โรงพยาบาลนครธน มุ่งการเติบโตในปีนี้ด้วยการเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง เน้นการลงทุนด้านเครื่องมือ พัฒนาบริการ และเพิ่มกลุ่มเป้าหมายต่างประเทศ ตั้งเป้าเพิ่มอัตราการเติบโตของรายได้ในปี 2562 ให้สูงขึ้น 12% และก้าวสู่มาตรฐานสากลเพื่อผ่านการรับรองจาก JCI ในปี 2563
พร้อมเพิ่มสมาชิกบัตร นครธน แฟมิลี่ คลับเน้นกลุ่มเป้าหมายที่พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียงโรงพยาบาลเป็นหลัก คาดครึ่งปีแรกจะมีผู้สมัครสมาชิกเพิ่มขึ้นจำนวน 5,000 ราย และมีรายรับเติบโตขึ้น 10% จากปี 2561
ปัจจุบันโรงพยาบาลนครธนมีศูนย์แพทย์เฉพาะทางมากกว่า 20 ศูนย์ โดยในปี 2562 นี้จะเน้นศูนย์สมองและระบบประสาท ให้บริการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคอย่างครบวงจร
โดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและทีมสหสาขาวิชาชีพ มีเทคโนโลยีตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่อง MRI และ CT SCAN สามารถเห็นต้นเหตุของโรคได้อย่างชัดเจน อีกทั้งมีการบำบัดและฟื้นฟูความผิดปกติของระบบประสาทและสมอง โดยนักกายภาพบำบัดเฉพาะด้าน
นอกจากนี้ยังมีการฟื้นฟูสมองด้วยเทคโนโลยีเครื่อง TMS สำหรับรักษาผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต ภาวะสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ ซึ่งมีความสำคัญในการเสริมให้ศูนย์สมองและระบบประสาทเป็นศูนย์ที่มีความเชี่ยวชาญแบบเฉพาะเจาะลึกมากยิ่งขึ้น
และยังมีการลากลิ่มเลือดในหลอดเลือดสมอง เพื่อรักษาโรคลิ่มเลือดอุดตันในสมอง ซึ่งในปัจจุบันการรักษาวิธีนี้ มีเฉพาะในโรงพยาบาลที่มีความพร้อมทางด้านเทคโนโลยีและทีมแพทย์เฉพาะทาง (Neuro Intervention) และจำเป็นต้องรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้น
ศูนย์กระดูกและข้อ ตรวจวินิจฉัยและรักษาปัญหาเฉพาะด้านกระดูกและข้อ ภาวะกระดูกพรุน การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมด้วยเทคนิคการผ่าตัดแบบแผลเล็ก ผ่าตัดข้อผ่านกล้อง และผ่าตัดเอ็นข้อเข่า ไหล่ ผิวกระดูกอ่อน
ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติเร็วกว่าการผ่าตัดแบบเดิม ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ ตรวจวินิจฉัยและรักษาครบวงจรแบบ One Stop Service สำหรับผู้ที่มีปัญหาระบบทางเดินอาหารและตับ โดยทีมแพทย์และทีมแพทย์สหสาขาที่มีความชำนาญการในการรักษาเฉพาะทาง
พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้การวินิจฉัยและการรักษาเป็นไปอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีการผ่าตัดแบบแผลเล็กผ่านกล้อง ทำให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กเพียง 1-2 เซนติเมตร ซึ่งเป็นการผ่าตัดที่มีผลกระทบต่อเนื้อเยื่อและอวัยวะภายในน้อยที่สุด
“เทคโนโลยีทางการแพทย์ร่วมกับความชำนาญของทีมแพทย์เฉพาะทาง ทำให้รู้สึกเจ็บปวดน้อย ฟื้นตัวได้เร็ว ลดภาวะการติดเชื้อ และสามารถกลับไปใช้ชีวิต ตามปกติได้เร็วขึ้น จะเห็นได้ว่าร่างกายของคนเราประกอบไปด้วยระบบหลายอย่าง
ดังนั้นการเลือกโรงพยาบาลเฉพาะทาง ที่สามารถดูแลสุขภาพได้แบบเจาะลึก และมีความเชี่ยวชาญในการดูแลได้อย่างครอบคลุมในทุกระบบของร่างกาย จึงตรงกับคำนิยามว่าการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมมากที่สุด”
นางสาวเพ็ญศิริ ทองสิมา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ โรงพยาบาลนครธน กล่าวว่า สำหรับการดำเนินธุรกิจในปีนี้ โรงพยาบาลได้วางแผนการดำเนินงานเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1. ด้านการลงทุน มีการซื้อเครื่องมือแพทย์ต่าง ๆ เพิ่มขึ้น
เพื่อพัฒนาและเสริมศักยภาพในด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์เฉพาะทางของศูนย์ต่าง ๆ ให้มีการรักษาในระดับมาตรฐานสากล อาทิ TMS เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ใช้ฟื้นฟูภาวะสมองเสื่อม MIS 3D เครื่องผ่าตัดแผลเล็กด้วยกล้อง 3 มิติ และ Hysteroscope เครื่องตรวจโพรงมดลูกด้วยการส่องกล้อง เป็นต้น
และมีการลงทุนในการปรับปรุง ขยายพื้นที่การให้บริการ เพื่อรองรับจำนวนผู้ใช้บริการที่มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา รวมถึงพื้นที่รับผู้ป่วยนอก (OPD) ของทุกศูนย์เฉพาะทาง และพื้นที่ห้องพักผู้ป่วยใน (IPD) ลำดับต่อไป
- การพัฒนาการบริการ โดยยึดถือหลักการบริการด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ Humanized Healthcare วัฒนธรรมการบริการที่เป็นเอกลักษณ์ของโรงพยาบาลนครธน ร่วมกับกำหนดนโยบายมาตรฐานการบริการด้วยหลัก SBE : Service Beyond Excellence ในทุกระดับของการบริการ มุ่งหวังให้ผู้เข้ารับบริการเกิดความพึงพอใจและประทับใจกับมาตรฐานการบริการดีเลิศที่เรามอบให้
3. ด้านแผนงานการตลาดประจำปี 2562 โดยเพิ่มกลุ่มเป้าหมายต่างประเทศ เช่น พม่า จีน กัมพูชา โดยในส่วนตลาดต่างประเทศนั้น โรงพยาบาลนครธนมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2561 ในช่วงเวลาเดียวกันกว่าเท่าตัว
โดยทางการตลาดนั้นมุ่งเน้นการขยาย Brand Awareness ในตลาด CLMV และจีน ในการรักษาเฉพาะทางที่เป็นความต้องการของแต่ละกลุ่มตลาด โดยเฉพาะในพม่าที่ทางโรงพยาบาลได้ทำการตลาดมาอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งการสร้าง Community ชาวต่างชาติในฝั่งธนบุรี ผ่านทางกิจกรรมต่าง ๆ และการโปรโมท นครธน แฟมิลี่คลับ เพื่อให้เป็นโรงพยาบาลในใจของชาวต่างชาติ
ส่วนกิจกรรมการตลาดในกลุ่มเป้าหมายของประเทศนั้น ในปี 2561 ที่ผ่านมาโรงพยาบาลนครธนได้มีการเปิดตัวบัตรสมาชิกนครธน แฟมิลี่ คลับ ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย จึงยังคงดำเนินการโครงการนี้อย่างต่อเนื่องในเขตกลุ่มเป้าหมายที่พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียงโรงพยาบาลเป็นหลัก ซึ่งคาดว่าจะมีผู้สมัครสมาชิกเพิ่มขึ้นจำนวน 5,000 รายในครึ่งปีแรก
และมีรายรับเติบโตขึ้น 10% จากปี 2561 โดยมีแผนการจัดกิจกรรมโรดโชว์ เพื่อประชาสัมพันธ์การรับสมัครบัตรสมาชิกในแหล่งชุมชนเป้าหมาย พร้อมทั้งจัดกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มสมาชิกบัตรนครธน แฟมิลี่ คลับ
รวมถึงการสื่อสารทางการตลาดออนไลน์อย่างครบวงจร ด้วยกลยุทธ์การพัฒนาการสื่อสารแบบเชื่อมโยงเครือข่ายขององค์กรเป็นหนึ่งเดียวกัน ได้แก่ Website, Facebook, Line@ และ Youtube Chanel เพื่อประสิทธิภาพในการสื่อสารให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง