10 ผลงานเด่น กระทรวงดิจิทัลฯ 4 ปีในมือ “รมต.พิเชฐ”

10 ผลงานเด่น กระทรวงดิจิทัลฯ 4 ปีในมือ “รมต.พิเชฐ”

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเผย 10 ผลงานเด่น ของกระทรวงตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ชูเน็ตประชารัฐเป็นผลงานโดดเด่นที่สุดพร้อมอีกหลากหลายโครงการที่จะช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่เศรษฐกิจและสังคมยุคใหม่ พร้อมผลักดันและออกกฎหมายอีกหลายฉบับ พร้อมฝากให้ รมต.คนใหม่สานต่อนโยบาย พัฒนาคน-การลงทุน

นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า การดำเนินงานของของกระทรวงดิจิทัลฯ ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมานับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยเป็นผลจากความมุ่งมั่นของหน่วยงานในสังกัด ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการสำคัญที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศและประชาชนจนเกิดเป็นโครงการที่โดดเด่นถึง 10 โครงการ

นอกจากนี้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ผลักดันและออกกฎหมายการจัดตั้งสำนักงานไซเบอร์หรือสำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สร้างระบบการดูแลมาตรฐานภาครัฐ ระบบทางด้าน IoT ระบบดาวเทียมในอนาคต รวมการจัดทำแผนแม่บทดิจิทัลของอาเซียน และการสร้างแพลตฟอร์ม ฝึกอบรมทรัพยากรมนุษย์ทางด้านไซเบอร์ ซึ่งจะช่วยหนุนเสริมเป้าหมายไปสู่ความสำเร็จของการพัฒนาดิจิทัลไทยแลนด์

โดย 10 โครงการเด่นเริ่มตั้งแต่ 1. โครงการเน็ตประชารัฐ ซึ่งกระทรวงฯ ได้มอบหมายให้ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT ดำเนินการ ได้ขยายโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไปยัง 24,700 หมู่บ้าน รองรับการใช้งานของประชาชน 5.53 ล้านคน และยังเป็นฐานต่อยอดไปสู่การพัฒนาศักยภาพคนทั่วประเทศในการเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างทั่วถึงเท่าเทียม

2.โครงการ Digital Startup & Digital Transformation ของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) พัฒนาระบบเศรษฐกิจดิจิทัลแบบก้าวกระโดด คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ 2,900 ล้านบาท และกระตุ้นให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจและบริการ รวมถึงเกษตรกรรม โดยผลการดำเนินการใน 4 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดเป็นมูลค่าการลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัล กว่า 45,000 ล้านบาท

3.โครงการดิจิทัลชุมชนด้าน E-Commerce บูรณาการใช้ประโยชน์จากเน็ตประชารัฐ สู่การขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนต่างๆ ผ่านระบบบริหารร้านค้าปลีกสำหรับชุมชน “Point of Sale ( POS)” และเว็บไซต์ Thailandpostmart.com ปัจจุบันมีผู้ขึ้นทะเบียนจำหน่ายสินค้าในระบบ POS แล้ว 900 ราย จำนวนสินค้า 1,700 รายการ สร้างรายได้ให้ชุมชนประมาณ 20 ล้านบาท

4.โครงการใช้ประโยชน์จาก Big Data เพื่อสร้างสังคมดิจิทัล 5.โครงการสำรวจผู้มีรายได้น้อยของสำนักงานสถิติแห่งชาติ โดยนำข้อมูลผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ประมาณ 2.9 ล้านคน มาเชื่อมโยงกับข้อมูลสำมะโนเกษตร

เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลสถานะของเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย 6.โครงการใช้ข้อมูลบิ๊กดาต้าเพื่อการเตือนภัย โดยเปิดให้คนทั่วไปเข้าถึงข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่เกิดจากการบูรณาการข้อมูลของภาครัฐ ซึ่งระบบนี้ทำให้ประชาชนทั่วประเทศกว่า 67 ล้านคน ได้รับข้อมูลข่าวสาร และการเตือนภัย

7.โครงการ Digital Park Thailand และ 8.โครงการ IoT and Digital Innovation Institute ของ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT และดีป้า ซึ่งทั้ง 2 โครงการนี้เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เพื่อรองรับระบบเศรษฐกิจดิจิทัล

9.โครงการ ASEAN Digital Agility เน้นการพัฒนา 5 ด้านได้แก่ Cyber Security, Smart City, Connectivity and Mobility, Harmonization and Alignment และ Manpower & Society

และ 10.โครงการเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ปี 2562 จะนำร่องเพิ่มเติมเป็นไม่ต่ำกว่า 24 เมือง จากปีก่อนได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานนำร่องเมืองอัจฉริยะ 7 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต ขอนแก่น เชียงใหม่ กรุงเทพฯ และในพื้นที่อีอีซี 3 จังหวัด คือ ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ซึ่งทั้ง 2 โครงการนี้นับเป็นการพัฒนาระบบนิเวศน์ของเศรษฐกิจดิจิทัลทั้งในประเทศ และระดับอาเซียน

นายพิเชฐ กล่าวว่า ทั้งนี้ขอฝากภารกิจว่าที่รัฐมนตรีคนใหม่ให้ช่วยสานต่อการทำงานขั้นต่อไป เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ความเชื่อของพันธมิตรองค์กรทั้งในและต่างประเทศอยู่ในระดับที่สูง ทั้งการสานต่อโครงการใหญ่ ความต่อเนื่องในการสร้างบุคลากรเพิ่มทั้ง 3 ระดับ

คือ ทักษะใหม่ยกระดับทักษะ และการปรับทักษะด้านดจิทัล ความต่อเนื่องในการลงทุนด้านดิจิทัลโดยเฉพาะในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และความต่อเนื่องในการให้ประชาชนฐานรากใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานในการสื่อสารที่มีในการทำมาหากินและการพัฒนาคุณภาพชีวิต

“รัฐบาลนี้มีเครื่องมือทางนโยบายเตรียมไว้ให้พร้อมแล้วทั้งกฎหมาย มาตรฐาน โครงสร้างพื้นฐานและนโยบาย ระดับของความก้าวหน้าที่ประเทศไทยได้ดำเนินการในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา ได้สร้างความเชื่อมั่นได้มากพอจึงไม่ควรละทิ้งโอกาสนี้ ขอฝากให้รักษาความต่อเนื่องทั้งกับนักการเมืองที่จะเข้ามาบริหารกระทรวง และขอฝากถึงข้าราชการและเอกชนที่จะร่วมมือกันเดินหน้าพัฒนาต่อไป”

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)

Related Posts