เซ็นทรัล รีเทล เซ็นสัญญาเช่าคลังสินค้าเฟรเซอร์ส นาน 15 ปี ยุบรวมคลังสินค้าเก่า 5 แห่ง เนรมิตรย่านบางพลีให้เป็นคลังสินค้าอัจฉริยะใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รองรับการจัดเก็บสินค้า Omnichanel แบบอัตโนมัติยกระดับสู่คลังสินค้าเวิร์ลคลาส รับเทรนด์การเติบโตยุคดิจิทัล ตั้งเป้าส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ภายใน 1-2ชั่วโมงในอนาคต
นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน กล่าวว่า นอกจากความเชี่ยวชาญทางด้านอสังหาริมทรัพย์แล้ว เราเริ่มเข้าไปสู่ตลาดสมาร์ทโซลูชั่น และดาต้าเซ็นเตอร์โดยร่วมกับพันธมิตรในประเทศสิงคโปร์ที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งวันนี้เราก็ได้นำมาพัฒนาคลังสินค้าแห่งนี้ด้วย
โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราร่วมเซ็นต์สัญญากับพันธมิตร ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นกลยุทธ์หนึ่งของเรา ในการสร้างพลังทางด้านการแข่งขันที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้เรายังมองว่าการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะไม่ใช่เพียงแค่แท่งปูนเพียงอย่างเดียว เราต้องนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาให้อสังหาริมทรัพย์เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุด
โดยเทรนด์ของอสังหาริมทรัพย์ เริ่มมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริม ทั้งการทำงานและรูปแบบบริการที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งความยั่งยืนของอสังหาริมทรัพย์และแนวทางการประหยัดพลังงาน ก็เป็นอีกเทรนด์การพัฒนาที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต
ซึ่ง 2 เรื่องสำคัญที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกการค้าปลีกคือเรื่องของดาต้า และเทคโนโลยี เพื่อช่วยทำให้เราสามารถใช้งานดาต้าได้ ในการคิดและสร้างรูปแบบการตลาดใหม่ๆจากฐานข้อมูล Bigdata ที่มี และยังทำให้เราสามารถออกแบบตัวอาคารได้ตรงความต้องการของกลุ่มเซ็นทรัลมากที่สุด
นอกจากนี้เรายังจะเปิดศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่แบบไฮบริดคลาวด์ ในย่านรามคำแหง ซึ่งคาดว่าจะเป็นศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในเมือง และยังอัดแน่นด้วยโซลูชั่นที่พร้อมในการทำงาน ด้วยความร่วมมือของพันธมิตรเราที่สิงคโปร์
ในส่วนของคลังสินค้าแห่งใหม่ จะมีการใช้งานโรบอต เพื่อเตรียมและจัดส่งของภายในอาคารให้ถึงมือลูกค้าของเซ็นทรัลโดยเฉพาะ ด้วยหลักการของ Customer Centric เพื่อการออกแบบพื้นที่ให้ตรงความต้องการมากที่สุด อีกทั้งยังมีการออกแบบเพื่อดูแลคุณภาพชีวิตพนักงานกว่าพันคนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
เราต้องการออกแบบให้คนที่เดินเข้ามาภายในอาคารแห่งนี้แล้ว รู้สึกว่า มีบุคลิกของเซ็นทรัลอยู่ และยังสร้างความแตกต่างเพื่อรองรับการทำงานของทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะออกแบบให้เหมือนการทำงานในเมืองที่สมบูรณ์แบบแม้ว่าทำเลที่ตั้งจะอยู่ชานเมืองก็ตาม
ด้วยทำเลของที่ตั้ง ซึ่งอยู่ที่บางพลี กม.19 อันจะเป็นโลจิสติกส์ฮับที่สำคัญ โดยสามารถเข้าสู่วงแหวนรอบนอกไปสู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานโลจิสติกส์ของทุกสินค้าในเครือเซ็นทรัลทั้งหมด และการทำงานของพนักงานที่ยังต้องเดินทางเข้าสู่เมืองได้อย่างเหมาะสม
คลังสินค้า วันนี้จะไม่ใช่เพียงแค่ที่จัดเก็บสินค้าอีกต่อไป แต่จะเป็นส่วนสำคัญที่ส่งเสริมให้เกิดความต้องการซื้อสินค้าที่สะดวกรวดเร็ว สามารถออกของได้อย่างรวดเร็วทั้งคำสั่งซื้อจากหน้าร้านระบบออนไลน์ และยังตอบโจทย์การประหยัดพลังงานด้วยโซล่าร์ลูปทอป ซึ่งเราคาดว่าจะส่งมอบให้เซ็นทรัลได้ภายในปีหน้าราวเดือนสิงหาคม 2563

ด้านดร.ปิยะพงษ์ ธัญญศรีสังข์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า วันนี้เรามีคีย์หลักคือการทำ Omnichanel ซึ่งจะต้องสามารถรองรับการสั่งซื้อทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ได้แบบไร้รอยต่อ ลูกค้าสามารถเลือกและสั่งซื้อได้อย่างสะดวกที่สุดในทุกช่องทาง
ขณะที่การที่จะทำ Omnichanel ครั้งนี้จะสำเร็จได้ Distribution Center หรือ DC แห่งนี้จะเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้เราก้าวเข้าสู่ Omnichanel ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เราจะมีการนำเทคโนโลยีทุกรูปแบบทั้ง ML และ Ai เพื่อทำให้โซลูชั่นของเรามีความฉลาดมากขึ้น โดยจะเลือกเป็นเทคโนโลยีล่าสุดทั้งหมด เพื่อทำให้ DC แห่งนี้ช่วยส่งเสริมการเติบโตของเราได้อย่างแท้จริง
ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวจะมีทั้ง 1.WMS ระบบบริหารจัดการคลังสินค้าที่ครอบคลุมทั้งการรับสินค้า จัดเก็บและส่งมอบสินค้าได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว 2.ระบบ ASRS ระบบจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติที่จะใช้โรบอตในการจัดเรียงและหยิบสินค้า 3.Automated System for Garments ระบบการเลือกซื้อเสื้อผ้าอัตโนมัติ 4.ระบบการสั่งงานด้วยเสียง 5.ระบบการเลือกแสงสว่าง 6.ระบบรับคำสั่งซื้ออัตโนมัติ 7.ระบบจัดสรรพื้นที่คลังสินค้าอัตโนมัติ
หลังจากนี้การจัดส่งสินค้าของคู่ค้าต่างๆ สามารถส่งเข้ามาที่จุดเดียว แล้วเราสามารถกระจายสินค้าได้ตรงต่อความต้องการ โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้จากทุกที่และเลือกรับสินค้าได้จากทุกที่ทั่วประเทศเช่นกัน ผ่านระบบ eOdering หนึ่งในหลายๆเทคโนโลยีที่เราจะนำเข้ามา ทำให้การออกของจากเดิม 2-3วันจะสามารถร่นเวลาส่งสินค้าได้ภายใน 1 วัน และคาดว่าในอนาคตจะเร็วได้ 1-2ชั่วโมงเท่านั้น
เดิมทีเรามี DC อยู่ 5 แห่ง วันนี้ DC แห่งนี้จะเข้ามาตอบโจทย์เราได้ไม่น้อยกว่า 5 ปี เมื่อรวมกันจะทำให้เราสามารถทำงานได้สะดวกมากขึ้นเมื่อเรายุบรวมกัน และในอนาคตยังจะสามารถปรับแต่งเพื่อรองรับรูปแบบใหม่ๆตามการเติบที่เฉพาะเจาะจง ทั้งการเติบโตของออนไลน์และการเติบโตแบบหน้าร้าน ด้วยการออกแบบของเฟรเซอร์สที่ออกแบบมาได้อย่างยืดหยุ่นมากที่สุดในการปรับแต่งในอนาคต
นอกจากนี้เรายังตั้งเป้าให้ DC แห่งนี้เป็นอาคารอนุรักษ์พลังงานระดัยเวิร์ลคลาส รวมไปถึงการดูแลคุณภาพชีวิตของพนักงาน และการประหยัดพลังงานของตัวอาคารเองได้จากระบบโซล่าล์ลู้ปทอป ซึ่งก็จะทำให้ DC แห่งนี้เป็นอย่างที่เราตั้งใจ
โดยพลังงานไฟฟ้าแสงสว่างทั้งหมดจะใช้พลังงานจาก โซล่าร์เซลล์บนหลังคาที่เราติดตั้งไว้ นอกจากนั้นในระบบขนส่งด้วยรถยนต์เราพยายามจะปรับเปลี่ยนรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาแทนที่ ซึ่งหากเป็นไปได้เราก็จะใช้พลังงานจากโซล่าล์ลูปทอปด้วยเช่นกัน นอกจากการออกแบบตัวอาคารให้ประหยัดพลังงานอยู่แล้วด้วย
ซึ่งเราเชื่อว่า ด้วยการออกแบบที่ยืดหยุ่นและประสิทธิภาพของการประหยัดพลังงานืเราเชื่อว่าการลงทุนคีั้งนี้จะเห็นจุดคุ้มทุนได้ราว 5 ปี และจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เราเข้าสู่แพลตฟอร์ม Omnichanel ได้อย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น