปีนี้สินค้าของเรามีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อเข้ามาอุดช่องว่างของการดำเนินชีวิตของผู้คนให้เกิดความสะดวกมากขึ้น
โดย พาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งของเรา อย่างแบรนด์ UNIQ เป็นกลุ่มสินค้าอุปกรณ์เสริม ที่มาพร้อมนวัตกรรมที่โดดเด่น และการออกแบบได้อย่างลงตัว
ในส่วนของการออกแบบ อาทิ คุณภาพแท่นชาร์จไร้สายที่มาพร้อมความสามารถในการใช้งานระกว่างชาร์จได้ด้วย อีกทั้งยังมีฮับที่สามารถชาร์จได้หลากหลายรูปแบบในคราวเดียว
และอุปกรณ์สายชาร์จ ในรุ่น Halo ที่สามารถเก็บสายได้อย่างเรียบร้อย อีกทั้งในรุ่น Flex สามารถดัดสายได้ตามชอบใจ อีกทั้งยังมีเคสที่ทำจากหินคอนกรีตและเปลือกหอย ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะUNIQ และเป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
ขณะที่แบรนด์ ENERGEA ซึ่งโดดเด่นด้วยสายชาร์จที่รับประกันนานถึง 5 ปี ด้วยความโดดเด่นของความทนทานที่สามารถใช้ลากยางรถยนต์ขนาดใหญ่ได้สบาย โดยรองรับน้ำหนักได้ดีว่า 30 กิโลกรัม
ENERGER ยังมาพร้อมหัวชาร์จที่หลากหลาย รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ อีกทั้งยังมีในส่วนของพาวเวอร์แบงค์อัจฉริยะ ที่สามารถควบคุมปริมาณไฟที่เหมาะสมในการชาร์จ และรองรับการชาร์จแบบไร้สายได้อย่างปลอดภัย
ไฮไลต์ของแบรนด์นี้ยังมี WiMount Sense ซึ่งเป็นที่ตั้งโทรศัพท์ในรถยนต์ ซึ่งสามารถเปิดตัวล็อกเครื่องได้อย่างอัตโนมัติ โดยเมื่อนำโทรศัพท์เข้าไปใกล้ตัวล็อกจะเปิดออกและเมื่อต้องการนำโทรศัพท์ออกก็เพียงจับโทรศัพท์ไว้สักครู่เท่านั้น อีกทั้งยังสามารถหมุนแนวนอนและแนวตั้งได้อย่างอัตโนมัติอีกด้วย
และ Widock mod สำหรับการต่อโมดูลการขาร์จอุปกรณ์แบบไร้สายได้ตามต้องการ แต่ปัจจุบันยังรองรับการต่อเพียงแค่ 2อุปกรณ์เท่านั้น
ทั้งนี้อุปกรณ์ที่กล่าวมา อาจจะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้เป็นต้นไป
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง