ความเคลื่อนไหวล่าสุดของวงการสตาร์ทอัพไทย มีการพูดถึงดีลการซื้อขาย dtac accelerate ศูนย์บ่มเพาะสตาร์ทอัพ หนึ่งเดียวของไทยที่นับว่าเป็นศูนย์สำหรับการเริ่มต้นสตาร์ทอัพที่แท้จริงในระดับเอเชีย โดยมีกระแสข่าวว่าการซื้อขายครั้งนี้จะเป็นการซื้อทั้งโครงการ dtac accelerate ซึ่งจากการประเมินมูลค่าของโครงการพร้อมการลงทุนไปแล้วในสตาร์ทอัพต่างๆน่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท และหากข่าวลือนี้เป็นจริงก็น่าจะดีลซื้อขายศูนย์บ่มเพาะที่มีมูลค่ามากที่สุดในเอเชียก็ว่าได้
ทั้งนี้ dtac accelerate เกิดขึ้นราวปี 2555 จากจุดเริ่มต้นของการกลับมาเมืองไทยของ กระทิง – เรืองโรจน์ พูนผล ผู้ที่คร่ำหวอดอยู่ในซิลิคอน แวลลีย์มากว่า 7 ปี และมารับตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการด้านนวัตกรรมไอที dtac Accelerate ซึ่งเป็นโครงการหนึ่งของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค และยังได้รวบรวมผู้มีศักยภาพเข้ามาเป็นแนวร่วมอีกราว 6 คน เพื่อภารกิจสำคัญในการผลักดันสตาร์ทอัพของไทยไปสู่การเป็นยูนิคอร์นที่มีมูลค่ากิจการไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านเหรียญ
การเกิดขึ้นของ dtac accelerate เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ผลักดันสตาร์ทอัพทั่วเมืองไทย มีการพูดถึงทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน พร้อมๆกัลแนวคิดที่ผลักดันประเทศไทยสู่ยุค ประเทศไทย 4.0 ซึ่งจะเป็นการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาประเทศอย่างจริงจัง อีกทั้งยังเกิดความร่วมมือด้านการบ่มเพาะ การลงทุน ตลอดจนการสร้างเสริมองค์ความรู้ด้านดิจิทัลกันอย่างแพร่หลาย พอๆกับการขยายตัวของเทคโนโลยีออกจากเมืองสู่ชนบทเพื่อเป็นเครื่องมือหนึ่งของสร้างสรรค์ธุรกิจมากยิ่งขึ้น
dtac accelerate จึงนับเป็นหนึ่งในโครงการที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของประเทศไทย เป็นโครงการที่เหล่าสตาร์ทอัพพูดได้เต็มปากว่าเป็นโรงเรียนที่เหล่าผู้กล้าที่มีความฝันได้เข้ามาบ่มเพาะความเป็นผู้ประกอบการร่วมกัน และสร้างความฝันได้อย่างที่ตั้งใจด้วยการช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดจากโครงการ ทั้งจากงาน bootcamp ระดับโลก, เงินลงทุน, พื้นที่ทำงานฟรี, การสนับสนุนด้านประชาสัมพันธ์, คำแนะนำด้านกฏหมาย, ความร่วมมือ และการผลักดันด้านการตลาด ด้วยภารกิจสำคัญที่ต้องการสร้างยูนิคอร์นให้เกิดขึ้นในประเทศไทย
dtac accelerate ยังได้ลงทุนไปแล้วใน 60 ทีมจาก 7 batch ที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 7 พันล้านบาท โดย 70% ของสตาร์ทอัพที่ลงทุนไป ได้รับการลงทุนต่อเนื่องจากนักลงทุนทั้งในไทยและในภูมิภาค และทำให้ศูนย์บ่มเพาะแห่งนี้เป็นหนึ่งใน accelerator house ที่ได้รับการลงทุนมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ ปัจจุบัน สตาร์ทอัพในโครงการอยู่ในขั้น Exit 1 ทีม Series A 8 ทีม และ Seed 26 ทีม
และแม้ว่า dtac accelerate จะเป็นหนึ่งในโครงการที่เกิดขึ้นภายใต้บริษัทโทรคมยักษ์ใหญ่อย่างเทเลนอร์ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้นการส่งเสริมธุรกิจนอกสายโทรคมนาคมแต่อย่างใด ซึ่งเปิดกว้างสำหรับสตาร์ทอัพในทุกขั้น ไม่ว่าจะมีแค่ไอเดียหรือมาพร้อมกับผลิตภัณฑ์ที่มีผู้ใช้งานแล้ว ก็พร้อมที่จะช่วยให้ทุกกิจการก้าวขึ้นสู่ระดับต่อๆไป และยังเปิดโอกาสให้ทุกๆกลุ่มอุตสาหกรรมของเทคโนโลยีได้เข้ามาบ่มเพาะหากผ่านขั้นตอนมาได้ ทำให้สตาร์ทอัพใน portfolio มีตั้งแต่ Agritech (เทคโนโลยีทางการเกษตร) Edtech (เทคโนโลยีทางการศึกษา) ไปจนถึง Deep Tech (เทคโนโลยีเชิงลึก) และ Fintech (เทคโนโลยีทางการเงิน)
ทั้งนี้ดีลการซื้อขายที่จะเกิดขึ้น คาดว่าจะเป็นกลุ่มทุนคนไทยที่เคยมีประสบการณ์ของการทำโครงการศูนย์บ่มเพาะสตาร์ทอัพมาแล้วในประเทศไทย และสามารถจบดีลในขั้นตอนการเจรจากันแล้วเป็นที่เรียบร้อย เหลือเพียงการทำเอกสารที่คาดว่าจะจบในเร็ววันนี้ โดยกระแสข่าวลือดังกล่าวมองว่าดีลนี้จะเป็นการซื้อกลุ่มนักปั้นสตาร์ทอัพที่มีเป้าหมายหลักอย่าง นายสมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ ซึ่งเป็นเสมือนหัวหอกสำคัญของศูนย์บ่มเพาะแห่งนี้ นับตั้งแต่นายกระทิง ออกจากดีแทค เพื่อไปรับตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของเว็บไซต์ Ensogo ในราวกลางปี 2013 และนับว่าเป็นดีลการซื้อขายที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียก็ว่าได้ คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่าดีลนี้จะเป็นเพียงข่าวลือหรือไม่ และเมื่อซื้อขายแล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรต่อวงการสตาร์ทอัพไทยในอนาคต