โซนี่เปิดตัวกล้องอัลฟ่ามิเรอร์เลส α6400 รุ่น ILCE-6400 ที่พัฒนาขึ้นใหม่ด้วยการนำเทคโนโลยีการถ่ายภาพจากกล้องฟูลเฟรมมาบรรจุในกล้องรุ่นนี้เป็นครั้งแรก พร้อมระบบโฟกัสอัตโนมัติ 4D Focus ที่สามารถจับภาพได้รวดเร็ว พร้อมเทคโนโลยีติดตามวัตถุ Real-time Eye AF และ Real-Time Track
ซึ่งทำงานด้วยระบบ AI ทำให้สามารถวิเคราะห์และจับภาพได้อย่างแม่นยำเพื่อตอบโจทย์นักถ่ายภาพ มีจำหน่าย 2 สีคือ สีดำ และสีเงิน โดยเริ่มวางจำหน่ายสีดำแล้ว ส่วนสีเงิน ILCE-6400 พร้อมวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม โดยจะมี 2 แพ็คเกจด้วยกันคือ ILCE-6400 (เฉพาะ Body) จำหน่ายราคา 32,990 บาท ILCE-6400L (พร้อมเลนส์คิท 16-50mm) จำหน่ายราคา 36,990 บาท
นางสาวลีลนา เพียรพิริยะ ผู้จัดการแผนกการตลาดผลิตภัณฑ์ดิจิตอล อิมเมจจิ้ง บ. โซนี่ ไทย จ.ก. กล่าวว่า โซนี่นำคุณสมบัติชั้นเลิศที่อยู่ในกล้อง Full Frame Mirrorless ทั้งในรุ่น α9, α7R III และ α7 III มาสู่กล้องมิเรอร์เลส APS-C รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง α6400 มาพร้อมขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา เสริมด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ล้ำหน้ามากมาย
อาทิ ระบบออโต้โฟกัสที่จับภาพได้รวดเร็วที่สุดในโลก เพียง 0.02 วินาที นอกจากนี้ยังทำงานควบคู่กับระบบ AI ทำให้สามารถวิเคราะห์และโฟกัสดวงตาและวัตถุต่าง ๆ ตามต้องการได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“โซนี่ได้วางกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อผลักดันให้กล้อง α6400 ให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ที่กว้างขึ้น โดยจะสื่อสารครอบคลุมในทุกช่องทาง รวมถึงสื่อออนไลน์และโซเชี่ยลมีเดีย เวิร์คช็อป ควบคู่กับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภค ในการมาทดลองสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการถ่ายภาพอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้มั่นใจว่ากล้องอัลฟ่ามิเรอร์เลส α6400 จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคเป็นอย่างดี และทำให้โซนี่สามารถครองใจผู้บริโภคได้อย่างเหนียวแน่น”
กล้อง α6400 เป็นกล้องมิเรอร์เลสแบบ E Mount ที่ใช้เซ็นเซอร์ APS-C รุ่นล่าสุดที่ออกแบบให้มีน้ำหนักเบา มาพร้อมระบบ 4D FOCUS ซึ่งเป็นระบบโฟกัสที่รวมทั้ง Phase Detection และ Contrast Detection เข้าด้วยกัน ทำให้ครอบคลุมพื้นที่ถึง 425 จุด และสามารถจับภาพได้ฉับไวกว่ารุ่นเดิม โดยใช้เวลาเพียงแค่ 0.02 วินาทีเท่านั้น
ซึ่งนับว่ารวดเร็วที่สุดในโลกขณะนี้ พร้อมด้วยเทคโนโลยีติดตามวัตถุแบบใหม่ที่มีชื่อว่า Real-time Eye AF และ Real-Time Track ซึ่งควบคุมด้วยระบบ AI ทำให้สามารถวิเคราะห์และโฟกัสดวงตาและวัตถุต่าง ๆ ที่ต้องการได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นกว่าเดิม
นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์รับภาพแบบ Exmor CMOS (APS-C) ที่มีความละเอียด 24.2 เมกกะพิกเซล ผสานกับชิปประมวลผลภาพ BIONZ X ที่มีค่าความไวแสง (ISO) สูงถึง 32,000 และสามารถขยายได้ถึง 102,400 ช่วยให้ภาพสวยงามคมชัดทุกรายละเอียดและมีสีสันสมจริงดุจธรรมชาติแม้จะถ่ายในสภาวะแสงน้อย
รวมถึงรองรับการบันทึกวิดีโอที่มีความละเอียดของภาพระดับ 4K และถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุด 11 ภาพต่อวินาทีในโหมดปกติ และ 8 ภาพต่อวินาทีในโหมดชัตเตอร์แบบไร้เสียง
ด้านบอดี้ของกล้องอัลฟ่ามิเรอร์เลส รุ่น α6400 ผลิตจากแม็กนีเซียมอัลลอยด์ที่มีน้ำหนักเบา แต่ให้ความแข็งแรงทนทานและมีขนาดกระทัดรัด จึงง่ายต่อการพกพาไปเก็บภาพในสถานที่ต่างๆ ขณะเดียวกันยังมีฟีเจอร์ Time-Lapse ซึ่งติดตั้งมาในตัวกล้อง ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องเพื่อทำภาพยนต์บนคอมพิวเตอร์ได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ทั้งยังรองรับ Hybrid Log-Gamma (HLG) ซึ่งทำให้ภาพวิดีโอสามารถเล่นบนทีวี 4K UHD ได้เต็มขนาด ที่สำคัญยังมาพร้อมกับจอสัมผัสขนาด 3 นิ้วที่สามารถพับได้ถึง 180 องศา เพื่อช่วยให้การถ่าย Selfie ตัวเองได้สนุกยิ่งขึ้น และเมื่อถ่ายภาพเสร็จยังสามารถถ่ายโอนรูปภาพได้ทันทีผ่านแอปพลิเคชัน Imaging Edge
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง