แม้ว่าเทคโนโลยีจะมีบทบาทสำคัญกับงานด้านทรัพยากรบุคคล (HR) เพิ่มขึ้น แต่ผลการศึกษาล่าสุดของ อะไลท์ โซลูชั่นส์ (Alight Solutions) ผู้นำด้านโซลูชั่นการจัดการสุขภาพ สินทรัพย์ และทรัพยากรบุคคลโดยอาศัยเทคโนโลยี
ชี้ว่า บริษัทส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกยังไม่พึงพอใจกับแพลตฟอร์มเทคโนโลยีด้าน HR ที่ใช้อยู่ โดยผู้ตอบแบบสำรวจมากกว่าครึ่ง (55 เปอร์เซ็นต์) ซึ่งเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์จากปี 2561
ระบุว่าแพลตฟอร์มด้าน HR ที่ใช้อยู่ยังไม่ตอบโจทย์ ผลสำรวจยังพบว่าเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทที่ให้ข้อมูล กำลังวางแผนและประเมินการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ในช่วง 12 ถึง 24 เดือนข้างหน้าอย่างกระตือรือร้น
รายงาน The State of HR Transformation Study 2018-19 ของอะไลท์ ทำการสำรวจองค์กรกว่า 670 แห่งในหลากหลายภาคธุรกิจในเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งมีพนักงานรวมกันกว่า 6.1 ล้านคน และมีรายได้กว่า 7 ล้านล้านดอลลาร์
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบแนวทางในการเลือกและปรับใช้โซลูชั่นด้าน HR ที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้งานง่ายขององค์กรเหล่านี้
รายงานนี้เป็นการจัดทำเป็นครั้งที่สองและเป็นรายงานที่มีขอบเขตกว้างขวางมากที่สุดในจำนวนรายงานประเภทเดียวกัน นอกจากข้อมูลดังกล่าวมาแล้ว
อะไลท์ ได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญอีก 5 ข้อที่ได้จากการสำรวจครั้งนี้ ดังนี้
- บริการและเทคโนโลยีด้าน HR มีความสำคัญมากต่อความสำเร็จในการเตรียมความพร้อมให้กับอนาคตขององค์กร องค์กรที่ได้พัฒนาด้าน HR แล้ว มีความมั่นใจต่อความพร้อมในอนาคตของตนเองมากกว่าองค์กรอื่นๆ เกือบ 5 เท่า และสามารถดำเนินงานด้าน HR ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า 2 เท่า นอกจากนั้น องค์กรดังกล่าวยังมีอัตราส่วนบุคลากรด้าน HR ต่อพนักงานประจำโดยเฉลี่ย 1:92 เปรียบเทียบกับองค์กรอื่นๆ ซึ่งมีอัตราส่วนอยู่ที่ 1:52
- ปัญหาช่องว่างด้านความสามารถและการประสานงานที่ไม่เพียงพอส่งผลให้ฝ่าย HR ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ที่จริงแล้ว องค์กร 3 ใน 4 แห่งมีแผนที่จะเพิ่มยอดใช้จ่ายเพื่อการพัฒนาขีดความสามารถด้าน HR
- บริษัทในเอเชียแปซิฟิกกว่า 60 เปอร์เซ็นต์มีรูปแบบการให้บริการด้าน HR ที่ชัดเจนและเหมาะสม ซึ่งบ่งบอกว่าองค์กรนั้นๆ มีการพัฒนาที่ดี
- จะมีการนำระบบงานอัตโนมัติ (Automation) และ AI มาใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้นในช่วง 18 – 24 เดือนข้างหน้า โดยผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ (80 เปอร์เซ็นต์) กำลังทำการประเมินกรณีการใช้งาน AI และระบบงานอัตโนมัติ รวมถึงขอบเขตการลงทุนในอนาคต
- ระบบวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง (Analytics) เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิผล ความสามารถ ประสิทธิภาพการทำงาน และการดึงดูดบุคลากร ผู้ตอบแบบสอบถาม 2 ใน 3 มีแผนที่จะปรับใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลบุคลากรที่แข็งแกร่งมากขึ้นในช่วง 12-24 เดือนข้างหน้า
วิครานท์ คานนา หัวหน้าฝ่ายธุรกิจการทรานส์ฟอร์มงานด้าน HR ประจำภูมิภาคเอเชียของอะไลท์ โซลูชั่นส์ ผู้ร่วมเขียนรายงานผลการศึกษาฉบับนี้ กล่าวว่า “ในยุคที่มีการใช้งานระบบคลาวด์อย่างกว้างขวางและมีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง
องค์กรต่างๆ ในเอเชียแปซิฟิก จำเป็นต้องยุติการพึ่งพากลยุทธ์แพลตฟอร์ม HR ที่ ‘ดีที่สุด’ เพราะการผนวกรวมแพลตฟอร์มต่างๆ และบริการหลากหลายช่องทางเข้าด้วยกันจะช่วยสร้างความแตกต่างที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อน HR ในโลกดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า”
แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นกับองค์กรต่างๆ ในเอเชียแปซิฟิก ภายในปี 2563
- 67 เปอร์เซ็นต์ขององค์กรจะมีโปรแกรมการฝึกอบรมราวครึ่งหนึ่งเป็นรูปแบบวิดีโอ โดยมีเนื้อหาสั้นๆ และเปิดให้เรียนรู้ในแบบออนดีมานด์ รวมถึงการเรียนรู้เชิงคาดการณ์ตามบทบาทหน้าที่
- 61 เปอร์เซ็นต์ขององค์กรจะรับทราบข้อคิดเห็นของพนักงานส่วนใหญ่ (80 เปอร์เซ็นต์) ได้แบบเรียลไทม์
- องค์กรที่ทำการสำรวจครึ่งหนึ่งให้ข้อมูลว่าจะใช้ AI เพื่อขับเคลื่อนกระบวนการจัดการผลการปฏิบัติงานราวครึ่งหนึ่งของกระบวนการที่ใช้อยู่ในองค์กรนั้นๆ
- 63 เปอร์เซ็นต์ขององค์กรระบุว่า กระบวนการ HR ทั้งหมดของตนจะมุ่งเน้นการใช้งานผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่
- เกือบครึ่งหนึ่งขององค์กรคาดว่าจะมีธุรกรรมด้าน HR ส่วนใหญ่ (80 เปอร์เซ็นต์) เป็นแบบสั่งงานด้วยเสียง และบริษัทเกือบครึ่งหนึ่ง (47 เปอร์เซ็นต์) คาดว่าจะดำเนินกระบวนการราวครึ่งหนึ่งบนเทคโนโลยีอุปกรณ์สวมใส่ (Wearable)
- องค์กรกว่าครึ่งหนึ่งคาดว่าจะใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อรองรับการตัดสินใจส่วนใหญ่เกี่ยวกับบุคลากร (80 เปอร์เซ็นต์)
ชัสวัต คูมาร์ หัวหน้าฝ่ายโซลูชั่น HCM ประจำภูมิภาคเอเชียของอะไลท์ และผู้ร่วมเขียนรายงานผลการศึกษาฉบับนี้ กล่าวว่า “ส่วนงาน HR ในองค์กรต่างๆ ในเอเชียแปซิฟิก พยายามลดระยะเวลาที่ต้องใช้ในการทำธุรกรรมและการบริหารจัดการ เพื่อนำเสนอประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้แก่พนักงาน และขับเคลื่อนความร่วมมือทางธุรกิจ
ซึ่งจะเกื้อหนุนต่อการปรับปรุงการดำเนินงานขององค์กรโดยรวม บริษัทต่างๆ ในเอเชียแปซิฟิกตระหนักว่า ส่วนงาน HR ที่ได้รับการเสริมศักยภาพด้วยเทคโนโลยีมีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาองค์กร
และเกือบ 75 เปอร์เซ็นต์มีแผนที่จะเพิ่มงบประมาณเพื่อปรับปรุงขีดความสามารถด้าน HR โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับระบบวิเคราะห์ข้อมูล ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และการเพิ่มความสะดวกต่อการเปลี่ยนแปลง”