วันนี้ TheReporterAsia เดินทางมาร่วมงานเปิดตัว ALL-NEW MAZDA3 เพื่อพิสูจน์หาความน่าสนใจที่จะทำให้ผู้คนตัดสินใจซื้อรถยนต์คันนี้ได้ยากหรือง่ายมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่เราค้นพบก็ไม่ผิดหวังกับเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นสำหรับการประกอบรถยนต์หนึ่งคัน และการเปลี่ยนแปลงจากมาสด้า3 เดิมที่เป็นที่ถูกอกถูกใจในใครหลายคนมาก่อนหน้านี้ จนกลายมาเป็นมาสด้า3 ที่คาดไม่ถึง แน่นอนว่าเรื่องราวของมาสด้า3 มีให้เราเล่าออกมาได้เยอะมากจนต้องขอยกมาเฉพาะประเด็นที่น่าสนใจนั่นก็คือ เรื่องของระบบความปลอดภัยของตัวรถที่ไม่ได้มองแค่ความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงความปลอดภัยของคนเดินเท้าที่ร่วมทางเป็นคู่ขนานกับการขับรถอีกด้วย โอ้วววว…สุดยอด
ก่อนที่จะไปเจาะลึกในเรื่องของความปลอดภัย ขอเกริ่นในอุดมการณ์ของการออกแบบด้านความปลอดภัยของมาสด้ากันซะก่อน ซึ่งในที่นี้มาสด้าเรียกปรัชญาการออกแบบเช่นนี้ว่า “การออกแบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน” (Mazda Proactive Safety)และตามปรัชญา ทำให้เกิดการพัฒนาที่สอดคล้องตามมาทั้ง การระบุตำแหน่งของการขับขี่ที่เหมาะสมที่สุดที่จะเกิดความปลอดภัยสูงสุดเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด รูปแบบแป้นคันเร่งที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่รับรู้แรงกดได้ดียิ่งขึ้นและการออกแบบตัวถังที่สร้างทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี i-Activsense ขั้นสูงใหม่ล่าสุด ที่ช่วยจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการขับขี่ได้ในทุกสถานะการณ์ และท้ายที่สุดเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด การออกแบบห้องโดยสารที่สามารถรับแรงกระแทกได้จากทุกทิศทางจะช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารเกิดความปลอดภัยสูงสุด
เราลองมาดูกันว่าภายใต้นวัตกรรมการออกแบบที่เรียกว่าครบขั้นตอนของการ ปกป้องและป้องกัน ตลอดจนเรื่องราวของเทคโนโลยี i-Activsense ที่จะเข้ามาอัพเกรดให้มาสด้า3 มีความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยในการขับขี่ให้กับผู้ขับ ผู้โดยสาร และคนเดินเท้าได้มากมายเพียงใด
1.ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า (CTS) เป็นระบบความปลอดภัยใหม่ที่ช่วยลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่โดยช่วยควบคุมความเร็ว เบรก และการบังคับเลี้ยวเมื่อขับรถบนทางหลวงที่มีการจราจรหนาแน่น โดยเมื่อเปิดใช้งาน CTS ระบบจะปรับความเร็วของรถให้โดยอัตโนมัติเพื่อรักษาระยะห่างที่เหมาะสมตามรถข้างหน้า นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมพวงมาลัยเพื่อให้ง่ายต่อการรักษาตำแหน่งรถให้อยู่ในเลนบนทางโค้ง ซึ่งประโยชน์ของ CTS นั้นมีประสิทธิภาพเป็นพิเศษและช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยกว่า สร้างความมั่นใจและความสะดวกสบายมากขึ้นในขณะขับรถในการจราจรหนาแน่น
2. ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support) ที่สามารถพัฒนาขึ้นจากระบบ SBS เดิม โดยสามารถตรวจจับรถคันหน้า จักรยาน รวมถึงคนเดินถนน หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการชนข้างหน้า ระบบจะส่งสัญญาณและเสียงเตือนอย่างต่อเนื่อง ถ้าผู้ขับยังไม่ทําการเบรก ระบบจะช่วยทําการเบรกให้โดยอัตโนมัติ เพื่อลดโอกาสในการชนข้างหน้า
3. ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Reverse Crossing) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง ที่เพิ่มระยะด้านข้างให้มีความแม่นยำมากขึ้น โดยการเพิ่มจำนวนเซ็นเซอร์ด้านข้างให้ครอบคลุมพื้นที่ที่มากขึ้น
4.ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง โดยระบบจะส่งสัญญาณเสียงพร้อมไฟกะพริบเตือน ที่กระจกมองข้างขณะขับรถถอยหลัง หากตรวจพบความเสี่ยงที่อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุุกับรถที่กำลังเคลื่อนที่เข้ามาด้านหลัง
5. ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake Support-Reverse) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการชนขณะขับถอยหลังด้วยความเร็วต่ำ ที่พัฒนาให้มีความสามารถตรวจจับวัตถุในวงกว้างและสูงขึ้น ด้วยจำนวนเซ็นเซอร์ที่มากขึ้น
6. ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลนช่วยให้ผู้ขับปลอดภัยขณะเปลี่ยนเลน โดยระบบจะส่งสัญญาณเตือน หากตรวจพบรถในเลนด้านข้างที่กําลังแซงขึ้นมาจากทางด้านหลังและอยู่ในจุดที่ผู้ขับ อาจมองไม่เห็น
7. ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360 degree View Monitor)
8. ระบบช่วยควบคลุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane Keep Assist System) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ในกรณีที่ตรวจพบ การเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ ระบบจะส่ง สัญญาณเตือนหรือเตือนโดยการสั่นที่พวงมาลัย และช่วยปรับทิศทางพวงมาลัยให้รถกลับเข้าสู่เลน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุุ และเพิ่มความ ปลอดภัยในการเดินทางไฟต่ำมุมกว้าง เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่
9. ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)เป็นระบบการเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน โดยระบบจะส่งสัญญาณเตือนเป็นไฟกะพริบบนหน้าปัด พร้อมส่งเสียงเตือน เมื่อตรวจพบการเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ จากการเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ
10. ระบบเตือนเมื่อเกิดความอ่อนหล่าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert) เป็นระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการขับรถทางไกล ซึ่งระบบจะทำการติดตามพฤติกรรมและสมาธิในการขับจากสภาพโดยรวมของการขับขี่ทั้งหมด หากตรวจพบความผิดปกติของพฤติกรรมการขับขี่บางอย่าง หรือขับขี่ติดต่อกันนาน ระบบจะขึ้นข้อความแนะนําให้หยุดพักทันที
11. ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control) เป็นระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ พร้อมปรับระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า หากพบรถคันหน้าที่มีความเร็วน้อยกว่า ระบบจะทำการปรับลดความเร็วลงตามความเร็ว ของรถคันหน้าและรักษาระยะห่างกับรถคันหน้าให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ โดยผู้ขับสามารถปรับตั้งค่าระยะห่างจากรถคันหน้าได้จากสวิตช์ที่พวงมาลัย โดยระบบจะกลับไปใช้ความเร็วเดิมที่กำหนดไว้ทันทีเมื่อตรวจสอบแล้วว่าไม่มีรถอยู่ด้านหน้า
12. ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (ALH) เป็นระบบช่วยผู้ขับที่ในการปรับปรุงทัศนวิสัยการขับขี่ในเวลากลางคืน อาทิ 2.1ไฟสูงที่ส่องไปที่รถคันหน้าสามารถลดแสงจ้าได้โดยอัตโนมัติ 2.2ไฟต่ำแบบลำแสงกว้างที่จะช่วยส่องสว่างพื้นที่ได้กว้างขึ้น และ 2.3 โหมดทางหลวง ที่จะเปลี่ยนมุมของแสงที่เกิดจากไฟหน้าให้สูงขึ้น เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วบนทางหลวง 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือสูงกว่า
โดยเทคโนโลยีระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะนี้ จะถูกนำมาใช้กับ ALL-NEW MAZDA3 ซึ่งเป็นการพัฒนาช่วงและระยะของการส่องสว่างของไฟสูงที่ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า ชุดของไฟแอลอีดีแต่ละดวงสำหรับไฟสูงที่สามารถลดแสงจ้า จะถูกแบ่งละเอียดมากขึ้นเป็น 20 ดวงอยู่ภายใน ซึ่งสามารถเปิดหรือปิดได้อย่างอิสระ บริเวณที่ไฟส่องแต่ละส่วนจะถูกปิดเมื่อตรวจพบว่ามีรถกำลังจะวิ่งมาถึง แต่ยังทำให้สามาถมองเห็นคนเดินถนนได้เนื่องจากการแบ่งลำแสงที่ละเอียดมากขึ้น อีกท้ั้งระบบยังสามารถกำหนดลำแสงของไฟสูงได้สามรูปแบบที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับความเร็วของรถและมีการควบคุมทิศทางของแสงไฟซึ่งขึ้นกับองศาของการหมุนพวงมาลัย การปรับแสงที่ละเอียดและนุ่มนวลยิ่งขึ้นนี้จะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยเมื่อเข้าโค้งเพื่อควบคุมพื้นที่ที่มีความส่องสว่างได้แม่นยำยิ่งขึ้น
13. การออกแบบ ALL-NEW MAZDA3 เน้นที่สถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุและการบาดเจ็บในหลากหลายรูปแบบ โดยทำการศึกษาและวิจัยมนุษย์อย่างละเอียด เพื่อปกป้องผู้โดยสารและคนเดินเท้าในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น ถึงแม้ว่ารถยนต์จะสร้างด้วยเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ (Ultra-high-tensil steel) แต่ตัวถังยังคงมีโครงสร้างเพื่อดูดซับพลังงานกระแทกได้ดีขึ้น ขณะที่การตกแต่งภายในยังใช้โครงสร้างป้องกันที่ถูกพัฒนาขึ้นตามลักษณะทางกายภาพของมนุษย์เพื่อลดการบาดเจ็บ ความก้าวหน้าเหล่านี้ถือเป็นวิวัฒนาการที่สำคัญของประสิทธิภาพความปลอดภัยเชิงปกป้องใน ALL-NEW MAZDA3
14. ตัวถังที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแกร่งสูง การออกแบบให้มีความแข็งแรงเพียงพอที่จะรองรับแรงกระแทกและสามารถมที่ดูดซับพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการดูดซับและกระจายพลังงานกระแทกจากด้านหน้า ด้านข้าง หรือด้านหลัง จะทำให้การเสียรูปของห้องโดยสารเกิดขึ้นน้อยที่สุด
15. อัตราส่วนของเหล็กกล้าที่มีความแข็งเป็นพิเศษ(Ultra-high-tensil steel) ที่ 980 เมกะพาสคาลที่ถูกนำมาประกอบรถยนต์ เพิ่มขึ้นจาก 3% จากที่ใช้ในรุ่นก่อนหน้าเป็น 30% สำหรับ ALL-NEW MAZDA3
16. รถยนต์คันแรกในโลกที่นำหล็กกล้าที่มีความแข็งเป็นพิเศษเกรด 1,310 เมกะพาสคาล มาประกอบรถยนต์ โดยการใช้งานที่หลากหลายของเหล็กกล้าที่มีความแข็งเป็นพิเศษนี้ทำให้ตัวรถมีโครงสร้างที่แข็งแรงและน้ำหนักเบาอย่างน่าทึ่ง
17. โครงสร้างลดแรงกระแทกเป็นพิเศษจากด้านหน้า เพื่อรับมือกับการกระแทกหลากหลายรูปแบบทางด้านหน้ารถ ตัวถังถูกพัฒนาไปใช้โครงสร้างที่มีการเชื่อมอย่างต่อเนื่องกันทั้งคันและโครงสร้างแบบตรง เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า คานกันชนถูกขยายออกไปที่ปลายแต่ละด้านและเพิ่มคานที่กรอบตัวถังใหม่ โครงสร้างนี้จะช่วยลดแรงกระแทกที่เกิดขึ้นเมื่อเกิดการประทะกันกับรถตรงข้ามในแบบเหลื่อม เพื่อรองรับการชนเช่นนี้ ซึ่งจะมีการเหลื่อมกันเล็กน้อยกับยานพาหนะที่มาชนหรือสิ่งกีดขวาง ปลายด้านขวาและซ้ายของคานโดยรอบจะได้รับการออกแบบอย่างระมัดระวังเพื่อกระจายพลังงานไปยังชิ้นส่วนที่รับแรง เส้นทางการเดินของแรงได้ถูกออกแบบใหม่เพื่อส่งพลังงานกระแทกไปทางด้านหลังของรถไปตามชิ้นส่วนที่รับแรง นอกจากนี้ ALL-NEW MAZDA3 ยังใช้โครงสร้างเฟรมด้านหน้าแบบโค้งงอที่รับแรงกระแทกและค่อย ๆ ดูดซับพลังงานเพื่อให้ได้คุณสมบัติการดูดซับพลังงานที่มีประสิทธิภาพสูง
18. ป้องกันการกระแทกด้านข้าง ตัวถังถูกสร้างขึ้นเพื่อรับความรุนแรงจากการกระแทกในหลากหลายทิศทางและหลายจุด และเพื่อช่วยลดการเสียรูปของห้องโดยสารโดยกระจายพลังงานนั้นไปยังด้านหน้าและด้านหลังของยานพาหนะ ตัวอย่างเช่นวัสดุบานพับประตูถูกเปลี่ยนจากเหล็กกล้าเกรด 590 เมกะพาสคาล เป็นเหล็กกล้าที่มีความแข็งเป็นพิเศษ (Ultra-high-tensil steel) เกรด 780 เมกะพาสคาล บานพับหนาขึ้นซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแรง
19. การออกแบบเสาที่แข็งแกร่งขึ้น โดยตัวถังด้านหลังเพิ่มความแข็งแกร่งด้วยวิธีการประกอบแบบ hot-stamped บริเวณเสาบี และเพิ่มความแข็งแรงให้มากขึ้นด้วยการประกอบแบบ multifaceted cross-section ที่เสาบี เสาข้าง และหลังคา จากการเพิ่มความแข็งแรงของวัสดุด้วยกรรมวิธีการผลิต แทนที่จะใช้เหล็กมากขึ้นเพื่อเสริมแรงที่ไม่จำเป็น เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับพลังงานในขณะที่น้ำหนักตัวถังลดลง
20. เฟรมด้านหลังยุบตัวได้แบบหีบเพลง ALL-NEW MAZDA3 ได้รับการออกแบบเฟรมด้านหลังให้สามารถยุบตัวได้แบบเดียวกับลักษณะการยุบตัวของหีบเพลง (Accordion-style pattern) ในกรณีที่เกิดการชน โดยโครงสร้างนี้จะเพิ่มระดับการดูดซับพลังงานเป็นสองเท่าจากรุ่นก่อนหน้าได้โดยไม่ต้องเพิ่มน้ำหนัก และยังคงมีความปลอดภัยจากการชนในระดับสูง อีกทั้งยังช่วยเสริมสมรรถนะของการขับขี่ดียิ่งขึ้น และส่งผลให้การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นด้วย
21. ระบบถุงลมนิรภัย SRS โดยนอกเหนือจากถุงลมนิรภัยด้านหน้า ด้านข้าง และม่านนิรภัยเป็นอุปกรณ์มาตรฐานแล้ว ALL-NEW MAZDA3 ยังเป็นรถมาสด้ารุ่นแรกที่ติดตั้งถุงลมนิรภัยที่หัวเข่าของผู้ขับขี่ และเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกตลาด เพื่อช่วยยับยั้งการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าของร่างกายคนขับในกรณีที่เกิดการชน ถุงลมนิรภัยใหม่นี้จะช่วยลดโอกาสการบาดเจ็บที่ขา หน้าอก และหน้าท้องของผู้ขับขี่ จากการศึกษาการออกแบบถุงลมนิรภัยด้านข้าง พบว่าในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุกระดูกซี่โครงของผู้ขับขี่มีโอกาสได้รับการบาดเจ็บมากเป็นพิเศษ ถุงลมนิรภัยด้านข้างจึงแบ่งออกเป็นส่วนหน้าและส่วนหลังแยกจากกันเพื่อปกป้องกระดูกซี่โครงได้ดียิ่งขึ้น การตั้งค่าความดันที่ต่ำกว่าสำหรับถุงลมนิรภัยด้านข้างส่วนหน้าและความดันที่สูงขึ้นสำหรับถุงลมนิรภัยด้านข้างส่วนหลังจะช่วยลดแรงที่กระดูกซี่โครงจะได้รับจากถุงลมนิรภัยด้านข้างและช่วยให้ร่างกายอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง
22. เบาะนั่งด้านหน้าออกแบบมาเพื่อลดการบาดเจ็บที่คอ ด้วยการจำกัดการเคลื่อนที่ของเบาะนั่งเมื่อเกิดการชน โครงสร้างของรางเลื่อนเบาะนั่งและจุดยึดของตัวปรับความสูงเบาะนั่งถูกปรับปรุงเพื่มเพิ่มความแข็งแรงของเบาะนั่ง เฟรมด้านข้างใช้โครงสร้างที่ออกแบบมาเพื่อดูดซับพลังงาน ลดการเคลื่อนที่ของพนักพิงหลังเพิ่อช่วยลดโอกาสการบาดเจ็บที่คอของผู้โดยสารจากการเคลื่อนของศีรษะ หน้าอก และกระดูกเชิงกรานให้น้อยที่สุด
23. เข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ โดยเข็มขัดจะรัดแน่นขึ้นในจังหวะที่เกิดการชนและผ่อนแรงอัตโนมัติ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า นอกจากนี้จุดยึดเข็มขัดนิรภัยด้านล่างของเบาะนั่งด้านหน้าถูกย้ายตำแหน่งมาติดตั้งที่เบาะนั่ง เพื่อที่จะรักษาความกระชับของเข็มขัดนิรภัยให้คงที่โดยไม่คำนึงถึงระยะตำแหน่งที่นั่งและทำให้เข็มขัดนิรภัยช่วยรั้งผู้โดยสารได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นเมื่อเกิดการชน
24. การป้องกันศีรษะของคนเดินเท้า โดยช่องว่างระหว่างฝากกระโปรงและเครื่องยนต์ใน ALL-NEW MAZDA3 ได้ถูกออกแบบมาเพื่อลดการบาดเจ็บที่ศีรษะของคนเดินเท้าในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งด้านในของฝากระโปรงยังใช้โครงสร้างที่ช่วยดูดซับพลังงานแบบใหม่ที่มีรูปแบบของโครงสร้างคู่ขนานบริเวณใต้ฝากระโปรง พลังงานจากการกระแทกจะถูกดูดซับโดยตรงในจังหวะแรกของการกระแทกและจากนั้นค่อย ๆ กระจายออกไป เพื่อช่วยให้การดูดซับพลังงานอย่างรวดเร็วมากขึ้น
25. การป้องกันขาของคนเดินเท้า เพื่อลดโอกาสในการบาดเจ็บที่ขาของคนเดินเท้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น กันชนหน้าของ ALL-NEW MAZDA3 ซึ่งใช้ชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติกติดตั้งอยู่ที่ส่วนบนและชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติกวางอยู่ด้านหน้าคานกันกระแทก เพื่อรองรับต้นขาและหน้าแข้งเมื่อเกิดการชน ช่วยให้การกระแทกที่เข่านุ่มลง โครงสร้างนี้มีส่วนช่วยลดโอกาสการบาดเจ็บที่หัวเข่าและเอ็นที่เกิดจากการชน
เป้าหมายของมาสด้าคือการสร้างรถที่เจ้าของรู้สึกถึงการปกป้องเป็นอย่างดี
ทั้งนี้เป้าหมายการพัฒนาด้านความปลอดภัยสำหรับ ALL-NEW MAZDA3 คือการสร้างความมั่นใจให้กับทุกคนในรถ ตั้งแต่ผู้ขับขี่ไปจนถึงผู้โดยสารด้านหน้า รวมถึงผู้โดยสารที่นั่งด้านหลังและคนเดินเท้าด้วย มาสด้าจึงใช้ความรู้ที่สะสมมานานหลายปีและผสมผสานเทคโนโลยีขั้นสูงที่หลากหลาย เพื่อสร้างสิ่งที่ดีที่สุดให้กับ ALL-NEW MAZDA3 เมื่อผู้ขับขี่รู้สึกเหนื่อยล้า อาจทำให้รู้สึกกังวลในการขับรถ บางคนอาจรู้สึกไม่สบายใจเมื่อนึกถึงการขับรถ มาสด้าต้องการให้ผู้คนเหล่านี้มั่นใจได้ว่า ALL-NEW MAZDA3 ให้การปกป้องพวกเขาได้ดี ความเชื่อมั่นนี้เชื่อมต่อโดยตรงกับความรู้สึกมั่นใจในการขับขี่ ไม่มีอะไรที่มาสด้าต้องการมากกว่าการช่วยให้ลูกค้าค้นพบความสุขที่แท้จริงของการขับขี่
โดยราคาจำหน่าย ALL-NEW MAZDA3 ทั้งรุ่นฟาสท์แบค 5 ประตู และซีดาน 4 ประตู จำหน่ายในราคาเดียวกัน แต่แบ่งตามขนาดเครื่องยนต์ ได้แก่ 1.ALL-NEW MAZDA3 รุ่น 2.0 C จำหน่ายในราคา 969,000 บาท 2.ALL-NEW MAZDA3 รุ่น 2.0 S จำหน่ายในราคา 1,069,000 บาท และ 3.ALL-NEW MAZDA3 รุ่น 2.0 SP จำหน่ายในราคา 1,198,000 บาท