รถระดับ Supercar อย่าง Lamborghini ไม่ได้มีดีเฉพาะเครื่องยนต์และช่วงล่างเท่านั้น แต่ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง Lamborghini Dinamica Veicolo Integrata หรือ Lamborghini Integrated Vehicle Dynamics (LDVI) ที่ใส่มาให้กับ Huracán EVO ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งช่วยให้ Supercar คันนี้ แรงและเร็วตามใจสั่ง แถมยังแสนฉลาดเรียนรู้ได้อย่างตรงใจกับผู้ขับขี่อีกด้วย
Huracán EVO มาพร้อมระบบเลี้ยว 4 ล้อและระบบกระจายแรงบิด ซึ่งถูกควบคุมด้วยสมองกลส่วนกลางอย่างระบบ LDVI ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ให้กับ Huracan EVO โดยระบบจะประมวลผลจากระบบการขับขี่ต่างๆ ของตัวรถและคาดการณ์การเคลื่อนไหวต่อไป
เพื่อการตอบสนองตามความต้องการของผู้ขับขี่ในทุกๆ สถานการณ์ ส่งผลให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้อย่างสมบูรณ์แบบและรีดสมรรถนะของรถได้อย่างสูงสุด แต่ยังคงไว้ซึ่งความปลอดภัยทั้งในสนามแข่งขันหรือการใช้งานบนถนนในชีวิตประจำวัน
Lamborghini Inertial Platform (LPI) 2.0 คือระบบเซ็นเซอร์ที่ถูกติดตั้งไว้บริเวณจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถ ซึ่งได้รับการพัฒนาให้มีความแม่นยำแบบ Real Time ในการตรวจจับการเคลื่อนไหวของตัวรถในทิศทาง แนวข้าง แนวยาว และแนวตั้ง
โดยทำงานร่วมกับระบบช่วงล่างแบบ Magneto Rheological ที่ถูกปรับแต่งให้เป็นเวอร์ชัน 2.0 ด้วยการปรับแต่งให้ตอบสนองตามการทำงานของระบบ LPI ระบบป้องกันการลื่นไหลเเบบใหม่ ส่งผลให้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เเละระบบกระจายแรงบิดสามารถส่งกำลังไปที่ล้อใดล้อหนึ่งได้เมื่อต้องการ
Lamborghini Dynamic Steering (LDS) ถูกพัฒนาใหม่เพื่อการตอบสนองที่ดีขึ้นเมื่อขับขี่แบบสปอร์ตและยังช่วยให้การขับขี่ในเมืองใช้วงเลี้ยวที่แคบลงอีกด้วย โดยทำงานพร้อมกับระบบเลี้ยวล้อหลัง เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในความเร็วต่ำและเสถียรภาพสูงสุดเวลาเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง รวมถึงการควบคุมรถที่ง่ายขึ้นเมื่อมีเหตุการณ์การเบรกฉุกเฉิน
การสื่อสารข้อมูลของทุกระบบเพื่อให้ได้การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบนั้นจะถูกสั่งการผ่านระบบ LDVI ช่วยให้ตัวรถมีการเคลื่อนไหวที่คล่องตัวและสามารถตอบสนองตวามความต้องการของผู้ขับขี่
ด้วยการประมวลผลข้อมูลแบบ Real Time ตัวรถสามารถรับรู้ได้ถึงความต้องการของผู้ขับขี่ผ่านพวงมาลัย เบรก คันเร่ง รวมไปถึงตำแหน่งเกียร์และโหมดการขับขี่ (ANIMA) ทั้ง 3 โหมดอย่าง STRADA, SPORT และ CORSA
สภาพพื้นผิวของถนนถูกวิเคราะห์ด้วยการรับแรงกระแทกของระบบช่วงล่างและระดับการยึดเกาะของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกวิเคราะห์และประมวลผลโดยระบบ LDVI
ซึ่งทำให้รถพร้อมตอบสนองในทุกสถานการณ์ Lamborghini ได้นำหลักการ ‘Feed Forward Logic’ มาใช้ ซึ่งหมายความว่าตัวรถนั้นไม่ได้ตอบสนองเมื่อเกิดอาการต่างๆ แต่จะเป็นการคาดการณ์และเตรียมพร้อมล่วงหน้าตามความต้องการของผู้ขับขี่
ในโหมด STRADA นั้น Huracán EVO จะมอบความรู้สึกที่คล่องตัวและการขับขี่ที่เพลิดเพลิน ในขณะที่โหมด SPORT นั้นจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างชัดเจน และในโหมด CORSA Huracán EVO จะตอบสนองต่อคำสั่งของผู้ขับขี่อย่างเฉียบคม สำหรับการขับขี่ขั้นขีดสุดเช่นการขับขี่ในสนามแข่ง
Huracán EVO จึงไม่ใช่ Supercar ที่ราคาแพงระยับ ที่ผู้ครอบครองจะได้เพียงเครื่องยนต์ทรงพลังและประสิทธิภาพอันร้อนแรงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเทคโนโลยีขั้นเทพอย่าง LDVI ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ตามที่ใจต้องการ
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง