System Stone รับเงินลงทุนจาก Expara Thailand

System Stone รับเงินลงทุนจาก Expara Thailand

System Stone สตาร์ทอัพดีแทคแอคเซอเลอเรท batch 7 รับเงินลงทุนจาก Expara Thailand บริษัท VC ชั้นนำของอาเซียน ผู้บริหารกองทุน SMEs Private Equity Trust Fund โดยธนาคารออมสินกองที่ 2 โดยการเข้าลงทุนในครั้งนี้เพื่อขยายตลาด ลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาโซลูชันด้าน Internet of Things สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม รวมไปถึงการยอดขายและก้าวขึ้นสู่ผู้ให้บริการระบบบริหารจัดการงานซ่อมบำรุงเบอร์หนึ่งของประเทศไทย พร้อมเข้าสู่การขยายตลาดสู่ต่างประเทศในปีหน้า

นายสิทธิกร นวลรอด ประธานบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง System Stone (ซิสเต็มส์สโตน) กล่าวว่า การเข้าลงทุนจาก Expara Thailand จะช่วยในเรื่องของการขยายตลาดโดยในปีนี้มีแผนเพิ่มฐานลูกค้าอีก 100 โรงงานผ่านดีลเลอร์ที่มีอยู่ 7 ราย และผ่านการสนับสนุนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันบริษัทเน้นการเจาะกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม และชิ้นส่วนยานยนต์เป็นหลัก มีลูกค้าในกลุ่มของบริษัทยักษ์ใหญ่อาทิ CPF, Kubota, Mettler Toledo, Oishi, Yokogawa, PFP, Dow (Thailand) และอีกกว่า 50 องค์กร

นอกจากนี้ยังจะนำมาทำการจัดกิจกรรมทางการตลาดและการเพิ่มดีลเลอร์และพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในกลุ่มต่างๆ รวมไปถึงจะมีการเปิดตัวสินค้าและบริการด้าน Industrial Internet of Things ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาเครื่องจักรไปอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งจะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของบริษัทไปสู่ผู้นำด้านเทคโนโลยีการบริหารจัดการงานซ่อมบำรุงเครื่องจักรในระดับประเทศและระดับอาเซียนต่อไป

“ซิสเต็มส์สโตนเติบโตขึ้นในช่วงที่อุตสาหกรรมทั่วโลกต่างมองหาโซลูชันที่จะเข้ามาช่วยสร้างความแตกต่างและความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเรามีความเชี่ยวชาญการพัฒนา Mobile Application Platform ที่ถูกออกแบบให้เข้าไปช่วยสนับสนุนให้วิศวกรและผู้ปฏิบัติงานในโรงงานสามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะด้านการซ่อมบำรุงเครื่องจักรได้อย่างรวดเร็วและคล่องตัวขึ้น เสริมศักยภาพในการทำงาน ยกระดับโรงงานอุตสาหกรรมไปสู่ยุค Digital Workforces ได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดทั้งต้นทุนและเวลา และเมื่อเราสามารถอัพเกรดภาคอุตสาหกรรมไปสู่ Digital Factory ได้แล้ว การเชื่อมโยงและสร้าง Ecosystem ร่วมกันก็สามารถเกิดขึ้นได้ในอนาคต”

นายอนิกซ์ ลินซ์ พาร์ทเนอร์ บริษัท Expara ผู้จัดการกองทรัสต์ของ SMEs Private Equity Trust Fund โดยธนาคารออมสินกองที่ 2 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารออมสินและตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า การร่วมลงทุนใน ซิสเต็มส์สโตน เนื่องจากมองเห็นว่าสตาร์ทอัพบริษัทนี้มีแผนในการปฏิวัติภาคอุตสาหกรรมด้วยการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานในแพคเกจราคาที่เข้าถึงได้ ประกอบกับกลุ่มผู้ก่อตั้งซึ่งมีความมุ่งหมายที่จะพัฒนาเทคโนโลยีไปสู่การซ่อมบำรุงในระดับของการคาดการณ์ ( Predictive Maintenance ) ซึ่งจำเป็นจะต้องใช้การประมวลผลข้อมูลจำนวนมากร่วมกับระบบตรวจวัดหรือเซนเซอร์ Internet of Things

“ซิสเต็มสโตนสามารถแก้ปัญหาความกังวลในเรื่องของการลดต้นทุนการดูแลรักษาและการเพิ่มอายุการใช้งานของอุปกรณ์ เครื่องจักรที่กำลังเกิดขึ้นในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ ด้วยซอฟแวร์ที่จะช่วยลดระยะเวลาเสียของเครื่องจักร ลดต้นทุนการดำเนินการและต้นทุนการซ่อมบำรุง ตัวอย่างเช่นระบบ IoT ที่จะช่วยลดความผิดพลาดของคน ช่วยป้องกันการ Breakdown ของเครื่องจักรได้ดีกว่าถึง 40-50% และช่วยลดการลงทุนในอุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องจักรได้อีกกว่า 4-5% เราเชื่อว่านี่จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของภาคอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศไทย และด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ทั้งในวงการไอทีและแวดวงอุตสาหกรรม จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเห็นได้จากฐานลูกค้าจำนวนมากในปัจจุบัน”

ด้าน นายสมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ ดีแทค แอคเซอเลอเรท กล่าวว่า ซิสเต็มสโตน เป็นสตาร์ทอัพสาย Industrial Tech เฉพาะกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่เข้าไม่ถึงคนหมู่มาก แต่มีเม็ดเงินในอุตสาหกรรมนี้เยอะมาก มีตัวเลขประมาณการออกมาเป็นหลักแสนล้านบาทต่อปี และยังเป็นอุตสาหกรรมที่ยังไม่ค่อยมีสตาร์ทอัพเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาเหมือนอุตสาหกรรมอื่นๆ ประกอบกับซีอีโอและผู้ก่อตั้งของ ซิสเต็มสโตน เป็น domain expert หรือผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้ มีประสบการณ์ในการทำงานในอุตสาหกรรมนี้มาไม่ต่ำกว่า 11 ปี ทราบถึงปัญหาในเบื้องลึกและมองเห็นโอกาสและช่องทางที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้กับเจ้าของโรงงานได้อย่างมหาศาล ซิสเต็มสโตน ยังมีโอกาสทางการตลาดในกลุ่มลูกค้า อีกกว่า 90% ของโรงงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีมากกว่า 400,000 โรงงาน ดีลการลงทุนในครั้งนี้จะช่วยให้ ซิสเต็มสโตน ดำเนินธุรกิจบรรลุเป้าหมายไปได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

Related Posts