แคนนอน เดินหน้าส่งเครื่องพิมพ์​อิงค์เจ็ต​สู่ B2B

แคนนอน เดินหน้าส่งเครื่องพิมพ์​อิงค์เจ็ต​สู่ B2B

แคนนอน อวดเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ใหม่แบบหัวพิมพ์เต็มแผ่นกระดาษ ช่วยเพิ่มความเร็วในการพิมพ์ พร้อมน้ำหมึกพิเศษแบบแห้งเร็ว ลดอาการเปียกชื้นแบบไร้ความร้อน ซึ่งเป็นปัญหาหลักของการพิมพ์​อิงค์เจ็ต​มาอย่างยาวนาน ยกระดับเครื่องอิงค์เจ็ต​สู่ธุรกิจ 4.0 ได้อย่างไร้รอยต่อ มั่นใจเพิ่มยอดขายได้กว่า 112% ตลอดปี 2562

นายฮิโรชิ โยโกตะ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ่ง (ไทยแลนด์)​ จำกัด กล่าวว่า ตลาดในประเทศไทย แตกต่างจากประเทศโดยรอบอยู่พอสมควร เนื่องจากขนาดของตลาดอิงค์เจ็ต​ที่กลับกัน โดยประเทศไทยจะมีขนาดตลาดอิงค์เจ็ต​ที่ใหญ่กว่าตลาดอย่างเวียตนาม 

ผมคิดว่าในเวียตนามนั้น สมัยก่อนมีความเข้มงวดของรัฐบาลที่ห้ามทำสำเนากับเอกสาร อีกทั้งด้วยราคาเครืาองที่แพงทำให้การใช้เอกสารเกิดขึ้นโดยหน่วยงานรัฐเป็นหลัก และเริ่มส่งต่อมาสู่ภาคเอกชน ทำให้ตัวเลขของกลุ่มเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ได้รับความนิยมมากกว่าอิงค์เจ็ต​แตกต่างจากประเทศไทยที่เราเริ่มใช้งานจากอิงค์เจ็ต​มาแต่ดั้งเดิม

ด้วยการเติบโตมาอย่างต่อเนื่องของกลุ่มผู้ใช้โฮมยูสทำให้ตลาดเริ่มมีการชะลอตัว แต่กระนั้นด้วยเทคโนโลยีใหม่ของอิงค์เจ็ต​พริ้นเตอร์ที่สามารถขยับเข้าสู่ตลาด B2B ได้อย่างดียิ่งขึ้น แคนนอน มาเก็ตติ้ง​ไทยแลนด์ เริ่มมองเห็นตลาดที่กำลังเติบโต​ขึ้นของกลุ่ม B2B ในหลายๆเซ็กเมนต์ธุรกิจ และทำให้เราเปิดตัวเครื่องพิมพ์​อิงค์เจ็ต​สำหรับกลุ่มธุรกิจ B2B ในวันนี้

อิงค์เจ็ต
นางสาวเนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์​พริ้นเตอร์ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ่ง (ไทยแลนด์)​ จำกัด

ด้านนางสาวเนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์​พริ้นเตอร์ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ่ง (ไทยแลนด์) ​จำกัด กล่าวว่า อิงค์เจ็ตเทคโนโลยีเริ่มพัฒนาขยับเข้าสู่กลุ่มธุรกิจ B2B มากขึ้น ด้วยเทคนิคการพิมพ์เปลี่ยนไปจากเดิมที่เป็นหัววิ่งตามกระดาษ ได้พัฒนากลายเป็นหัวพิมพ์เต็มหน้ากระดาษทำให้พิมพ์ได้โดยไม่ต้องขยับหัวพิมพ์อีกต่อไป 

โดยวันนี้เรามีการเปิดตัวในกลุ่มอิงค์​เจ็ตใหม่ G Series ที่เราเปิดตัวใหม่ 3 รุ่นได้แก่ G6070 เหมาะกับธุรกิจขนาดกลางที่ต้องการร่วมกันใช้งานราว 5-10 คน รองรับการเชื่อมต่อที่เพิ่มขึ้นเพื่อการใช้งานที่คล่องตัว G5070 เหมาะกับธุรกิจขนาดใหญ่อย่างเอเจนซี่​ในด้านต่างๆ ที่ต้องการพิมพ์​งานหลากหลายรูปแบบ และ GM2070 ที่เหมาะกับร้านค้าปลีกออนไลน์หรือธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็ก รองรับการพิมพ์​ได้ราว 8,300 หน้าต่อหมึก 1 ขวด 

อิงค์เจ็ต​
Canon WG7750F

และซีรี่ย์เครื่องพิมพ์​อิงค์เจ็ต​ขนาดใหญ่ใน WG Series​ ได้แก่รุ่น WG7740 เหมาะกับธุรกิจขนาดใหญ่อย่างเอเจนซี่​ในด้านต่างๆ ที่ต้องการพิมพ์​งานหลากหลายรูปแบบ WG7750F เหมาะสำหรับกลุ่มธุรกิจองค์กรขนาดใหญ่ ภาคราชการ หรือกลุ่มธุรกิจโปรดักส์​ชั่นที่ต้องการแบบพิมพ์​เขียว หรือแบบจำลองผังเมือง

เครื่องพิมพ์​อิงค์เจ็ต​ในรุ่น  G Series นี้จะมาพร้อมตลับหมึกขนาดใหญ่​สำหรับกลุ่มธุรกิจโดยเฉพาะ ด้วยตลับหมึกที่มีขนาดใหญ่ขึ้นนี้ ทำให้เราสามารถพิมพ์ได้สูงสุด 20,000 แผ่นในสีดำ และพิมพ์ได้สูงสุด 16,000 แผ่นต่อการพิมพ์สี

อิงค์เจ็ต​
Canon PIXMA G6070

ขณะที่เทคโนโลยี​อิงค์เจ็ตยังใช้น้ำหมึกอยู่ซึ่งหมายถึงการไม่ปล่อยฝุ่นควันออกมาระหว่างพิมพ์ เทคโนโลยีอิงค์เจ็ตจึงยังสามารถตอบโจทย์ได้อย่างดี อีกทั้งยังมีพาร์ทกระดาษที่สั้นช่วยลดอาการกระดาษติดได้อย่างดีเยี่ยม และท้ายที่สุดเป็นเครื่องพิมพ์​ที่ผลิตด้วยวัสดุน้อยชิ้นทำให้ลดปัญหาหารซ่อมบำรุงได้เป็นอย่างดี

พิสูจน์ได้จากยอดขายที่เพียงครึ่งปีแรก เรามียอดขายอยู่ที่กว่า 104, 000 เครื่อง และในปีนี้เราคาดว่าจะมียอดขายทั้งปีอยู่ที่ราว 2.4 แสนเครื่องสำหรับกลุ่มโฮมยูส และกลุ่ม B2B จะยังมีเวลาในการขายเหลืออยู่ราว 4 เดือนหลังจากเปิดตัวในวันนี้

อิงค์เจ็ต​
Canon PIXMA G5070

จุดเด่นจองเครื่องพิมพ์​อิงค์เจ็ต​ของแคนนอนคือการพัฒนาน้ำหมึกกันน้ำที่มีตัวทำละลายเป็นพิเศษ เพื่อช่วยให้น้ำหมึกแห้งได้เร็วโดยไม่ต้องใช้การเพิ่มความร้อนเข้าช่วย ทำให้ปัญหาของกระดาษที่เป็นแนวโค้งไม่เกิดขึ้นกับอิงค์เจ็ต ​G Series แตกต่างจากของคู่แข่งที่เพิ่มความร้อนเข้าไปในตัวเครื่องเพื่อทำให้หมึกแห้งเร็วขึ้น

นอกจากเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ต​เทคโนโลยีใหม่ที่มีต้นทุนการพิมพ์​ต่ำเพียงแค่  3 สตางค์เท่านั้นแล้ว เรายังพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งกว่า 1,200 รายทั่วประเทศ พร้อมศูนย์​บริการ​หลังการขายกว่า 120 แห่งทั่วประเทศ และยังมีแผนขยายเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตของยอดขายในอนาคต

อิงค์เจ็ต​
Canon PIXMA GM2070

ทั้งนี้แคนนอนมียอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์​อิงค์เจ็ต​นับตั้งแต่เดือนมกราคม -​ สิงหาคม​ ปี 2562 จำนวน 238,720 เครื่อง ครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 ถึงกว่า 40% ทิ้งห่างคู่แข่งเบอร์สองที่มีส่วนแบ่งอยู่ราว 28% เท่านั้น และด้วยเป้าหมายใหม่ของการเข้าสู่ตลาด B2B แคนนอนตั้งเป้าว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายได้กว่า 420,000 เครื่อง เพิ่มขึ้นกว่า 112% ภายในปี 2562 นี้อย่างแน่นอน

Related Posts