ทดลองขับ ‘นิสสันเทียน่าใหม่’ ยังน่าใช้หรือข้ามไป SUV ดีกว่า

ทดลองขับ ‘นิสสันเทียน่าใหม่’ ยังน่าใช้หรือข้ามไป SUV ดีกว่า

ในช่วงเปิดตัว นิสสันเทียน่า นับเป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางที่ให้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาให้อย่างมาก และมากกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน เพียงแต่ที่ผ่านมาเมื่อ 3-4 ปีก่อนคนไทยอาจจะยังไม่คุ้นกับการมีเทคโนโลยีมากมาย จึงไม่ได้เน้นการซื้อรถที่จะค่อนข้างไฮเทคเท่าใดนัก

ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วตัวช่วยเหลือเหล่านี้นับว่ามีความจำเป็น เพราะนอกจากจะช่วยสร้างความสะดวกสบายได้มากขึ้นแล้ว ยังช่วยรักษาชีวิตและยกระดับความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารให้สูงขึ้นอีกด้วย และที่สำคัญระบบทันสมัยต่างๆ นั้น ทางนิสสันให้มาตั้งแต่ตัวเริ่มต้นกันเลยทีเดียว

นิสสันเทียน่า 2.5 XV Navi รุ่นท็อปที่ Thereporter.asia ได้หยิบยืมมาทดสอบกันครั้งนี้ ไม่ได้เพียงอย่างรู้แค่ว่าเทคโนโลยีที่ใส่มาให้นั้นมีดีแค่ไหน แต่อยากรู้ว่าสมรรถนะรถทั้งคันเป็นอย่างไร และเก๋งขนาดกลางรุ่นนี้ยังจะมีความน่าสนใจอยู่หรือไม่ เมื่อเทียบกับรถเอสยูวีและพีพีวีที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

นิสสันเทียน่า

การปรับโฉมนิสสันเทียน่าครั้งล่าสุด เรียกได้ว่าเป็นการ Facelift ใหม่ที่ดูกระชับมากขึ้น กระจังหน้าใหม่แบบ V- motion สไตล์สปอร์ต ช่วยดึงหน้าเด็กลงกว่าเดิมและกลมกลืนไปทั้งคัน แม้ใครจะมองว่าเหมือนซิลฟี่ขยายตัว แต่หากดูสัดส่วนโดยรวมๆ แล้ว รุ่นพี่ขนาดกลางคันนี้ลงตัวมากกว่า

เส้นสายตั้งแต่หน้าจรดท้ายมีความสมบูรณ์แบบมากกว่า แม้จะยังไม่มีรุ่นเปลี่ยนโฉมให้เห็นแต่ถ้าเทียบกันตัวต่อตัวกับคู่แข่งเก๋งแบรนด์ญี่ปุ่นในระดับเดียวกันแล้ว แม้จะไม่สดใหม่ แต่ก็สวยและกลมกลืนในแบบอนุรักษ์นิยม ไม่ได้สะดุดตาแค่บางมุมแต่ไม่ลงตัวเหมือนคู่แข่ง

ความยาวตลอดคัน 4,875 มิลลิเมตร กว้าง 1,830 มิลลิเมตร สูง 1,485 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,775 มิลลิเมตร ให้ความสะดวกสบายได้อย่างมาก เพราะจะได้ห้องโดยสารที่ใหญ่โต การเข้าออกเบาะนั่งทั้งด้านหน้าด้านหลังทำได้อย่างสะดวก

นิสสันเทียน่า

และไม่ต้องแปลกใจถ้าเมื่อดับเครื่องยนต์แล้วเบาะจะเลื่อนถอยหลัง และจะเลื่อนมาอยู่ในตำแหน่งขับเมื่อเราเริ่มสตาร์ทรถกันใหม่ เพราะนิสสันมีระบบ Welcome Seat มาให้สร้างความสบายเวลาเข้าออกจากรถได้มากกว่า

เบาะนั่งฝั่งคนขับแม้จะไม่ได้โอบกระชับ แต่ก็มีความสบายได้มากรองรับสรีระร่างกายได้เป็นอย่างดี มีการออกแบบให้รองรับกับแนวกระดูกสันหลังและจุดกดทับต่างๆ ได้อย่างพอดี การปรับด้วยสวิชต์ไฟฟ้า 8 ทิศทาง ช่วยให้เดินทางไกลไม่เมื่อยล้า แถมยังมีระบบความจำตำแหน่งคนขับ 2 ตำแหน่งทำให้แม้จะเปลี่ยนคนขับก็ไม่ต้องปรับกันบ่อย

นิสสันเทียน่า

เช่นเดียวกับเบาะนั่งข้างคนขับที่ให้ความสบายไม่แพ้กัน แต่จะปรับได้น้อยกว่าแค่ 4 ทิศทาง ส่วนเบาะนั่งแถวหลังที่ให้ความสบายทั้งการวางขาการปรับเอนของเบาะ ช่วยให้การเดินทางมีความสุนทรีย์ แถมยังมีช่องแอร์ด้านหลังให้เย็นกันแบบส่วนตัวอีก (แม้จะปรับอุณหภูมิไม่ได้)

เครื่องยนต์ QR25DE 4 สูบ 16 วาล์ว 2,488 ซีซี 173 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 234 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงเต็มสมรรถนะ ผสานการทำงานกับระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin-CVTC (Twin Continuously Variable-Valve Timing Control) ที่จะควบคุมการเปิดและปิดของวาล์วไอดีและไอเสียให้ทำงานสัมพันธ์กัน

จากการขับขี่ต้องบอกเลยว่าสำหรับคนที่ชอบพลังจากเครื่องยนต์ล้วนๆ ไม่ต้องถึงตัวช่วยอย่างเทอร์โบ น่าจะหลงไหลสมรรถนะของนิสสันคันนี้เลยทีเดียว เพราะเมื่อกดคันเร่งแล้วพละกำลังพร้อมที่จะพาให้รถยนต์และคุณพุ่งทะยานไปด้วยความนุ่มนวลไม่จี๊ดจ๊าด แต่ความเร็วยังขึ้นอย่างต่อเนื่องแบบผู้ดี ไม่กระชากกระชั้น

แรงม้าขยันขันแข็งช่วยให้ทั้งการเร่งเครื่อง การเร่งแซง เป็นไปได้อย่างสบายไม่ต้องลุ้น โดยมีโหมดการขับขี่ให้ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมดการขับขี่ทั่วไป โหมดการขับขี่แบบประหยัด (Eco Mode) และโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) ทั้ง 3 โหมดก็จะให้อารมณ์ที่ต่างกันไป

 

นิสสันเทียน่า

ทั้งนี้แม้จะตั้งไว้ในโหมด ECO ก็ไม่ได้ทำให้ความกระฉับกระเฉงลดลงเลย คันเร่งจะหน่วงๆ ขึ้นนิดหน่อย แต่รับประกันว่าสมรรถนะยังมาเต็มเหมือนเดิม ไม่เสียชื่อเครื่องยนต์ระดับ 2,500 ซีซี แถมเข็มของเกจ์วัดน้ำมันลงช้ากว่าอย่างเห็นได้ชัด (ต่างจากไฮบริดบางค่ายที่หากแบตเตอรี่หมดแรงแล้ว เครื่องยนต์ที่ให้มา 2,500 ซีซี จะทำงานได้แบบไม่สมศักดิ์ศรี และโดนเครื่องยนต์ 2,000 ซีซีฉีกแซงไปแบบไม่ไว้หน้า)

ซึ่งในการทดสอบครั้งนี้จะไม่ได้ทดลองโหมดสปอร์ตเพราะแค่การขับขี่ในโหมดทั่วไปก็สร้างความพึงพอใจอย่างเพียงพอแล้ว ส่วนการประหยัดน้ำมันนั้นก็เรียกได้ว่าสมน้ำสมเนื้อกับเครื่องยนต์ ถ้าเหยียบมากก็กินมากหน่อย เหยียบน้อยก็กินน้อยหน่อย แต่ถ้าขับแบบพอดีๆ จะประหยัดจนน่าประทับใจ

ด้วยเทคโนโลยีกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลงและ Rebound Spring ช่วยลดการสั่นสะเทือนของที่นั่งในห้องโดยสาร ส่วนด้านหลัง MULTI-LINK SUSPENSION พร้อมเหล็กกันโคลง ทำให้การขับขี่นิสสันเทียน่าคันนี้สบายมาก นุ่มแน่น ไม่โยนไม่เหวี่ยงแม้จะเปลี่ยนเลนกระทันหัน หรือจะซอกซอนไปมาตามการจรากรก็ทำได้ง่าย

นิสสันเทียน่า

พวงมาลัยบังคับทิศทางได้ง่าย การขับในย่านความเร็วสูงระดับ 150 กิโลมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป รถยังให้สเถียรภาพการทรงตัวที่ดีมาก รวมถึงการเดินทางไกลให้ความสบายได้มากจากความนุ่มของช่วงล่างที่ดูดซับแรงสะเทือนได้ดี ไม่กระเด้งกระดอน และกลายเป็นเสน่ห์ที่สุดของรถคันนี้เป็นรถญี่ปุ่นที่นุ่มและหนึบเหนือกว่าคู่แข่งจริงๆ

ทางด้านระบบเบรกมาพร้อมดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ คู่หน้า มีรูระบายความร้อนมาให้ ติดตั้งระบบป้องกันล้อล็อค ABS (Anti-lock Braking System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรค EBD (Electronic Brakeforce Distribution) และระบบเสริมแรงเบรคฉุกเฉิน Brake Assist โดยภาพรวมทั้งหมดให้การเบรคที่มั่นใจได้ในทุกย่านความเร็ว

มาถึงด้านเทคโนโลยีกันบ้าง เทียน่า 2.5 XV Navi คันนี้ก็ให้มาให้เพียบ แม้จะมีบางอย่างที่คู่แข่งอาจจะล้ำกว่านิดหน่อย แต่ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับราคาค่าตัว เริ่มตั้งแต่จุดขายหลัก INTELLIGENT AROUND VIEW MONITOR (IAVM) เทคโนโลยีที่จะช่วยให้เห็นได้อย่างรอบทิศทาง

นิสสันเทียน่า

โดยกล้อง 4 จุดรอบคันจะจับภาพขณะเคลื่อนไหวจริง และแสดงภาพจากมุมสูงผ่านหน้าจอทัชสกรีนบริเวณคอนโซลกลาง จะทำงานร่วมกับเซนเซอร์หน้าและหลังช่วยให้การจอดรถทำได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

ส่วนที่ชอบมากมายน่าจะเป็นปุ่ม CAMERA ที่เมื่อเรากดแล้ว กล้องจะแสดงให้เห็นภาพด้านหน้าในมุมที่เรามองไม่เห็น ด้วยมุมมองนี้เองที่จะทำให้การเลี้ยวหน้ารถไปในที่แคบทำได้สบายขึ้น ไม่ต้องกลัวจะไปเฉี่ยวกับขอบทางหรือมุมอับ และระหว่างการถอยเข้าจอดเมื่อเราเข้าเกียร์ตำแหน่งเดินหน้าเพื่อขยับให้ชิด

กล้องจะเปลี่ยนจากมุมมองด้านหลังเป็นมุมมองด้านหน้า และถ้าไม่แน่ใจว่าจอดชิดขอบทางเท้าพอดีหรือยัง ก็สามารถกดปุ่ม CAMERA บริเวณหน้าจอเพื่อเปลี่ยนมุมมองได้ โดยหน้าจอจะแสดงภาพข้างตัวรถฝั่งผู้โดยสารให้เห็นอีกด้วย เหมาะจริงจังกับที่แคบในตึกต่างๆ

นอกจากนี้ยังมีระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning) ที่จะช่วยเตือนในเวลาที่รถคันอื่นขับมาอยู่ใกล้ในมุมที่เรามองไม่เห็น ซึ่งหากเราจะเปลี่ยนเลนไปในทิศทางนั้นระบบจะส่งสัญญาณพร้อมไฟกระพริบเตือน เช่นเดียวกับระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบรถ (Moving Object Detection)

นิสสันเทียน่า

ซึ่งจะคอยบอกเวลาที่มีวัตถุหรือบุคคลเคลื่อนไหวอยู่รอบรถ โดยระบบนี้จะสามารถปิดเสียงได้ เพราะถ้าขับในเมืองอาจจะส่งเสียงบ่อยครั้งในเวลาที่บรรดามอเตอร์ไซต์ซอกแซกเข้ามาใกล้รถเรามากจนเกินไป

พีคขึ้นอีกกับการสร้างความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้นคือระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง ATC (Active Trace Control) ซึ่งจะช่วยป้องกันการหลุดโค้ง โดยเทคโนโลยีนี้จะส่งแรงเบรคไปชะลอด้านที่ต้องการหัวเลี้ยวหรือเข้าโค้ง เพื่อรักษาทิศทางของตัวรถให้ไปในทิศทางที่ผู้ขับขี่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นิสสันเทียน่า

นอกเหนือไปจากระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ VDC (Vehicle Dynamic Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (Traction Control System) ระบบระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist) และระบบเตือนให้รักษาตำแหน่งรถในช่องทาง (Lane Departure Warning) ที่ใครไม่มีนับว่าแย่แล้วในยุคนี้

เข้ามาดูความบันเทิงเริงใจกันบ้าง นอกเหนือจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยความปลอดภัยครบๆ แล้ว 2.5 XV Navi คันนี้ยังมาพร้อมพวงมาลัย Multi Function ที่จะควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ รวมถึงระบบแสดงข้อมูลอัจฉริยะอื่นๆ บนหน้าจอ 3 มิติขนาด 4 นิ้ว อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้เด่นชัด อาทิ การเชื่อมต่อกับระบบนำทางที่แสดงผลผ่านหน้าจอบริเวณคอนโซลกลาง

นิสสันเทียน่า

แสดงลูกศรนำทางและระยะทางก่อนถึงทางแยกข้างหน้า แสดงรายละเอียดการใช้วิทยุและการเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีความบันเทิงต่างๆ เช่น iPod และ MP3 แสดงการเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่านระบบ Bluetooth ให้ไม่พลาดทุกสายสำคัญ

นอกจากนี้ด้วย Navigation System เทคโนโลยีนำทางอัจฉริยะที่มีการแสดงเส้นทางอย่างละเอียด พร้อมไอคอนแสดงสถานที่สำคุญต่างๆ และสะดวกยิ่งขึ้นด้วยการเชื่อมต่อกับหน้าจอ 3D Display แสดงลูกศรนำทางพร้อมระยะทางข้างหน้า ซึ่งการใช้งานนั้นก็ง่ายแค่เลือกจุดหมายที่จะไปแต่อาจจะยากสักหน่อยถ้าระบุจุดแบบที่เราต้องการ แต่ที่ชอบจริงๆ คือการช่วยหาร้านอาหาร ปั้มน้ำมัน หรือแม้แต่เอทีเอ็ม มีให้เลือกมากมายเลยทีเดียว

การเก็บเสียงในห้องโดยสารนับว่าเงียบแบบน่าพึงพอใจ และเมื่อประกอบเข้ากับเครื่องเสียง BOSE PREMIUM AUDIO SYSTEM ที่มาพร้อมซับวูฟเฟอร์และลำโพง 9 จุดรอบคัน ให้เสียงที่ทรงพลังสมกับชื่อชั้นของแบรนด์เลยทีเดียว พร้อมปรับระดับเสียงตามความเร็วรถ

โดยทางเลือกเพลงมีให้พร้อมทั้งวิทยุ AM/FM พร้อม เครื่องเล่น CD / MP3 / WMA 1 แผ่น ช่องเสียบ USB และ AUX แต่เสียอย่างเดียวช่องเสียบ ช่องชาร์ตไฟต่างๆ ยังน้อยไปหน่อย เมื่อเทียบกับความต้องการ

นิสสันเทียน่า

บทสรุป นิสสันเทียน่า 2.5 XV Navi คันนี้กับราคา 1,674,000 บาท

จากที่ได้ขับไปเที่ยวน้ำตกไทรโยคจังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างทางช่วงบางเลนถนนเป็นคอนกรีตที่ไม่ค่อยเรียบนัก เป็นคลื่นลอน มีรอยต่อมากมาย แต่ช่วงล่างของเทียน่าก็สามารถพาเราผ่านไปได้ด้วยความรู้สึกนุ่มนวล ต่างจากเอสยูวีและพีพีวีหลายคันที่เคยพามาเส้นทางนี้ ที่ค่อนข้างกระโดดกระเด้งไม่รักษาอาการ

และนอกจากความนุ่มแล้วในช่วงความเร็วสูง รถยังคงให้ความนุ่มแต่หนึบ การออกตัวการเร่งแซงเป็นไปแบบเนียนๆ ค่อยๆ ขึ้นไม่กระโชกโฮกฮาก แต่เร็ว และสามารถแซงได้อย่างมั่นใจในทุกช่วงความเร็ว กดคันเร่งเมื่อไรพลังก็พร้อมจะตามไปได้ตามน้ำหนักเท้าแบบไม่ลังเล

นิสสันเทียน่า

เบาะนั่งแม้จะไม่ซัพพอร์ตช่วงลำตัวมากนักแต่ก็ให้ความนุ่มแบบพอดี การปรับเบาะไม่นานก็เข้ากับสรีระที่เราต้องการ ด้วยความที่รถไม่สูง ทำให้การขึ้นลงสะดวกสบาย เช่นเดียวกับการเชื่อมต่อกับรถก็ทำได้ง่าย ซึ่งส่วนใหญ่เราจะถนัดการใช้งานบลูทูธจึงยิ่งง่ายเข้าไปอีก การเก็บเสียงที่นับว่าดีมากแม้จะขับในย่านความเร็วสูง เช่นเดียวกับเครื่องเสียงที่ให้มาก็ให้เสียงที่ดีมาก

นิสสันเทียน่า

ถือเป็นรถที่ให้มาครบเลยทีเดียว แถมยังมีซันรูฟและม่านกระจกหลังไฟฟ้ามาเพิ่มเป็นของเล่นให้อีกด้วย ทำให้การเดินทางไกลครั้งนี้มีความสุนทรีย์มากๆ จนแทบจะรู้สึกอยากจะกลับมาขับซีดานอีกครั้งเลย แต่ถ้ากลัวว่าเครื่อง 2.5 จะใหญ่ไปก็มีรุ่นให้เลือกในออปชันเท่ากันในรุ่น 2.0 XL Navi ที่มาพร้อมราคา 1,476,000 บาท

แต่ถ้าใครรู้สึกลังเลแล้วไปมองเอสยูวีในราคาเท่ากัน เราก็อาจจะได้รถที่สูงกว่าเดินทางไปได้สมบุกสมบันกว่านิดหน่อย แต่ก็จะไม่ได้ความกว้างของตัวรถที่เทียบเท่ากัน ไม่ได้การตกแต่งที่ดูหรูหรากว่า และสำหรับคนที่ไม่ชอบความสูงเพราะรู้สึกไม่มั่นคง หรืออาจจะขึ้นลงไม่สะดวก ไม่เหมาะกับการใส่ชุดสวยๆ ไปงานสัมคมแล้วต้องปีนขึ้นปีนลงบ่อยครั้ง

นิสสันเทียน่า

 

Related Posts